• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 25 พฤษภาคม 2563

    25 พฤษภาคม 2563 | SET News
 

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสานกันในคืนวันศุกร์ จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังเผชิญไวรัสโคโรนา

ดัชนีดาวโจนส์ปิด -0.04% ที่ 24,465.16 จุด ทางด้าน S&P500 ปิด +0.24% ที่ 2,955.45 จุด และ Nadaq ปิด +0.43% ที่ 9,324.59 จุด

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีดาวโจนส์ปิด +3.3% ทางด้าน S&P500 ปิด +3.2% ขณะที่ Nasdaq ปิดสัปดาห์ที่แล้ว +3.4%

ความตึงเครียดสหรัฐฯและจีนเพิ่มขึ้น หลังวันพฤหัสบดีที่นายทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯออกมากล่าวเตือนว่าสหรัฐฯจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อแผนความมั่นคงฉบับใหม่ของจีนที่มีต่อฮ่องกง และทำให้นักลงทุนกังวลมากขึ้นว่าสหรัฐฯและจีนมีความเป็นไปได้ที่จะกระทบต่อข้อตกลงเฟส 1

ขณะที่ช่วงปลายตลาดคืนวันศุกร์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯถูกดดันหลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า มีการเพิ่มรายชื่อบริษัทจีน 33 แห่ง รวมทั้งสถาบันด้านเศรษฐกิจเข้าสู่ Blacklist เพื่อเป็นการตอบโต้ต่อความรุนแรงและรุกล้ำสิทธิมนุษยชน

สำหรับวันนี้จะเป็นวันหยุดทำการเนื่องในวัน Memorial Day ของสหรัฐฯ จึงส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการ

· ตลาดหุ้นยุโรปปิดผสมผสานกันในคืนวันศุกร์ ท่ามกลางตึงเครียดสหรัฐฯและจีนที่เพิ่มมากขึ้น ที่อาจคุกคามข้อตกลงเฟส 1 ที่ทั้งสองประเทศได้ร่วมลงนามกันไว้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยดัชนี Stoxx 600 ปิดปรับขึ้นเหนือเส้น Flatlineขณะที่หุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปิด -0.6%

· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับขึ้นในเช้านี้ แม้ตลาดจะยังมีความกังวลต่อเรื่องสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนก็ตาม โดยดัชนี S&P/ASX200 เปิด +1.46% ที่ 5,577 จุด ทางด้านนิกเกอิเปิด +1.3% และ Topix เปิด +1.2% ขณะที่Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.19%

สำหรับตลาดหุ้นสิงคโปร์, อินเดีย และอินโดนีเซีย จะปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ

· นักบริหารการเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ไว้ที่ระหว่าง 31.70-32.10 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนเม.ย. ของธปท. ภาวะการระบาดของโควิด-19ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา Core PCE Price Index ในเดือนเม.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และข้อมูลจีดีพีไตรมาส 1/63 ของสหรัฐฯ (รายงานครั้งที่ 2) นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดด้วยเช่นกัน

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกไทยในเดือนเม.ย.63 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 แม้อยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม

เกษตรขยายตัว 4.03% ตามความต้องการสินค้าอาหารของตลาดโลกในช่วงล็อกดาวน์ โดยเฉพาะสินค้าข้าวที่กลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือน และขยายตัวสูงสุดที่ 23.10%

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยมุมมองต่อมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในปี 63 จะหดตัว -5.6% YoY แม้คาดว่าการส่งออกสินค้าอาหารและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะยังขยายตัวดีในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 จากความต้องการชั่วคราวของโลกในช่วงวิกฤตสุขภาพ ขณะที่

ภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะถดถอยและยังมีความเสี่ยงที่จะหดตัวมากขึ้น หากสถานการณ์การแพร่ระบาดในแต่ละประเทศไม่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้การปิดเมืองของหลายประเทศทั่วโลกทำให้ห่วงโซ่การผลิตชะงักงันก็น่าจะยังเป็นปัจจัยที่ทำให้การส่งออกสินค้าไทยในช่วงที่เหลือของปี 63 มีแนวโน้มหดตัว

- ธนาคารออมสิน ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ MLR-MOR-MRR ลง0.125-0.25% มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com