MTS Help Center

อัตราว่างงานสหรัฐฯในเดือนพ.ค. ท่ามกลางประชาชนนับล้านที่กลับมาทำงานปกติ แต่ข้อมูลทางการที่ระดับ 13.3% ล่าสุดนั้น ก็ยังคงอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ยุควิกฤตทางการเงินในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และมีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะถูกบั่นทอนจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ที่อาจทำให้เราเห็นว่า แท้จริงแล้วข้อมูลอัตราว่างงานจะต้องมีแนวโน้มไม่น้อยกว่า 16% และเป็นการสะท้อนว่าประชากร 1 ใน 6 ยังไม่สามารถหางานทำได้

ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติสหรัฐฯ เผยว่า รายงานจ้างงานในวันศุกร์ที่ทางการเผยนั้นแท้จริงแล้วอาจต่ำกว่าข้อมูลจริง หรือเป็นความผิดพลาดด้านการเก็บข้อมูล

ชาวสหรัฐฯยังถูกพักงาน

ประชาชนชาวสหรัฐฯกว่า 21 ล้านคนยังคงว่างานตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพ.ค. ซึ่งลดลงประมาณ 2.1 ล้านคนในเดือนก่อนหน้า

และจำนวนข้อมูลดังกล่าวจะประกอบไปด้วย กลุ่มคนถูกพักงาน นั่นหมายถึงการว่างงานชั่วคราว ขณะที่ประชากรกว่า 15 ล้านคน หรือคิดเป็น 73% ของจำนวนรวมว่างงานชั่วคราว คาดว่าจะถูกเรียกตัวกลับเข้าทำงานตามปกติอีกครั้ง

ข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคลอื่นๆ

อะไรคือความสำคัญของอัตราว่างงาน? นั่นคือการที่ตลาดหุ้นอาจกลับมาปรับตัวสูงขึ้นได้ เนื่องจากนักลงทุนหมดแล้วซึ่งความกังวลใดๆ ก็อาจทำให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นได้

สำนักงานสถิติแห่งชาติหรือ BLS ยังคงย้ำว่าอัตราว่างงานที่เรากำลังเผชิญนั้นเป็นความชั่วคราว ในขณะที่การประกาศข้อมูลมีความผิดพลาด และข้อมูลที่เกิดขึ้นมาจากผลสำรวจภาคครัวเรือน และยังตกสำรวจหลายๆคนที่ถูกพักงานในหลายเหตุและผลอื่นๆ

อัตราว่างานที่ 16.3%

ภาพรวมอัตราว่างงานจะต้องสูงกว่าที่ประกาศออกมา 3% สูงกว่าที่มีการรายงานจริง และหากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง เราจะต้องเห็นอัตราว่างงานอย่างเป็นทางการที่ 16.3% และอัตราแท้จริงก็อาจจะสูงกว่านั้นได้

อัตราว่างงานไม่ได้รวมถึงการรวมจำนวนพนักงานที่ถูกปลดงาน แต่บางทีอาจเป็นการรวมข้อมูลสำหรับโอกาสการหางานใหม่ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยมีประชาชนที่ถูกปลดจากตำแหน่งงานตั้งแต่เดือนก.พ.

ดังนั้น ในความเป็นจริงอัตราว่างงานอาจสูงถึง 21.2% หากพิจารณาด้วยมาตรวัดต่างๆ ซึ่งสิ่งนี้ทาง BLS เรียกว่า U-6 metric อันรวมถึงประชาชนที่ไม่สามารถทำงานได้ในปัจจุบัน หรือการมองหางาน ไม่ว่าจะเป็น Part-Time หรือ Full-Timeแต่ได้รับเงินเดือนแบบ Part-Time เท่านั้น และ U-6 metric นี้ก็ไม่ได้รวมถึงข้อมูลพนักงานที่ได้ทำการตกสำรวจไป

แน่นอนว่า กลุ่มคนถูกพักงานก็อาจถูกเรียกกลับไปได้อย่างรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับความเร็วในการรีบาวน์ของเศรษฐกิจที่มีการเริ่มต้นกลับมาเปิดภาคธุรกิจอีกครั้ง ขณะที่อัตราว่างงานก็มีแนวโน้มจะพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน หากยังคงมีภาวะชะงักงันในเรื่องการจ้างงาน

ที่มา: CNBC