· ดัชนีสหรัฐฯปรับตัวลดลงในช่วงต้นตลาดหลังจากที่ร่วงลงไปตามการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี และการจ้างงานที่ออกมาแย่ ประกอบกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ดูจะกดดันการซื้อขายในตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับลง 150 จุด หลังจากที่ช่วงเปิดตลาดปรับลงไป 189 จุด ขณะที่ S&P500 และ Nasdaq ปรับลงแดนลบเช่นกัน
กลุ่มนักลงทุนค่อนข้างให้ความสนใจกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ขณะที่ช่วงต้นสัปดาห์มีกระแสการที่วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายที่มีความเป็นไปได้ที่จะคัดรายชื่อหุ้นจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ
· ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลง ท่ามกลางความไม่สงบทางการเมืองของฮ่องกงกลับมาอีกครั้ง ที่เหมือนเป็นฉนวนให้เกิดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากที่สภาประชาชนแห่งชาติจะพิจารณาออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
หลังจากที่มีการพิจารณาดังกล่าว นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาประกาศว่าจะดำเนินการตอบโต้จีน ต่อความพยายามในการควบคุมฮ่องกง
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ร่วงลง 2.5%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง โดยความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงถูกกดดันหลังจากที่จีนวางแผนที่จะออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
โดยดัชนี Nikkei ลดลง 0.8% ที่ระดับ 20,388.16 จุด หลังจากปรับตัวขึ้นได้ในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ภาพรวมรายสัปดาห์ ดัชนียังปรับขึ้นได้ 1.8% ด้านดัชนี Topix ลดลง 0.9% ที่ระดับ 1,477.80 จุด
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจและความตึงเครียดครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐฯและจีนที่กดดันความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุน
โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 1.9% ที่ระดับ 2,813.77 จุด
· ดัชนี HSI ของฮ่องกงดิ่งลงกว่า 5.5% ในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขาย หลังจากที่รัฐบาลจีนจะผลักดันกฎหมายความมั่นคงฮ่องกง และจะนำกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาในสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ในวันนี้ ซึ่งเนื้อความในกฎหมายจะระบุถึงการห้ามการก่อความไม่สงบหรือปลุกระดมให้แยกตัวเป็นเอกราช และการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการสร้างความกังวลให้แก่ตลาดที่อาจนำมาซึ่งการชุมนุมประท้วงต่อต้านมากขึ้น
· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวลดลงท่ามกลางความตึงเครียดของสถานการณ์สหรัฐฯและจีน รวมทั้งความเป็นไปได้เกี่ยวกับการคุกคามข้อตกลง "Phase One" ที่มีการเซ็นต์ไว้ในช่วงต้นปี
โดยดัชนี Stoxx600 เปิด -1.6% ในช่วงต้นตามการร่วงลงของภาคธนาคารที่ทรุดลงไปกว่า -3.1% จึงทำให้หุ้นส่วนใหญ่เข้าสู่แดนลบ
ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ดูจะทวีความรุนแรงหลังจากที่จีนมีกาออกญัติกฎหมายด้านความมั่นคง เพื่อควบคุมกลุ่มผู้ต่อต้านจีนในฮ่องกง จึงเกิดคำถามในการควบคุมฮ่องกงของจีน ขณะที่สหรัฐฯและชาติตะวันตกอื่นๆ ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงตามหลักประชาธิปไตย
สำนักจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- เช้านี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โดยมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการพิจารณาต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 พ.ค.นี้ออกไปอีก 1 เดือน เพื่อรองรับการผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 3 และ 4
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เหลือ 0.50% ต่อปี ว่า การลดดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่ควรทำในภาวะเศรษฐกิจซบเซาและขยายตัวไม่ได้อย่างที่คิด ซึ่งการดำเนินนโยบายการเงินของ ธปท.สอดคล้องกับนโยบายการเงินการคลังของกระทรวงการคลัง
- กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จัดสรรงบประมาณ 150 ล้านบาท จัดทำโครงการฟื้นฟูผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างเร่งด่วนในเวลา 90 วัน (มิ.ย.-ส.ค.) รองรับสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายใน 4 กลุ่ม ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ระบบเศรษฐกิจได้รวม 800 ล้านบาท
- รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมหารือกับนายกรัฐมนตรี ผลักดันให้มีการปลดล็อกการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอย่างเป็นทางการ ภายในเดือน มิ.ย.นี้ เบื้องต้นอาจส่งเสริมให้มีการเดินทางไปยังจังหวัดที่ไม่มีการติดเชื้อนานกว่า 21 วัน หลังจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน มีจำนวนต่ำกว่าสิบคนต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงสัญญาณที่ดีประกอบกับผู้ประกอบการการท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอีมีสภาพคล่องอยู่ได้ถึงเดือน พ.ค.นี้หากนายกฯประกาศให้เดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้เดือนหน้า จะช่วยต่อลมหายใจผู้ประกอบการได้อีกทาง
- พันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่นเราไม่ทิ้งกัน วงเงินรวม 5 หมื่นล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.-21 พ.ค.63 ขณะนี้มีผู้เข้าจองซื้อพันธบัตรดังกล่าวจนครบวงเงินการออกพันธบัตรแล้วภายในสัปดาห์เดียว โดยขณะนี้ สบน. กำลังอยู่ระหว่างประเมินว่าควรจะเปิดขายพันธบัตรเพิ่มเติมในรุ่นต่อไปหรือไม่ เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก