• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 13 กรกฎาคม 2563

    13 กรกฎาคม 2563 | Gold News
  

ทองทรงตัวเหนือ 1,800 เหรียญ ท่ามกลางกังวลไวรัสและดอลลาร์อ่อนค่า


· ราคาทองคำวันนี้ปรับขึ้นเล็กน้อย โดยทรงตัวได้เหนือระดับสำคัญ 1,800 เหรียญ ท่ามกลางดอลลาร์อ่อนค่า และความกังวลเกี่ยวกับยอดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้น ที่ช่วยหนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยทั่วโลก


· ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้น 0.3% ที่ 1,803.8 เหรียญ ด้าน Gold Futures ปรับขึ้น 0.4% ที่ 1,809.1 เหรียญ


· หัวหน้านักกลยุทธ์ฝ่ายการตลาดจาก AxiCorp กล่าวว่า การระบาดของไวรัสยังไม่หายไปและก็ไม่คิดว่าเฟดจะทำการเปลี่ยนแปลงเรื่องดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ และทั้งหมดนี้จึงเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำ

ภาพทองคำระยะกลางจะเห็นถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากภาวะที่ไม่แน่นอนต่างๆที่ยังเป็ฯปัจจัยที่ทำให้ทองคำยังปรับตัวสูงขึ้น


· จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกทะลุ 13 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อย และยอดผู้เสียชีวิตที่สูงกว่า 5.7 แสนราย


· ถ้อยแถลงของนายทรัมป์ เกี่ยวกับการไม่มีแววจะทำข้อตกลงเฟส 2 กับจีน ได้เพิ่มความกังวลทางเศรษฐกิจ


· รายงานจาก CFTC ระบุว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนและกลุ่มนักเก็งกำไรทั้งหลายเข้าถือครองทองและซิลเวอร์ในสถานะ Long Position ในตลาด Comex มากขึ้นในสัปดาห์ที่สิ้นสุด 7 ก.ค.ที่ผ่านมา


· ทองคำกับโอกาสแตะ 1,800 เหรียญ

นักวิเคราะห์บางรายยังเชื่อว่าราคาทองคำยังคงมุ่งหน้าขึ้นเหนือ 1,800 เหรียญได้ในสัปดาห์นี้ โดยที่ราคามีแนวโน้มจะกลับทดสอบ All-Time High บริเวณ 1,900 เหรียญได้ โดยที่ปัจจัยทั้งหมดยังคงสนับสนุนต่อ และคาดว่าทองคำจะปรับตัวสูงกว่าระดับปัจจุบันในช่วงครึ่งปีหลังนี้


· นักกลยุทธ์ค่าเงินและโลหะมีค่าอาวุโสจาก ABN Amro กล่าวว่า ราคาทองคำเคยทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไว้ที่ 1,921 เหรียญ เมื่อเดือนก.ย. ปี 2011 และเมื่อเทียบดอลลาร์ ทองคำมีโอกาสทำ All-Time High ได้ในปีนี้ จากนโยบายเชิงผ่อนคลายทางการเงิน ประกอบกับการใช้อัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรติดลบ ร่วมกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และแนวโน้มทางเทคนิคที่เป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำ


· นักวิเคราะห์จาก FXTM กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยแท้จริงของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ดูจะยังสร้างความเสี่ยงและเป็นปัจจัยบวกให้แก่ทองคำ จึงทำให้เราอาจเห็นทองคำปิดเหนือสูงสุดเดิมเมื่อ5 ก.ย. ปี 2011 ที่บริเวณ 1,900.2 เหรียญได้

ทั้งนี้ สัญญาทองคำมีโอกาสกลับทดสอบ 1,829 – 1,830 เหรียญโดยที่ราคาสัปดาห์นี้ยังมีแนวโน้มหลักเป็นทิศทางขาขึ้น พร้อมแนะจับตาทองบริเวณ 1,790 เหรียญ


· นักวิเคราะห์จาก LaSalle Futures Group ระบุว่า ทองคำมีโอกาสแตะ 1,830 เหรียญ และทองคำมีโอกาสขึ้นได้ต่อสัปดาห์หน้า แต่ช่วงแรกอาจเห็นทองคำอ่อนตัวลงมาก่อนจึงจะเห็นกลุ่มผู้รอเข้าซื้อมาหนุนทองคำเพื่อเป็นสินทรัพย์กระจายความเสี่ยงในพอร์ตจากความไม่แน่นอนต่างๆ

นอกจากนี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ 15-16% ในปีนี้ และคาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้อีก โดยในพอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่มักแบ่งเป็น 60-40% เป็นการแบ่งกันรหว่างหุ้นและตราสารหนี้เป็นหลัก แต่ในเวลานี้จะเห็นว่าทองคำทำหน้าที่ในพอร์ตการลงทุนได้ดีกว่า จึงมีการเพิ่มการถือครองทองคำเข้ามาในพอร์ตการลงทุนกันเป็นส่วนใหญ่


· นักวิเคราะห์จาก TD Securities มองว่า การกลับมาเปิดทำการอาจไม่สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงอาจเห็นการกลับมาปิดทำการของบางพื้นที่ในสหรัฐฯ เช่น รัฐฟลอริดา และเท็กซัส รวมทั้งรัฐฯอื่นๆที่ยังคงต้องเฝ้าระวังเพิ่มเติมในการกลับมาเปิดทำการ ซึ่งเราอาจเห็นได้ถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจและจำนวนการระบาดที่เพิ่มมากขึ้นต่อในเดือนส.ค. และก.ย.

ดังนั้น การเคลื่อนไหวแบบสะสมพลังบริเวณ 1,800 เหรียญจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยเมื่อราคาย่อตัวก็จะเป็นจังหวะที่จะมีการเข้าช้อนซื้อจากกลุ่มนักลงทุน และจะทำให้ราคากลับมาปรับตัวขึ้นต่อ โดยการเคลื่อนไหวในกรอบเวลานี้จึงเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อรอการปรับขึ้นต่อ ท่ามกลางเหตุผลในการที่จะเห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างชะลอตัว ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงอาจไม่ปรับตัวขึ้นไปกว่านี้ ขณะที่เฟดก็อาจไม่มีแววจะยุติการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ


· นักวิคราะห์จาก Gainsville Coin กล่าวว่า ทองคำยืนได้เหนือ 1,800 เหรียญในสัปดาห์นี้ และทำให้ภาพของตลาดค่อนข้างเป็นทิศทางขาขึ้น


· ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้มีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น ประกอบด้วยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) มิ.ย., ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. และยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.

สำหรับวันพฤหัสบดีนี้ จะมีการประกาศนโยบายดอกเบี้ยของทางอีซีบี และข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ แต่คืนวันศุกร์จะมีการประกาศยอดขออนุมัติรอการก่อสร้าง และยอดการเริ่มต้นสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐฯในเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ ยังมีรายงานผลประกอบการภาคบริษัทของสหรัฐฯที่หลายๆฝ่ายให้ความสำคัญที่อาจเป็นตัวชี้ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น


· Commerzbank ไม่คาดว่าราคาทองคำจะใช้เวลาปรับฐานนานเกินไป

นักวิเคราะห์จาก Commerzbank กล่าวว่า หลังจากที่ราคามีการอ่อนตัวลงมาหลุด 1,800 เหรียญ ตลาดทองคำก็สามารถที่จะรีบาวน์กลับได้ ดังนั้น จึงไม่คิดว่าจะเห็นการปรับฐานของทองคำในระยะสั้น เพราะหากพิจารณาจากการปรับลงของราคาทองคำและซิลเวอร์ก็จะเห็นได้ว่ามีการปรับฐานไปแล้ว ดังนั้น การปรับฐานครั้งนี้จึงไม่ใช้เวลานานเกินไป

ทั้งนี้ ธนาคารกลางเยอรมนียังมีการเข้าซื้อทองคำจากมุมมองขาขึ้น เนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนาเป็นภัยร้ายต่อเศรษฐกิจโลก ขณะที่สหรัฐฯก็ยังมีความผันผวน และยอดผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง

โดยองค์รวมความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เป็นผลมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนา จึงคาดว่าเฟดและรัฐบาลจะยังคงใช้มาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจต่อไป และจะเห็นได้ว่าพรรคเดโมแครตของสหรัฐฯก็มีการเรียกร้องให้เพิ่มแพ็คเกจช่วยเหลือวิกฤตไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.นี้

สำหรับยอดขาดดุลของงบประมาณสหรัฐฯก็เพิ่มขึ้นจำนวนมหาศาลและสิ่งนี้จะทำให้เฟดมีแนวโน้มจะยังต้องสนับสนุนเศรษฐกิจและการเงินจากวิกฤตครั้งนี้


· ความต้องการซิลเวอร์เพิ่มขึ้น 10% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ท่ามกลางความต้องการของนักลงทุน

สถาบัน Silver Institute กล่าวว่า อุปสงค์ซิลเวอร์เพิ่มขึ้นกว่า 10% โดยจะเห็นได้จากความแข็งแกร่งในกองทุน ETPs ซึ่งมีการทำ All-Time High ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะการลงทุนในเม็ดเงินและเหรียญเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ราคาซิลเวอร์จะเห็นได้ว่าดีขึ้นเรื่อยๆ โดยค่าเฉลี่ยถึงช่วงเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 16.65 เหรียญ ซึ่งเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETPs ค่อนข้างมีจำนวนมากในปีนี้

สำหรับรายงานช่วง 30 มิ.ย. จะเห็นได้ว่าการถือครองซิลเวอร์ทั่วโลกทำ All-Time High ใหม่ได้ที่ 925 ล้านออนซ์ (Moz) หรือคิดเป็นราว 14 เดือนของอุปทานเหมืองต่างๆ ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกกองทุน ETP โตได้ราว 196 ล้านออนซ์ แซงยอดเก่าในปี 2009 ที่อยู่ที่ 149 ล้านออนซ์ไปได้ ขณะที่รายงานจากกองทุนของฝั่งอเมริกาเหนือคิดยอดเป็น 90% ของ ETP ตั้งแต่เดือนมี.ค. ที่ผ่านมา


· ราคาพลาเดียมปรับขึ้น 0.9% ที่ 1,987.77 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับขึ้น 2.4% ที่ 834.05 เหรียญ และซิลเวอร์ที่จะปรับขึ้น 1% ที่ 18.86 เหรียญ

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com