• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 4 มิถุนายน 2563

    4 มิถุนายน 2563 | SET News
  

· หุ้น HSBC และ Standard Chartered พุ่งหลังให้การสนับสนุนจีนเกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฮ่องกง

หุ้นของธนาคาร HSBC และ Standard Chartered ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ให้การสนับสนุนจีนเกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกง แม้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวโดยกลุ่มรักประชาธิปไตย และอดีตสมาพันธ์ทางการเงินก็ตาม

เจ้าหน้าที่จากธนาคาร Asia-focussed British และนักวิเคราะห์จาก HSBC มองในทางเดียวกันว่า กฎหมายดังกล่าวของจีนจะช่วยเหลือพวกเขาในการปกป้องภาคธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ในตลาดฮ่องกง

หุ้น HSBC ปรับขึ้น +1.6%.ในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากที่ปรับขึ้นกว่า 2.8% ในช่วงต้นตลาด ขณะที่หุ้นบริษัท Standard Chartered ปรับขึ้น 2.3%

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการกระตุ้นนโนบายทางเศรษฐกิจช่วยหนุนความเชื่อมั่นให้แก่เหล่านักลงทุนในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโนา

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.43% แตะระดับสูงสดนับตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา

ด้านตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวสูงขึ้น 0.93% หลังจากที่นายกรัฐมนตรีของประเทศได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่ 4 เพื่อซ่อมแซมเศรษฐกิจ ซึ่งในครั้งนี้มีเป้าหมายที่ภาคการก่อสร้าง

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ตามการเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับกาาคลายมาตรการ Lockdown ในบางประเทศที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา

โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.36% ที่ระดับ 22,695.74 จุด ด้านดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 0.30% ที่ระดับ 1,603.82 จุด

· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลง ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากคณะบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ห้ามสายการบินจีนเข้าประเทศ

โดยคณะบริหารของทรัมป์ ประกาศห้ามเครื่องบินโดยสารทุกเที่ยวบินของจีนบินเข้าสหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. เพื่อกดดันให้จีนยอมอนุญาตให้สายการบินต่างๆของสหรัฐบินเข้าประเทศจีน ท่ามกลางความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆระหว่างสหรัฐฯและจีน

ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.14% ที่ระดับ 2,919.25 จุด หลังจากผันผวนระหว่างทิศทางบวกและลบในช่วงก่อนหน้านี้

· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

ขณะที่ตลาดกำลังจับตาไปยังการประท้วงในสหรัฐฯ

โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.5% ด้านหุ้นกลุ่มยานยนต์ลดลง 2.4% ขณะที่หุ้นกลุ่มสุขภาพเพิ่มขึ้น 0.6%

นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Dow Jones ระบุว่า ตลาดโลกยังคงมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องหลังจากการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากรายงานการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯลดลง 2.76 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. แต่ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 8.75 ล้านตำแหน่ง


อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

ราคาหุ้น AP กระโดดตามกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ รับมติ ค.ร.ม. "ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง" แม้ประเด็นนี้จะเข้ามาหนุนได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่เมื่อบวกกับประเด็นอื่นอย่างราคาหุ้นที่ยัง Laggard สวนทางกับยอดขายที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในไตรมาส 2/63 หดตัวน้อยกว่ากลุ่ม ก็ยิ่งทำให้ AP น่าสนใจ!

นอกจากหุ้นกลุ่มธนาคารแล้ว "หุ้นอสังหาริมทรัพย์" ก็เป็นอีกกลุ่มที่ฟื้นตัวขึ้นมาช้ากว่าหุ้นกลุ่มอื่นๆ(Laggard) ดังนั้นหุ้นอสังหาฯ จึงเป็นตัวเลือกที่นักลงทุนเก็งกำไรกันอยู่ในขณะนี้ ยิ่งได้รับประเด็นบวกจากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 2 มิ.ย.63 ที่มีมติเห็นชอบให้ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับปีภาษี พ.ศ. 2563 ลง 90 ก็ยิ่งทำให้ราคาหุ้นพุ่งแรงขึ้นไปอีก

โดยที่ราคาหุ้น บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP วันนี้ ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบเช้าที่ 5.80 บาท ทำนิวไฮรอบ 3 เดือน ก่อนที่จะปิดตลาดย่อตัวลงมาเล็กน้อยที่ 5.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +4.59%


อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เตรียมทบทวนประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีปี 63 ใหม่

ในการประชุม กนง.รอบวันที่ 24 มิ.ย.นี้ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อ และดุลบัญชีเดินสะพัดใหม่ หลังจากการประชุม กนง.ครั้งก่อนได้มีความ

กังวลต่อสถานการณ์เงินบาทที่อาจกลับมาแข็งค่าขึ้นและอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จึงเห็นควรให้ติดตามและดูแลสถานการณ์ใน

ตลาดการเงินและตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด

- นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เหตุจลาจลในสหรัฐฯ ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะเหตุการณ์พึ่งเกิดขึ้นไม่นาน โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือ ทูตพาณิชย์ ประจำสหรัฐอเมริกา จะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรายงานสถานการณ์กลับมายังประเทศไทย แต่เบื้องต้นยืนยันว่ายังไม่กระทบกับการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯโดยยังสามารถทำการค้าได้เป็นปกติ แต่อาจมีข้อจำกัดเรื่องสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา

- นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า มูลค่าการส่งออกทองคำของไทย ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 63(ม.ค.เม.ย.) อยู่ที่ 6,372.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.97 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 350.01% เนื่องจากเป็นการส่งออกไปทำกำไรจากส่วนต่างของราคาในช่วงที่ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนักลงทุนและประชาชนนส่วนใหญ่หันมาซื้อทองคำเก็บไว้ ในฐานะเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัว ส่งผลให้ยอดส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยรวม 4เดือน มีมูลค่า 8,147.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น114.84% หรือคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 252,714.18 ล้านบาท

- สภาผู้ส่งออกถกสมาคมการค้าและกลุ่มอุตสาหกรรมหนุนไทยเข้าร่วมเจรจา 'ซีพีทีพีพี' หวังสร้างแรงกระตุ้นให้ระบบเศรษฐกิจ การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศ พร้อมเดินหน้านำผลประชุมหารือ กกร. 10 มิ.ย. ก่อนเสนอกระทรวงที่เกี่ยวข้องและนายกฯ


อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ

4 มิ.ย. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวน ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 17 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 3,101 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยอดผู้เสียชีวิต 58 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 2,968 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 75 ราย

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com