ในวันนี้เจ้าหน้าที่เฟดจะเปิดเผยคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยมาตั้งแต่เดือนก.พ. ที่ถูกคาดว่าจะเห็นสัญญาณผลผลิตที่อ่อนแอปีนี้ และภาพรวมอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับศูนย์ ในช่วง 2-3 ปีจากนี้
และนี่เป็นสิ่งที่คาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจอาจสะท้อนถึง รวมทั้งอาจเห็นถึงทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯในอนาคตท่ามกลางการคลาย Lockdown
สิ่งที่พวกเขาจะหารือ?
โดยปกติในทุกๆ 3 เดือน สมาชิกเฟดจำนวน 17 รายจะมีการกำหนดคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจเป็นเวลาหลายปีในส่วนของ อัตราว่างงาน, เงินเฟ้อ, การเติบโตทางเศรษฐกิจ และเรื่องดอกเบี้ย โดยสรุปรูปแบบคาดการณ์ทั้งหมดจะถูกเปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการประชุม
ทั้งนี้ ในเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา เฟดไม่ไดเปิดเผยคาดการณ์ในเดือนมี.ค. เป็นเพราะความไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนา และผลจากการ Lockdowns รวมทั้งความอ่อนแอทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้ว่าทุกอย่างจะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้คือแนวโน้มเศรษฐกิจจะย่ำแย่มากกว่าที่เคยประเมินไว้ในเดือนธ.ค.
มุมมอง Dot-Plot?
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ JP Morgan ระบุว่า คาดการณ์ Dot-Plot ถือเป็นอีกเรื่องสำคัญ ที่ภาพรายงานจะสะท้อนว่าบรรดาสมาชิกเฟดมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องอัตราดอกเบี้ยในปีนี้และปีหน้า สำหรับทิศทางเกี่ยวกับสัญญาณเรื่องดอกเบี้ยของเฟดน่าจะมีการคงดอกเบี้ยไว้ใกล้ระดับศูนย์จนกว่าจะเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัว และคาดว่า Dot-Plot จะสะท้อนว่าเฟดจะยังไม่เปลี่ยนแปลงเรื่องนโยบายดอกเบี้ยใดๆจนถึงปี 2020
มุมมองทางเศรษฐกิจจะใช้เวลานาน หรือดิ่งลึกแค่ไหน?
ความหลากหลายขั้นตอนในการกลับมาปิดทำการหลังจากที่มีการใช้นโยบาย Stay-at-home ดูจะเป็นตัวฉุดรั้งให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย และเฟดน่าจะมีการเปิดเผยมุมมองว่าจะใช้เวลาฟื้นตัวกินระยะเวลายาวนานเท่าใด
นักเศรษฐศาสตร์จาก Oxford Economic กล่าวว่า คาดการณ์แนวโน้มราคาของเฟดคาดจะเห็นการรีบาวน์ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ระดับจีดีพีน่าจะยังต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตไวรัสโคโรนายาวไปจนถึงช่วงปลายปี 2021
สำหรับอัตราว่างงานที่ปรับตัวลงเกินคาดที่ 13.3% นั้น อาจส่งผลต่อคาดการณ์ถึงสิ้นปีนี้ แต่สัญญาณระยะยาวก็น่าจะดูดีขึ้นในปีหน้า ซึ่งเฟดมีแนวโน้มจะคาดถึงเงินเฟ้อที่ยังต่ำกว่าระดับเป้าหมาย 2% ในอนาคตด้วยเช่นกัน
ส่วนสำคัญคือ การสรุปคาดการณ์ที่จะเป็นตัวสะท้อนถึงสิ่งที่สมาชิกเฟดคิดและมีแนวโน้มจะเป็นส่วนหนึ่งของทิศทางเศรษฐกิจ ซึ่งหลายๆฝ่ายก็ยังคงรอดูว่าจะเกิด Second Wave หรือไม่ เนื่องจากเป็นสิ่งสำคัญที่ยังไม่มีใครทราบได้เลยในเวลานี้
แต่การเสียชีวิตจากการระบาดของไวรัสคโรนาที่กระจายไปยังหลายพื้นที่ในสหรัฐฯ ประกอบกับการที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีการมองถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระบาดแพร่กระจายต่อได้อีกหลังจากที่มีฝูงชนร่วมเฉลิมฉลองในวัน Memorial Day เมื่อช่วงปลายเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา ประกอบกับการชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้แก่การเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชาวผิวสีเมื่อ 25 พ.ค.
ความเสี่ยงทั้งหมดนี้ มีแนวโน้มจะทำให้เฟดมองภาวะเศรษฐกิจยังเป็นขาลงอยู่
ความเสียหายในระยะยาว?
คาดการณ์เศรษฐกิจในวันนี้อาจยังช่วยเราบอกได้ว่าเฟดคิดอย่างไรกับการระบาดของไวรัสที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยที่นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน Nomura คาดว่าจะเห็นเฟดเปลี่ยนแปลงคาดการณ์บางส่วนเพียงเล็กน้อยจากที่เคยคาดการณ์ไว้ แต่ส่วนของคาดการณ์เศรษฐกิจระยะยาวที่ 1.9% และอัตราว่างงานที่ 4.1% ทั้งหมดนี้น่าจะถูกปรับทบทวน รวมทั้งความสำคัญในการกล่าวย้ำถึงภาวะความไม่แน่นอนต่างๆด้วย
ที่มา: Reuters