• การเก็บภาษีจีนของสหรัฐฯ จะกดดันการรับมือไวรัสในสหรัฐฯเสียเอง

    14 เมษายน 2563 | Economic News


สหรัฐฯมีการเรียกเก็บภาษีสำหรับการนำเข้าสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์จากหลายๆประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศจีนในระดับค่อนข้างสูง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากสงครามการค้าระหว่างทั้งสองประเทศที่เริ่มขึ้นเมื่อปี 2018 ที่มีการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าตอบโต้กันหลายต่อหลายครั้ง


แต่ในปัจจุบัน สหรัฐฯมีความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นอย่างมากเพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศ เนื่องจากสหรัฐฯได้กลายเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดในโลก ดังนั้นการเรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีน จะกลายเป็นอุปสรรคที่กดดันความสามารถในการรับมือไวรัสของสหรัฐฯเสียเอง เนื่องจากสหรัฐฯจำเป็นต้องนำเข้าอุปกรณ์ดังกล่าวมาจากประเทศจีน ลำพังการผลิตในสหรัฐฯเองอาจไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ไวรัสในประเทศ


Yanzhong Huang สมาชิกระดับอาวุโสประจำสมาคมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับ CNBC โดยมีมุมมองว่า หากสหรัฐฯไม่มีการเรียกเก็บภาษีจากจีนในระดับสูง สหรัฐฯจะอยู่ในสภาวะที่ดีกว่านี้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆที่มี “ความยืดหยุ่น” ในการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้า


โดยรายงานข่าวในช่วงที่ผ่านมาไม่นานนี้ จะเห็นรายงานเกี่ยวกับการที่หลายๆรัฐในสหรัฐฯ เริ่มมีจำนวนเตียงผู้ป่วย ICU ไม่เพียงพอ ขณะที่นครนิวยอร์กเองก็มีรายงานว่าเครื่องช่วยหายใจอาจไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยในเร็วๆนี้ และยังรวมไปถึงอุปกรณ์ป้องกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่เริ่มจะร่อยหรอลงไปแล้วเช่นกัน


ทั้งนี้ สหรัฐฯมีการนำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเข้าขั้นวิกฤติคิดเป็นมูลค่า 3.3 พันล้านเหรียญ ซึ่งกลุ่มนี้ถูกเรียกเก็บภาษี 7.5% ขณะที่อุปกรณ์สำหรับการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาโดยทั่วไปถูกเรียกเก็บภาษีมากถึง 25% ซึ่งสถาบัน PIIE ได้ระบุว่าการเรียกเก็บภาษีในส่วนนี้ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ในสหรัฐฯ


ที่มา: CNBC



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com