• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 22 เมษายน 2563

    22 เมษายน 2563 | SET News
 

· E-mini Dow Jones Industrial Average (YM) Futures Technical Analysis – แนวโน้มระยะสั้นเปลี่ยนเป็นขาลงตั้งแต่เมื่อคืน

บทวิเคราะห์จาก FX Empire ระบุว่า ดัชนี E-mini Dow Jones ส่งมอบเดือน มิ.ย. มีการปรับตัวสูงขึ้นภายในการซื้อขายวันนี้ หลังจากที่ถูกเทขายต่อเนื่องในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เนื่องราคาน้ำมันที่ตกต่ำลงเป็นครั้งประวัติการณ์ โดยเมื่อคืนนี้ บรรดาหุ้นเด่นในดัชนีมีการปรับร่วงกันลงประมาณ 60 จุด ทำให้ภาพรวมรายสัปดาห์ปรับลงมากกว่า 1,000 จุด ขณะที่ดัชนีหุ้น 30 ตันถูกกดดันลงโดยหุ้น Merck & Co. ที่ร่วงลงไปประมาณ 5.5% และ Boeing ที่ลดลงไป 5%

Daily Swing Chart Technical Analysis

แนวโน้มของดัชนีเป็นขาลงนับตั้งแต่เมื่อวาน ที่ดัชนีถูกเทขายลงไปทำระดับต่ำสุดที่ 23,079 จุด โดยทิศทางหลักจะสามารถเปลี่ยนเป็นขาขึ้นได้ก็ต่อเมื่อปรับขึ้นเหนือ 24,327 จุด

กรอบหลัก: มองไว้ระหว่าง 18,086 – 29,506 จุด โดยมีแนวต้านที่บริเวณ 23,796 ถึง 25,144 จุด ซึ่งเป็นจุดที่สามารถหยุดการปรับขึ้นของดัชนีได้เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

กรอบระยะกลาง: มองไว้ระหว่าง 18,086 – 26,962 จุด ซึ่งตลาดกำลังเคลื่อนไหวภายในกรอบนี้ ใกล้ระดับ Retracement 22,524 – 23,571 จุด

กรอบระยะสั้น: มองกรอบใหม่ไว้ที่ระดับ 18,086 – 24,327 จุด โดยระดับ Retracement zone ที่บริเวณ 21,207 – 20,470 จุด ดูจะเป็นเป้าหมายใหม่ที่ดัชนีจะปรับลดลงไป

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับลดลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำติดต่อกันเป็นวันที่สอง กำลังกดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุนและสะท้อนถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกท่ามกลางวิกฤติไวรัสโคโรนา

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปับลดลง 0.8%

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงทำระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ท่ามกลางนักลงทุนที่หลีกเลี่ยงการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงเนื่องจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำ ขณะที่ตลาดกำลังจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆในช่วงสัปดาห์ ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะรายงานออกมาไม่สดใสนัก จึงเป็นอีกปัจจัยที่กดดันความเชื่อมั่นของตลาด

โดยดัชนี Nikkei ปิด -0.74% ที่ระดับ 19,137.95 จุด นำโดยหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภคและเทคโนโลยีสารสนเทศ

· ตลาดหุ้นจีนปิดแดนบวก ท่ามกลางความหวังว่ารัฐบาลจะมีการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาอีก โดยดัชนี Shanghai Composite ปิด +0.6% ที่ระดับ 2,843.98 จุด ขณะที่ดัชนี Blue-chip CSI300 ปิด +0.82% นำโดยกลุ่มการเงินที่ปิด +0.01% กลุ่มอุปโภคบริโภคปิด +3.03% กลุ่มอสังหาฯ +0.29% และกลุ่มสุขภาพ +2.04%

· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดในแดนบวก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาและราคาน้ำมันดิบที่ปรับร่วงลง

โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.7% ด้านหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 1.9% ขณะที่น้ำมันและก๊าซลดลง 0.8%

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ครม.อนุมัติ พ.ร.บ. โอนงบฯ ปี 63 วงเงิน 1 แสนล้านบาท ชงสภาฯ 28 พ.ค.นี้ "คลัง" ตัดงบสูงสุด 3.6 หมื่นล้านกลาโหม 1.8 หมื่นล้าน งดซื้ออาวุธ-เรือดำน้ำ

- "แบงก์พาณิชย์" แห่ตั้งสำรองเพิ่มไตรมาสแรก หลังเอ็นพีแอล พุ่งจากพิษโควิด ทำเศรษฐกิจชะงัก พร้อมบันทึกขาดทุนทางเครดิต ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 เผย "6 แบงก์" ตั้งสำรองบวกขาดทุนทางเครดิตกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% ขณะเอ็นพีแอลพุ่งกว่า27% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในปี 63 จะหดตัว 5.6% แม้ว่าการส่งออกสินค้าอาหารคาดว่าจะยัง

ขยายตัวได้ดีจากอานิสงส์ความต้องการในตลาดโลก แต่ปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะถดถอย ส่งผลให้ความต้องการสินค้าไทยใน

ตลาดโลกโดยรวมลดลงไปด้วย ประกอบกับห่วงโซ่การผลิตหยุดชะงัก จากการประกาศล็อกดาวน์ของหลายประเทศทั่วโลก

- ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ยังคงประมาณการเดิมว่า การส่งออกไทยในปีนี้อาจติดลบถึง -8.6% เนื่องจากยังต้องเตรียมรับแรงปะทะระลอกใหม่ โดยเฉพาะในไตรมาส 2 ของปี 63 หลังสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศคู่ค้าหลักอย่างสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่นยังคงน่าเป็นห่วง จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศในกลุ่มนี้มีมากถึง 81.4% ของตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลก จนต้องยกระดับมาตรการปิดเมืองและ Social Distancing ในหลายประเทศตั้งแต่ช่วงปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ต้องเผชิญกับผลกระทบดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับจีน

ดังนั้นไทยซึ่งพึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดเหล่านี้สูงถึง 32.4% ทำให้ภาพสะท้อนที่รุนแรงของโควิด-19 น่าจะเริ่มเห็นผลกระทบชัดเจนขึ้นในไตรมาส 2 และหากยังไม่สามารถหาบทสรุปได้โดยเร็ว ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมการค้าโลกและส่งออกไทยรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และจะกลายเป็นโจทย์ที่ท้าทายธุรกิจไทยจากนี้ไป

- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,241.24 จุด ลดลง 11.68 จุด (-0.93%) มูลค่าซื้อขายราว 34,341.80 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,248.09 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,231.58 จุด

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ที่ติดลบ หลังจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานยังกดดันตลาดฯ จากราคาน้ำมันคงยังทรงตัวในระดับต่ำไปอีกพักใหญ่ตามความต้องการใช้น้อยลงขณะที่อุปทาน (Supply) สูงจนถังสำรองเก็บน้ำมันเริ่มเต็มแล้ว แต่ก็มีบางธุรกิจที่ได้รับผลบวกจากต้นทุนน้ำมันต่ำลง ทั้งธุรกิจถุงมือยางและยางมะตอย อย่าง TASCO เป็นต้น

อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

PTTEP หั่นงบลงทุน 5 ปี 10-15% ยอมรับยอดขายปีนี้ต่ำเป้า 5%

"ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม" เตรียมหั่นงบลงทุน 5 ปี ลง 10-15% จากเดิมที่ตั้งไว้ 7.1 แสนลบ. รับสถานการณ์น้ำมันดิบเปลี่ยน ยันไม่กระทบปริมาณผลิตและขาย และกำลังผลิตใหม่ในอนาคต แต่รับปริมาณการขายปีนี้ต่ำกว่าเป้า 5% ด้านนักวิชาการด้านพลังงาน ยันราคาน้ำมันดิบ WTIติดลบครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ไม่กระทบราคาขายปลีกในประเทศ

*** หั่นงบลงทุน 5 ปี 10-15% รับสถานการณ์เปลี่ยน

นางชนมาศ ศาสนนันทน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนปรับแผนการลงทุน 5 ปี (63-67) ลงประมาณ 10 - 15% จากเดิมที่คาดไว้ 24,619 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 715,216 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น รายจ่ายการลงทุน 14,239 ล้านเหรียญสหรัฐ และรายจ่ายดำเนินงาน 10,380 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะสามารถสรุปแผนได้ภายในเร็วๆนี้

อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อ "โควิด-19" รายใหม่เพิ่ม 15 ราย รวมยอดสะสม 2,826 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดเสียชีวิตอยู่ที่ 49 ราย รักษาหาย 244 ราย ผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านเเล้ว 2,325 ราย (83.23%)

ทั้งนี้ ผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 15 ราย ใน 6 จังหวัด เข้ารับการรักษาใน ชุมพร (4), สงขลา (4), กรุงเทพมหานคร (3), พระนครศรีอยุธยา (2), ปทุมธานี (1) และ นครปฐม (1)

กรุงเทพมหานคร มีผู้ป่วยที่รับรักษาสะสมมากที่สุด (1,451 ราย) ตามด้วย ภูเก็ต (193), นนทบุรี (152), สมุทรปราการ (109), ยะลา (95), ชลบุรี (85), ปัตตานี (79), สงขลา (43), เชียงใหม่ (40) , และปทุมธานี (35) โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนอีก 65 ราย และมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระหว่าง state quarantine ในจังหวัดต่างๆ 71 ราย ทั้งนี้ ผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 15 ราย ใน 6 จังหวัด เข้ารับการรักษาใน ชุมพร (4), สงขลา (4), กรุงเทพมหานคร (3), พระนครศรีอยุธยา (2), ปทุมธานี (1) และ นครปฐม (1)

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com