• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 30 เมษายน 2563

    30 เมษายน 2563 | Gold News

· ราคาทองคำปรับลดลงวันนี้ ท่ามกลางความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่ฟื้นตัวหลังมีรายงานเกี่ยวกับการทดสอบยารักษาไวรัสโคโรนาที่ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ แต่ราคาทองคำยังยืนเหนือระดับ 1,700 เหรียญได้จากแรงหนุนหลังประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ที่มีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ใกล้ระดับ 0%

ราคาทองคำปรับลดลง 0.1% แถว 1,710.21 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.8% แถว 1,726.80 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จาก AxiCorp ระบุว่าภาพรวมของราคาทองคำยังคงเป็นขาขึ้น โดยมีแรงหนุนหลักมาจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางในหลายๆประเทศ ดังนั้นจึงมองว่าราคาทองคำจะกลับมาปรับสูงขึ้นได้อีก

· ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากมีรายงานว่าการทดลองตัวยา remdesivir ของสถาบัน Gilead Sciences กับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สามารถช่วยให้ผู้ติดเชื้อสามารถฟื้นตัวจากอากาศป่วยได้เร็วกว่าเดิม

ตลาดหุ้นเอเชียปรับสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์จากรายดังกล่าว ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังเฟดส่งสัญญาณจะคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ใกล้ระดับ 0% ต่อไปอีกสักระยะ รวมถึงย้ำว่า “จะใช้ทุกเครื่องมือที่มี” ในการสนับสนุนเศรษฐกิจท่ามกลางวิกฤตไวรัส

ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดหุ้นยังได้รับแรงหนุนจากการรายงานตัวเลขกิจกรรมทางอุตสาหกรรมในประเทศจีนที่ประกาศออกมาขยายตัวได้ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากมีผู้ประกอบการกลับมาดำเนินธุรกิจกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่รายงานยอดส่งออกที่ออกมาลดน้อยลง บ่งชี้ถึงทิศทางการฟื้นตัวในอนาคตที่ยังไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่

· ตลาดจะจับตาการประชุมของคณะกรรมการ ECB ในคืนนี้ ขณะที่ทาง ECB กำลังเผชิญแรงกดดันให้พิจารณาออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เนื่องจากเศรษฐกิจยุโรปมีความเสี่ยงที่จะหดตัวลงไปมากถึง 1 ใน 10 ภายในปีนี้

· อีกปัจจัยที่สะท้อนถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกที่เป็นผลกระทบมาจากวิกฤตไวรัส คือการรายงานยอด GDP ไตรมาสแรกของสหรัฐฯเมื่อคืน ที่ออกมาชะลอตัวลงด้วยอัตราที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สมัย Great Recession ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่า GDP ไตรมาสสองจะยิ่งหดตัวลงมากกว่านั้นอีก

· GOLD FORECAST: คาดทองคำขึ้นต่อ หลังเฟดส่งสัญญาณสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯเพิ่ม

บทวิเคราะห์จาก Daily FX ประเมินว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับสูงขึ้นต่อ หลังจากการประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ แม้เฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามคาดการณ์ แต่เฟดได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการพิจารณาเพิ่มการเข้าซื้อสินทรัพย์และขยายพอร์ตงบดุลต่อ ท่ามกลางวิกฤติไวรัสโคโรนา นอกจากนี้เฟดยังมีคาดการณ์เกี่ยวกับการชะลอและฟื้นตัวของเศรษฐกิจว่าจะเป็นไปในลักษณะ V-shape เหมือนกันคาดการณ์ของหลายๆสถาบันเช่นกัน

เมื่อมาดูในกราฟราคาทองคำระยะ 4 ช.ม. จะเห็นได้ว่าราคาเคลื่อนไหวในกรอบสามเหลี่ยม (Wedge pattern) เด้งไปมาตามเส้นเทรนทั้งด้านบนและด้านล่าง ดังนั้น ราคาทองคำในระยะสั้นน่าจะคงการเคลื่อนไหวในกรอบเดิมระหว่าง 1,700 – 1,750 เหรียญ เป็นแนวรับและแนวต้านสำคัญตามลำดับ

ส่วนในระยะยาวมองว่าราคาทองคำจะปรับขึ้นต่อ แม้จะบางช่วงที่อาจวิ่งขึ้นไปชนแนวต้านและย่อลงมาบ้าง แต่เมื่อพิจารณาจากปัจจัยทั้งทางเทคนิคและพื้นฐานทางเศรษฐกิจแล้ว เชื่อว่าราคาทองคำจะปรับขึ้นต่อในภาพรวมระยะยาว

· Frank Holmes คาดราคาทองคำจะพุ่งขึ้นไปถึง 2,700 เหรียญ

Frank Holmes CEO จากสถาบัน U.S. Global Investors ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Kitco โดยระบุว่าราคาทองคำจะได้รับแรงหนุนจากการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบพิเศษของธนาคารกลางหลายๆแห่งและปรับสูงขึ้นได้อย่างง่ายดาย

ขณะที่ตลาดหุ้น แม้จะปรับสูงขึ้นได้ แต่นั่นเป็นเพราะธนาคารกลางมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจเป็นมูลค่าหลานล้านล้านเหรียญ ไม่ได้มาจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจแต่อย่างใด จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะเงินเฟ้อในอนาคต

นอกจากนี้ ทองคำก็เริ่มมีสัญญาณของภาวะขาดแคลนอุปทาน เหมือนกับพลาเดียมเมื่อปีก่อนที่ปรับขึ้นจากระดับ 1,000 เหรียญ สู่ระดับ 2,700 เหรียญ ได้อย่างง่ายดาย โดยมีสาเหตุหลักมาจากภาวะดังกล่าง ดังนั้นจึงมองว่าราคาทองคำก็มีโอกาสที่จะปรับขึ้นไปถึงระดับ 2,700 เหรียญได้ง่ายๆเช่นกัน

· Gold Price Analysis: เกิดสัญญาณขาลงในกราฟ 4 ช.ม.

บทวิเคราะห์จาก FX Street ประเมินว่าการที่ราคาได้รีบาวน์ขึ้นมาจากระดับต่ำสุดของวันที่ 28 เม.ย. ที่ 1,690 เหรียญ ได้ทำให้ราคาก่อตัวเป็นลักษณะ Bear flag ในกราฟราย 4 ช.ม. ซึ่งเป็นสัญญาณของทิศทางขาลง

สำหรับในช่วงสายวันนี้ จุดต่ำสุดของชายธง (Flag) จะอยู่ที่ระดับ 1,700 เหรียญ ขณะที่ราคากำลังเคลื่อนไหวแถว 1,710 เหรียญ ดังนั้นหากราคาย่อตัวต่ำกว่า 1,700 เหรียญ จะเป็นการยืนยันทิศทางขาลงที่เริ่มจากระดับสูงสุดของวันที่ 23 เม.ย. ที่ 1,739 เหรียญ และเปิดโอกาสให้ราคาย่อตัวลงไปถึงระดับ 1,651 เหรียญ (พิจารณาจากลักษณะทางเทคนิคข้างต้น)

ในทางกลับกัน ราคาจะสามารถลบล้างสัญญาณขาลงได้ หากปรับขึ้นเหนือระดับ 1,720 เหรียญ

· ด้านราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.6% แถว 1,948.51 เหรียญ ส่วนราคาแพลทินัมปรับขึ้น 0.1% แถว 775.19 เหรียญ และราคาซิลเวอร์ปรับลดลง 0.6% แถว 15.27 เหรียญ 


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com