• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 11 มิถุนายน 2563

    11 มิถุนายน 2563 | SET News
  

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง หลังจากมุมมองเชิงลบของเฟดเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้นจากกระแสคาดการณ์ที่ว่ายังจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง 1.4%

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงทำระดับรายวันต่ำที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์ เนื่องจากค่าเงินเยนที่ปรับแข็งค่าขึ้น หลังจากที่เฟดมีมุมมองเชิงลบเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจจึงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุน

โดยดัชนี Nikkei ร่วงลง 2.8% ที่ะรดับ 22,472.91 จุด ซึ่งเป็นเป็นภาพรวมรายวันที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ปรับขึ้นไปทำระดับสูงุสดในรอบ 3 เดือนครึ่งในช่วงต้นสัปดาห์

ด้านดัชนี Topix ลดลง 2.2% ที่ะรดับ 1,588.92 จุด

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังถ้อยแถลงของประธานเฟดเมื่อคืนที่ผ่านมา

โดยดัชนี Stoxx600 ร่วงลง 2.4% ในช่วงต้นการซื้อขาย ขณะที่หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่ร่วงลง 5% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ

ทั้งนี้ ท่าทีของเหล่านักลงทุนที่มีต่อคาดการณ์ของเฟดเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นประเด็นที่น่าสนใจในวันนี้ โดยเฟดประกาศที่จะคงอัตราดอกเบี้ยและคาดว่าจะมีปรับขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึงปี 2022 พร้อมทั้งยังระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะหดตัวลง 6.5% ในปีนี้ ก่อนที่จะขยายตัวที่ 5% ในปี 2021

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ เงื่อนไขการชะลอการชำระหนี้ ระยะเวลาการชะลอการชำระหนี้ วิธีการชำระหนี้เงินต้น และดอกเบี้ยที่ชะลอไว้เพิ่มเติม เพื่อให้สถาบันการเงินถือปฏิบัติให้บรรลุวัตถุประสงค์ของพ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อาทิ สินเชื่อบางประเภทที่ใช้หลักประกันเป็นใบสั่งสินค้า ตัวสินค้าที่ซื้อขาย สถาบันการเงินมีสิทธิ์นำเงินที่ผู้ซื้อสินค้าหรือลูกหนี้ ทางการค้าชำระค่าสินค้าผ่านสถาบันการเงิน ไปหักชำระหนี้ที่มีอยู่ที่สถาบันการเงินตามข้อสัญญาของสินเชื่อหมุนเวียนได้

- กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางช่วยเหลือลูกหนี้ของแต่ละธนาคารเพิ่มเติม เพราะกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นคืนต้องใช้เวลาอีกนาน ทำให้ลูกหนี้ยังได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากรายได้ลดน้อยลง โดยธนาคารต้องมาหารือว่าจะทำอย่างไรหลังจากในเดือน ก.ย.นี้จะสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ 6 เดือน ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ เช่น อาจต้องดูลูกหนี้เป็นรายๆ ไป เพราะความช่วยเหลือและผลกระทบต่างกัน ทั้งปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ย ยืดระยะเวลาชำระหนี้ ลดค่างวด เป็นต้น ซึ่งต้องให้ลูกหนี้ชำระคืนเท่าที่รับภาระได้

- รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยสถานการณ์ท่องเที่ยว 5 เดือน (ม.ค.พ.ค. 63) ว่า ในช่วง 5 เดือนของปีนี้ประเทศไทยมี รายได้จากการท่องเที่ยวรวมทั้งรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย ลดลงกว่า 7.52 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ลดลง 4.89 แสนล้านบาท และรายได้นักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย ลดลง 2.63 แสนล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะในเดือน เม.ย.-พ.ค.63 ประเทศไทยไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาแม้แต่คนเดียว จากการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการประกาศห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว

- หอการค้าไทย นำเสนอ 6 แนวทางฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย-จีน หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มดีขึ้นแนะรัฐบาลไทยจัดโครงการนำร่องเปิดน่านฟ้าไทย ให้นักธุรกิจ นักเรียนนัก ศึกษาจีน การเดินทางมาเยี่ยมญาติและกลุ่มทัวร์ขนาดเล็ก 5-10 คน ได้ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ มั่นใจมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยเดือนละ 11,000 คน ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติต้องใช้เวลาอีก 1 ปี

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com