• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 17 สิงหาคม 2563

    17 สิงหาคม 2563 | Gold News

ทองคำปิดสัปดาห์ที่แย่ที่สุดตั้งแต่เดือนมี.ค. ท่ามกลางแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้น

· ราคาทองคำปิดปรับตัวลงในคืนวันศุกร์ โดยราคทองคำตลาดโลกปิด -0.5% ที่ 1,943.18 เหรียญ ขณะที่ภาพรวมสัปดาห์ที่แล้วเป็นระดับการปิดปรับตัวลดลงรายสัปดาห์ที่แย่ที่สุดตั้งแต่เดือนมี.ค. โดยปิด -4.5% หลังทำสูงสุดเมื่อ 7 ส.ค. บริเวณ 2,072.5 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด -1% ที่ 1,949.8 เหรียญ

· กองทุนทองคำ SPDR ทำการขายทองคำเพิ่มวานนี้อีก 3.8 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,248.29 ตัน


· ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ที่ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดรอบ 7 สัปดาห์ ที่ปรับตัวขึ้นและภาวะชะงักงันของร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯเพื่อช่วยเหลือวิกฤตไวรัสโคโรนาที่กระทบกับเศรษฐกิจ


· ผู้อำนวยการซื้อขายจาก High Ridge Futures กล่าวว่า ตลาดทองคำดูจะถูกกดดันจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ประกอบกับการที่สหรัฐฯยังไม่สามารถผลักดันร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ดังนั้น ภาพรวมจึงเห็นราคาทองคำมีการชะลอการปรับขึ้น และมีการเคลื่อนไหวแบบสะสมพลัง

อย่างไรก็ดี ข้อมูลค้าปลีกสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ ก็ได้ช่วยหนุนราคาทองคำอยู่บ้าง ขณะที่ภาพรวมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันราคาทองคำปรับขึ้นได้แล้วประมาณ 28%


· ผู้ก่อตั้งสถาบันการลงทุน Circle Squared Alternative Investment กล่าวว่า ราคาทองคำมีการทำ All-Time High อีกครั้ง จากความเป็นไปได้ของแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมไปถึงกรณีการเลือกตั้งที่จะเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย


· ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 4.7% ที่ 26.24 เหรียญ และภาพรายสัปดาห์ยุติการขึ้นต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน 9 สัปดาห์ก่อนหน้า โดยสัปดาห์ที่แล้วปรับลง 7.2%


· ราคาแพลทินัมปิด -1.6% ที่ 941.79 เหรียญ และพลาเดียมปิด -2.4% ที่ 1,949.4 เหรียญ


· ทรัมป์ พร้อมจะเคลื่อนไหวมาตรการ Coronavirus aid bill พร้อมตำหนิเดโมแครตที่ล่าช้า

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวถึงความพร้อมในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่เผชิญกับวิกฤตไวรัสโคโรนา แต่ก็มีการตำหนิเดโมแครตที่ล่าช้าและทำให้การเจรจาข้อตกลงนั้นต้องล่มไปในสัปดาห์ก่อน

ทั้งนี้ ผู้นำพรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ในวงเงินงบประมาณที่ 2 ล้านล้านเหรียญ


· เดโมแครตเพิ่มความกดดันกับการเลือกตั้งทางไปรษณีย์

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาพรรคเดโมแครตพยายามที่จะลดต้นทุนของแคมเปญการเลือกตั้งทางไปรษณีย์ จากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ ซึ่งทำให้เกิดความกลัวเกี่ยวกับการถือบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ก่อนการเลือกตั้งเดือน พ.ย.

ในสภาคองเกรส พรรคเดโมแครตเรียกร้องให้นาย หลุยส์ เดอจอย และ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไปเป็นพยาน ในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการส่งจดหมายที่ล่าช้าทั่วประเทศ

สำนักข่าว Washington Post รายงานว่า อาจมีการเปลี่ยนแปลงบริการเลือกตั้งเนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อผลลัพธ์ของผลเลือกตั้ง

ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตเสนอให้สภาคองเกรสเรียกตัวนายหลุย เดอ จอยส์ และประธานบริการทางไปรษณีย์ นายโรเบิร์ต ดันแคน มาเป็นพยานในวันที่ 24 ส.ค. ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการกำกับดูแลและปฏิรูปสภาผู้แทนราษฎร แต่นายเดอจอยไม่ตอบสนองต่อการข้อเรียกร้องนี้


· ข้อมูลการผลิตสหรัฐฯขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งในเดือนก.ค. แต่ยังอยู่ต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดของไวรัส


ข้อมูลผลผลิตภาคโรงงานสหรัฐฯขยายตัวขึ้นได้เกินคาดในเดือนก.ค. ท่ามกลางการผลิตรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าภาพรวมกิจกรรมจะยังอยู่ต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดของไวรัสโคโรนา

ทั้งนี้ เฟดเผยว่ากำลังการผลิตในภาคการผลิตนั้นปรับขึ้นได้ 3.4% ในเดือนก.ค. หลังจากที่เดือนมิ.ย.ปรับขึ้นได้ 7.4% ทำให้ยังคงอยู่ในอัตราการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3

ขณะที่ภาคธุรกิจที่กลับมาเปิดทำการ ร่วมกับจำนวนยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาใหม่ที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ เป็นปัจจัยที่เข้ามาจำกัดอุปสงค์


· สถานการณ์ไวรัสโคโรนาล่าสุด:

  

จำนวนยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกทะลุ 21.8 ล้านราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตรวมทั่วโลกอยู่ที่ 772,751 ราย

ด้านสหรัฐฯพบผู้เสียชีวิตพุ่งสูงเกิน 173,000 ราย ในช่วงก่อนฤดูกาลระบาดของไข้หวัด ภาพรวมยอดเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นมาอีกราว 483 รายเมื่อวานนี้ มาจากรัฐฟลอริดา, เท็กซัส และหลุยส์เซียนา สำหรับยอดผู้ติดเชื้อของสหรัฐฯยังนำมาเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 5.5 ล้านราย

ขณะที่ยอดติดเชื้อไวรัสในฝรั่งเศสพุ่งทะลุ 3,000 ราย ภายใน 24 ชั่วโมง ส่งผลหนุนแผนการใส่หน้าการอนามัยในที่ทำงานเป็นประจำ

อิตาลีปิดไนต์คลับหลังยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น

สำหรับยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาในนิวซีแลนด์เพิ่มสูงขึ้นก่อนการเลือกตั้งในเดือนก.ย. จึงทำเกิดกระแสคาดการณ์ที่ว่าจะต้องมีการเลื่อนเลือกตั้งออกไปก่อน ขณะที่นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์คนปัจจุบันค้านการเลื่อนเลือกตั้งดังกล่าวและคาดจะทำการตัดสินใจอีกครั้งในวันนี้ ท่ามกลางยอดติดเชื้อในออสเตรเลียที่ลดลง


· ประธานาธิบดีเม็กซิโก กล่าวว่า วัคซีน COVID-19 จะพร้อมใช้งานในช่วงต้นปีหน้า ช่วงประมาณ Q1/2021 ท่ามกลางรัฐบาลของเขาที่มีการร่วมมือกับประเทศอาร์เจนตินา และบริษัท AstraZeneca Plc ซึ่งเป็นบริษัทฟาร์มาเซติคัลในการร่วมมือกันผลิตวัคซีนเพื่อเตรียมพร้อมแจกจ่ายให้แก่ชาวลาตินอเมริกา


· ยอดขายบ้านอังกฤษพุ่งทำระดับสูงสุดประวัติการณ์หลังคลาย Lockdown

ประชาชนชาวอังกฤษมีการเข้าซื้อบ้านมากขึ้นเป็นประวัติการณ์ในช่วงระหว่างช่วงกลางเดือนก.ค. – ต้นเดือนส.ค. สูงกว่า 90% ตามรายงานของ Rightmove โดยอุปสงค์เพิ่มขึ้นหลังมีการคลาย Lockdown


· ไวรัสโคโรนากระทบเศรษฐกิจเปรูหดตัว -18.06% ในเดือนมิ.ย.

รัฐบาลเปรูเผยเศรษฐกิจหดตัวมากถึง -18.06% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อันนได้รับผลกระทบจากการ Lockdown ทางเศรษฐกิจตั้งแต่เดือนมี.ค.

ขณะที่ภาพรวมจีดีพีช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 พบ เศรษฐกิจเปรูหดตัวที่ -17.37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะเดียวกันภาพรวมช่วง 1 ปีจนถึงมิ.ย.ปีนี้อยู่ที่ระดับ -7.25%


· สหรัฐฯ-จีนเลื่อนเจรจาทบทวนข้อตกลงเฟสแรก ท่ามกลางจีนที่เพิ่มการเข้าซื้อสินค้าเกษตรและพลังงานสหรัฐฯ

รายงานจาก CNBC ระบุว่า สหรัฐฯและจีนมีการเลื่อนการทบทวนข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่จะเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความขัดแย้งที่ยังมีอยู่ และการจำเป็นต้องให้เวลาแก่จีนมากขึ้นเพื่อให้เกิดการซื้อสินค้าส่งออกสหรัฐฯได้มากขึ้น

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการกำหนดวันครั้งใหม่สำหรับการทบทวนข้อตกลงการค้าเฟสแรกนี้ และบรรดาเจ้าหน้าที่ต่างก็คาดหวังว่าจะเกิดการประชุมแบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ร่วมกันได้ แต่การเลื่อนการปรับทบทวนดังกล่าวออกไปก็ไม่ได้สะท้อนถึงปัญหาสำคัญๆของข้อตกลงการค้าระหว่างสองประเทศแต่อย่างใด


· กลุ่มผู้กำหนดนโยบายภาคธนาคารจีน ชี้ จีนต้องมีการป้องกันต่อการเพิ่มขึ้นของหุ้นกู้เงา จากการรีบาวน์ของ Off-balance sheet lending (การกู้ยืมนอกงบดุล) หรือที่เรารู้จักกันในนามของเงาในภาคธนาคาร และจำเป็นต้องจัดการกับสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Perfroming Assets) ให้เร็วเท่าที่จำทำได้


· นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ไว้ที่ระหว่าง 30.80-31.20 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/63 ของไทย ท่าทีระหว่างสหรัฐฯ และจีนหลังการเจรจาเรื่องความคืบหน้าตามข้อตกลงเฟสแรก และสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนส.ค. ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน/การอนุญาตก่อสร้าง และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามบันทึกการประชุมเฟดเมื่อเดือนก.ค. และดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนส.ค. ของหลายประเทศชั้นนำด้วยเช่นกัน


· อ้างอิงจากสำนักข่าว Brandinside

- สำนักข่าวต่างประเทศ Asia Times รายงาน ประเทศไทยจัดการไวรัสโคโรนาได้ แต่ผลกระทบของการจัดการดังกล่าวทำเศรษฐกิจไทยพัง เสียหายยับเยิน นับตั้งแต่ไวรัสโคโรนา ระบาดอย่างหนักหน่วงในช่วงเดือนมี.ค.พบว่าแรงงานไทยราว 70% มีรายได้ลดลงราว 47% ขณะที่ธุรกิจขนาดเล็กใกล้ปิดตัวลงราว 11% ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวนั้นรายได้หดตัวถึง 75%

· อ้างอิงจากสำนักข่าวไทยรัฐ

- ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ยังคงมีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมชูป้ายต่างๆ ซึ่งแสดงออกถึงการชุมนุมในครั้งนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบบริเวณอย่างเข้มงวด

ขณะที่แกนนำกลุ่มประชาชนปลดแอก ยังสับเปลี่ยนหมุนเวียนปราศรัยอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับข้อเรียกร้อง 3 ข้อ แก้ รธน. นายกฯ ต้องยุบสภา และหยุดคุกคามประชาชน เรื่องงบประมาณกระทรวงกลาโหม และปัญหาปากท้องเรื่องเศรษฐกิจ หลังประเทศไทยและโลก


อ่านข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่: www.mtsgold.co.th


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com