• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 16 เมษายน 2563

    16 เมษายน 2563 | SET News



· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดสุดในรอบ 4 เดือนท่ามกลางการปรับแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากผลกระทบเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนากดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจจึงส่งผลให้ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลดลงไป

โดยข้อมูลแสดงให้เห็นว่ายอดค้าปลีกสหรัฐลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนที่แล้วและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงมากที่สุดในรอบ 74 ปีทำให้เกิดความกลัวว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง รวมทั้งคาดว่าจะมีตัวเลขผู้ว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มสูงขึ้นอีก

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นลดลงประมาณ 1%

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงตามการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนากดดันความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทึน โดยหุ้นภาคธนาคารและผู้ผลิตรถยนต์ก็ปรับตัวลดลงในวันนี้

ด้านดัชนี Nikkei ลดลง 1.3% ที่ระดับ 19,290.20 จุด ขณะที่ดัชนี Topix ลดลง 0.8% ที่ระดับ 1,422.24 จุด

ทั้งนี้ ดัชนีหลักทั้ง 3 ตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับลดลง เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจและรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกที่ที่อ่อนแอ ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับขอบเขตความเสียหายจากการระบาดของไวรัสโคโรนา

· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุน แต่ปรับขึ้นได้เล็กน้อยก่อนที่จะประกาศข้อมูลจีดีพีของจีนในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่าจีดีพีจะหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี

โดยดัชนี Shanghai Composite ปิดเพิ่มขึ้น 0.3% ที่ระดับ 2,819.94 จุด ขณะที่ดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 เพิ่มขึ้น 0.1%

· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้ขานรับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนาที่อาจผ่อนคลายลงจากหลายๆประเทศที่จะเริ่มก้าวออกจากมาตรการ Lockdwon

โดยดัชนี Stoxx 600 ปรับขึ้น 1.2% ท่ามกลางหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและที่พักที่ปรับขึ้นไปกว่า 2.4% และหุ้นทุกภาคส่วนดูจะมีการรีบาวน์ได้

มีรายงานว่า มีจำนวนประเทศในแถบยุโรปเพิ่มมากขึ้นที่เริ่มต้นมองหาแนวทางการผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มสำหรับการใช้ชีวิตและภาคธุรกิจในสัปดาห์นี้ โดยที่เยอรมนีเป็นประเทศล่าสุดที่จะกำหนด Road Map สำหรับการเปิดทำการทางเศรษฐกิจ โดยจะเริ่มให้ร้านค้าขนาดเล็กสามารถกลับมาเปิดกิจการได้ในวันที่ 20 เม.ย. ตราบเท่าที่มาตรการยังส่งผลบวกก็อาจจะค่อยๆให้โรงเรียนและสถานศึกษากลับมาเปิดทำการได้อีกครั้งในช่วง 4 พ.ค. แต่หากไม่ดีก็อาจขยายเวลาออกไปจนถึง 31 ส.ค.


อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- รมว.คลัง แจงเงินที่จ่ายในมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-49 ในเดือน เม.ย.เพียงเดือนเดียวนั้นเป็นงบประมาณในส่วนที่กันไว้จากปีงบประมาณ 2563 แต่เมื่อมีการกู้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทก็จะมีการใช้เงินเข้ามาใช้ในส่วนนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแผนงานของรัฐบาล ดังนั้นเงินที่จะจ่าย 5,000 บาท/เดือนในอีก 2 เดือนที่เหลือ (พ.ค.-มิ.ย.) ขึ้นอยู่กับ พ.ร.ก.กู้เงินฯ จะมีผลบังคับใช้ได้เมื่อใด ซึ่งหลังจากนั้นจึงจะสามารถกู้เงินได้

- โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่ารัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอในการเยียวยาประชาชนครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพซึ่งนายกรัฐมนตรีห่วงใยและต้องการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างครอบคลุมและจะทำอย่างเต็มที่

- บอร์ดพีพีพีไฟเขียวแผนจัดทำโครงการร่วมลงทุนรัฐ-เอกชน ปี'63-70 รวม 92 โครงการ มูลค่าลงทุน 1.09 ล้านล้านบาท ชู 18 โครงการเร่งด่วน มูลค่า 4.72 แสนล้านบาทมั่นใจช่วยสร้างความสนใจและดึงดูดเอกชนเข้าร่วมลงทุนตามเป้า

- 'วันเดอร์แมน ธอมสัน' เผยผลสำรวจปัญหาโควิด-19 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหลายประเทศ พบไทยกังวลเรื่องเศรษฐกิจ

ถดถอยมากที่สุด ปรับพฤติกรรมซื้อสินค้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น นิยมซื้อบะหมี่สำเร็จรูปมากถึงกว่า 52% ส่วนสินค้าราคาแพงทั้งรถ-อสังหาฯ ตั้งใจซื้อน้อยลงในช่วงนี้ ขณะเดียวกับผู้มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาท/เดือน ระมัดระวังการใช้จ่ายทั้งออฟไลน์ และออนไลน์

- ครม.ไฟเขียวร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ ปลัดก.คลังเผยรอนำทูลเกล้าฯ เริ่มกู้ได้ปลาย เม.ย.-ต้นเดือน พ.ค. กางแผนแบ่ง 3 ก้อน รักษาคนป่วย-ผลิตวัคซีน 4.5 หมื่นล้าน ทุ่ม 5.5 แสนล้านจ่ายเยียวยา และเตรียมฟื้นฟูประเทศอีก 4 แสนล้าน

- ครม.เห็นชอบขยายความครอบคลุม ผู้ประกันตนรับสิทธิว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย สามารถรับเงินกรณีว่างงาน 62% ของค่าจ้างรายวัน ไม่เกิน 90 วัน


อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 29 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 2,672 ราย ใน 68 จังหวัด เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 46 ราย รักษาหายป่วยแล้ว 1,593 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อายุระหว่าง 20-29 ปี จำนวน 634 ราย อายุมากที่สุด 97 ปี และน้อยที่สุด 1 เดือน อายุเฉลี่ย 40 ปี แบ่งตามภูมิภาค กรุงเทพฯ นนทบุรี 1,502 ราย ภาคเหนือ 95 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 107 ราย ภาคกลาง 344 ราย และภาคใต้ 551 ราย

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com