• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 4 พฤษภาคม 2563

    4 พฤษภาคม 2563 | Economic News


สถานการณ์ไวรัสโคโรนา:

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 3,563,596

Ø  จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 248,135 ราย

Ø  จำนวนประเทศติดเชื้อทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 212 ประเทศ

Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯล่าสุดมีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 1,188,029 ราย (+27,255) และมีผู้เสียชีวิตที่ระดับ 68,587 ราย (+1,143)
Ø  จำนวนผู้ติดเชื้อในไทยล่าสุดรวมผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,969 ราย (+3) และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นรวมสะสม 54 ราย


·       ค่าเงินดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัว ขณะที่ตลาดหุ้นและราคาน้ำมันด้รับแรงกดดันจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่กลับมาอีกครั้งท่ามกลางวิกฤตไวรัสโคโรนา

โดยค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ 0.21% แถว 1.0978 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อยประมาณ 0.05%

ค่าเงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ 0.26% แถว 106.93 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนค่า 0.80% แถว 1.2491 ปอนด์/ดอลลาร์

ค่าเงินหยวนอ่อนค่าทำระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากนายทรัมป์ข่มขู่จะขึ้นภาษีจีน โดยเงินหยวนอ่อนค่า 0.6% แถว 7.1240 หยวน/ดอลลาร์ ก่อนหน้านี้ทำระดับอ่อนค่าที่สุดที่ระดับ 7.1350 หยวน/ดอลลาร์

 

·       นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความเห็นว่า จีนทำ ผิดพลาด” ที่พยายามปกปิดที่มาของไวรัสโคโรนา และจีนก็เป็นต้นเหตุของการระบาด  อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ไม่ได้แสดงหลักฐานใดๆที่รับรองถ้อยแถลงของเขา


 

·       นายทรัมป์ยังระบุอีกว่า ต้องมีการเพิ่มความช่วยเหลือชาวอเมริกันที่กำลังเดือดร้อนจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจากไวรัสโคโรนา นายทรัมป์อาจต้องการให้สภาคองเกรสอนุมัติเงินช่วยเหลือเพิ่มอีก ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันกำลังพิจารณาแผนการช่วยเหลือธุรกิจต่างๆไม่ให้ถูกยึดหากเศรษฐกิจเปิดทำการอีกครั้ง

 

·       นอกจากนี้นายทรัมป์เชื่อว่า วัคซีนสำหรับไวรัสโคโรนาจะมาปลายปีนี้แน่นอน ซึ่งจะมาเร็วกว่าที่แผนการของที่ปรึกษาด้านการบริหารสาธารณสุขวางแผนไว้ ทรัมป์ยังเสริมว่า กำลังเร่งผลิตวัคซีนดังกล่าวอยู่


·       รายงานจากเกาหลีใต้ ยืนยันว่านายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ไม่ได้เข้ารับการผ่าตัดตามที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานแต่อย่างใด หลังจากที่นายคิมไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นเวลาเกือบ 3 สัปดาห์ แต่ล่าสุดนายคิมได้ปรากฏตัวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาแล้ว

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเกิดการยิงประทะกันระหว่างทหารของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ในเขตปลอดทหารที่เชื่อมต่อชายแดนของทั้งสองชาติเกาหลี ทำให้ความตึงเครียดของทั้งสองชาติพุ่งสูงขึ้น

 

·       นายแลรี คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ระบุว่าทางรัฐสภากำลังพิจารณาทุกความเป็นไปได้เกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจฉบับถัดไป ซึ่งรวมถึงการมอบเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมให้กับรัฐบาลท้องถิ่นและธุรกิจขนาดเล็ก หลังจากที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯมีรวมกันมากกว่า 30 ล้านคนในช่วง สัปดาห์ที่ผ่านมา

 

·       ราคาน้ำมัน WTI ปรับสูงขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา และปิดรายสัปดาห์ในแดนบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์  ท่ามกลางแรงหนุนจากมาตรการปรับลดกำลังการผลิตจากกลุ่ม OPEC และประเทศพันธมิตร

โดยราคาสัญญาน้ำมัน WTI ปิด +4.99% หรือ 0.94 เหรียญ ที่ระดับ 19.78 เหรียญ/บาร์เรล โดยมีช่วงหนึ่งปรับขึ้นไปเหนือระดับ 20 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิด -0.6% หรือ 0.07 เหรียญ ที่ระดับ 26.31 เหรียญ/บาร์เรล

สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์  ราคาสัญญาน้ำมัน WTI ปิด +16% ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิด +20%

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันจันทร์นี้ ราคาน้ำมันกลับมาเคลื่อนไหวในแดนลบอีกครั้ง เนื่องจากตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์ที่อ่อนแอจากวิกฤติไวรัส แม้อัตราการระบาดในหลายๆประเทศจะเริ่มชะลอตัวลงก็ตาม ประกอบกับโอกาสที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนอาจกลับมาอีกครั้ง




บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com