• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 26 สิงหาคม 2563

    26 สิงหาคม 2563 | Economic News
 

· ดอลลาร์อ่อนค่าก่อนทราบถ้อยแถลงประธานเฟดจากความกังวลเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวในทิศทางอ่อนค่าท่ามกลางเทรดเดอร์ที่จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ และถ้อยแถลงประธานเฟด

หยวนแข็งค่ามากสุดรอบ 7 เดือน หลังจากที่ตัวแทนการค้าสหรัฐฯ-จีน มุ่งมั่นที่จะทำตามข้อตกลงเฟสแรก จึงช่วยคลายกังวลเกี่ยวกับท่าทีตึงเครียดทางการทูตของสองประเทศ ขณะที่ดอลลาร์เมื่อวานนี้ได้รับแรงกดดันจากข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ทำต่ำสุดรอบกว่า 6 ปี จากความกังวลเกี่ยวกับเรื่องการตกงาน

เทรดเดอร์จับตาถ้อยแถลงประธานเฟดพรุ่งนี้ ณ การประชุมแจ็กสันโฮล ว่าเฟดจะมีความตั้งใจในการจะปกป้องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างไร

หัวหน้าฝ่ายการตลาดจาก MUFG Bank คาดว่า นายโพเวลล์จะใช้การส่งสัญญาณชี้นำในเชิงการผ่อนคลายทางการเงิน และการคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ ที่อาจกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงได้ ขณะที่ระยะยาวอาจเห็นดอลลาร์ปรับฐานจากการที่ดอลลาร์แข็งค่ามากเกินไป

ค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.1816 ดอลลาร์/ยูโร หลังดิ่งลง -0.4% วานนี้

ค่าเงินปอนด์แข็งค่า 0.7% ที่ 1.3138 ดอลลาร์/ปอนด์ โดยตลาดยังปราศจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าร่วมกันของอังกฤษกับอียู

เงินเยนทรงตัวที่ 106.43 เยน/ดอลลาร์

คืนนี้จะมีการประกาศข้อมูลยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนก.ค. ของสหรัฐฯในช่วงเวลาประมาณ 19.30น.

ค่าเงินหยวนปรับแข็งค่า 6.9002 หยวน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสูงสุดในรอบ 7 เดือน หลังสหรัฐฯ-จีนมีสัญญาเชื่อมั่นที่ดีต่อข้อตกลงการค้า


· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางตลาดหุ้นที่สูญเสีย momentum บางส่วน

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นมาบริเวณ 0.7177% ขณะที่อัตราผลตอบแทนอายุ 30 ปี ปรับขึ้นมาที่ 1.4238%

สำหรับวันพรุ่งนี้ตลาดให้ความสนใจไปยังถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ในการประชุมธนาคารกลางประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล, รัฐไวโอมิง และยังคงให้ความสนใจไปยังความคืบหน้าเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาและข่าวเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน


· ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาในอินเดียทะลุ 3.2 ล้านราย

· RKI ชี้ เยอรมนียืนยันพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่ม 1,576 ราย สู่ระดับ 236,429 ราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3 ราย สู่ระดับสะสมที่ 9,280 ราย

· พม่าพบรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายวันมากที่สุด

พม่าพบจำนวนยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาใหม่จำนวน 70 รายในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นรายวันที่มากที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้


· ออสเตรเลีย เผยแผนการรักษา COVID-19 ด้วยแอนตี้บอดี้น่าจะเริ่มได้ในช่วงต้นปีหน้า

ทีมนักวิจัยของออสเตรเลียแสดงความคาดหวังที่จะเริ่มทำการทดสอบวิธีรักษาผู้ป่วย Covid-19 ด้วยกระบวนการแอนตี้บอดี้ในช่วงต้นปี 2021 ขณะที่การทดสอบวัคซีนขนานใหญ่อาจเริ่มต้นได้ในช่วงสิ้นปีนี้

โดยเป้าหมายของงานวิจัยนี้คาดจะเกิดขึ้น ณ รัฐวิคทอเรียซึ่งเป็นจุดแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาของประเทศ ซึ่งสถาบัน Walter ของเมืองเมลเบิร์น และสถาบัน Eliza Hall Institute ดูจะเห็นถึงความคืบหน้าเชิงบวกมากขึ้นของการรักษาด้วยแอนตี้บอดี้ที่แข็งแกร่งที่ดูจะสามารถต่อต้านเชื้อไวรัส Covid-19 ได้ ด้วยการหยุดความสามารถในการเข้าสู่ตัวมนุษย์

นอกจากนี้ การรักษาด้วยแอนตี้บอดี้นั้นอาจเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ

ทั้งนี้ เกือบ 64% ของผู้เสียชีวิตในออสเตรเลียด้วย Covid-19 จำนวน 549 ราย วนใหญ่มีการพักอาศัยในบ้านพักคนชราในรัฐวิคทอเรีย

ดังนั้น กระบวนการรักาดังกล่าวจึงค่อนข้างเป็นที่คาดหวังจะสามารถเห็นการทดสอบได้ในช่วงต้นปีหน้า


· ออสเตรเลียหนุนงบประมาณด้านการป้องกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับ COVID-19

ออสเตรเลียจะมีการสนับสนุนงบประมาณด้านการป้องกันวงเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (716.8 ล้านเหรียญ) เพื่ออัพเกรดยุทโธปกรณ์ทางทหาร รวมทั้งจะมีการเสนอจ่ายเงินค่าจ้างเพิ่มเติมแก่ทหารกองหนุน ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตไวรัสโคโรนา

สำหรับการเปิดเผยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่นี้ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีการให้คำมั่นว่าจะเพิ่มค่าใช้จ่ายในด้านการป้องกันเพิ่มขึ้นทางทหาร รวมถึงสนับสนุนการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีก 4,000 ตำแหน่ง


· รัฐบาลฝรั่งเศสจะทำการเผยแผนเศรษฐกิจในวันที่ 3 ก.ย.นี้

นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส กล่าวว่ารัฐบาลฝรั่งเศสจะทำการเผยแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจในวันที่ 3 ก.ย. นี้ และรัฐบาลยังกล่าวเมื่อวันเสาร์อีกว่า จะนำเสนอรายละเอียดของเงิน 1 แสนล้านยูโร หรือ 1.18 แสนล้านเหรียญ


· ที่ปรึกษารัฐบาลฝรั่งเศส ชี้ Second Wave อาจกระทบฝรั่งเศสพ.ย. นี้

การระบาดของไวรัสโคโรนาในรอบที่ 2 อาจส่งผลกระทบต่อประเทศฝรั่งเศสในเดือนพ.ย. ท่ามกลางเมืองมาร์แซลที่ยังคงบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อต่อสู้กับการระบาในเวลานี้ และน่าจะส่งผลให้บาร์และร้านอาหารจะมีเวลาเปิดให้บริการที่น้อยลง


· โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นชี้ ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงช่วงหลังจากยุคของอาเบะ

หัวหน้าโฆษกคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวเกี่ยวกับยุคการเมืองต่อไป หลังจากที่นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะหมดวาระดำรงตำแหน่งในปีหน้า ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินงานของเขาหลังจากที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลถึง 2 ครั้ง


· อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูง IMF กล่าวว่า สหรัฐฯ-จีน ไม่สามารถยุติความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจได้

อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ IMF มีมุมมองว่าการตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯและจีน ไม่สามารถเป็นไปได้ แต่การที่จะย้ายศูนย์กลางของระบบการค้าจากสหรัฐฯไปยังจีนมีความเป็นไปได้

ทั้งนี้ เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศนี้ยังคงเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด จึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับทั้งสองประเทศ ที่จะหยุดการติดต่อกัน

ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่จีนผลักดันให้ใช้ค่าเงินหยวนในตลาดการค้า อีกทั้งจีนยังเปิดตลาดให้กับนักลงทุนต่างชาติอย่างจริงจัง และเปิดเสรีในระบบอัตราการแลกเงิน


· จีนต่อต้านเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐฯ

กระทรวงกลาโหมของจีน กล่าวตำหนิว่า เครื่องบิน U-2 ของสหรัฐฯ ได้ทำการบินโดยไม่ได้รับอนุญาตในเขตห้ามบินในพื้นที่ทางทหารตอนเหนือซึ่งเป็นสถานที่ใช้ฝึกซ้อมการดับเพลิงของจีนวานนี้ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่รบกวนจีน และทำให้ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้น

จีนประณามการกระทำในลักษณะนี้ของสหรัฐฯมาโดยตลอด ขณะที่สหรัฐฯกล่าวตำหนิถึงความไม่ปลอดภัยจากการสกัดกั้นทางอากาศของจีน ท่ามกลางการปฏิบัติภารกิจตามปกติ แต่จีนกลับมองว่านี่เป็นเรื่องที่ผิดปกติ


· น้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น จากการปรับลดกำลังผลิตของสหรัฐฯ ท่ามกลางความหวังเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน

ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.2% ที่ระดับ 45.96 เหรียญ/บาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในสหรัฐฯที่มีการปิดโรงงานผลิตบริเวณอ่าวเม็กซิโกก่อนที่พายุเฮอริเคนและพายุโซนร้อนลอราจะพัดเข้าสู่พื้นที่ และมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน

อย่างไรก็ดี การปรับตัวสูงขึ้นเป็นไปได้อย่างจำกัด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่กลับมาอีกครั้ง ซึ่งกดดันปริมาณความต้องการเชื้อเพลิง หลังจากมีรายงานจากยุโรปและเอเชียว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 5 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.1% ที่ระดับ 43.30 เหรียญ/บาร์เรล


ที่มา: CNBC, Reuters


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com