· ตลาดหุ้นเอเชียค่อนข้างผันผวนในวันนี้ ท่ามกลางดัชนีฟิวเจอร์สสหรัฐฯที่รีบาวน์ขึ้นจากการที่หุ้นสหรัฐฯตกหนักเป็นประวัติการณ์ในคืนวันจันทร์ จากทั่วโลกที่ตระหนกต่อไวรัสโคโรนาที่ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลต่ออนาคต
ดัชนี S&P500 Futures ปรับขึ้น 3.7% หลังปรับตัวลงไปกว่า 12% ในช่วงค่ำของตลาดนิวยอร์กวันจันทร์ ขณะที่ Dow Jones Futures ปรับลงไปกว่า 700 จุด หรือ +3.5% หลังไปทำต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในคืนเดียวกัน ด้าน Nasdaq Futures เปิด +3.4% หลังจากดิ่งไปกว่า 2 เท่าในคืนวาน
สำหรับดัชนีฮั่งเส็งวันนี้ค่อนข้างทรงตัว หลังจากที่ฮ่องกงมีการประกาศเรียกร้องให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ปรับลง 0.4%
ด้าน Philippine Stock Exchange เป็นตลาดแรกที่ปิดจากสภาวะการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยประกาศผ่านทางเว็บไซต์ โดยจะมีการระงับการซื้อขายจนกว่าจะมีการประกาศอีกครั้ง
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดแดนบวกขึ้นได้เล็กน้อย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการเข้าซื้อของธนาคารกลางญีปุ่นและกองทุนบำเน็จบำนาญเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจในภาพรวม
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นในตลาดยังอยู่ในระดับที่อ่อนแอ ท่ามกลางการปิดประเทศของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงสหรัฐฯ เพื่อพยายามชะลอการระบาดของไวรัสโคโรนา
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด +0.1% ที่ระดับ 17,011.53 จุด โดยในช่วงต้นตลาดปรับร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดตั้งแต่ พ.ย. ปี 2016
· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วที่ส่งผลให้หลายๆหน่วยงานเข้าสู่สภาวะ Shutdown จึงทำให้เกิดความกังวลที่ว่าจะส่งผลให้เกิดภาวะถดถอย
ดัชนี Stoxx600 เปิด +2.7% ในช่วงเริ่มต้นการซื้อขายวันนี้ ท่ามกลางกลุ่มยานยนต์ท่ี่เปิด +5% และหุ้นส่วนอื่นที่เข้าสู่แดนบวก ยกเว้นแต่ดัชนีในกลุ่มการท่องเที่ยวและที่พักที่เคลื่อนไหวแดนลบ
ยุโรปเผชิญภาวะ Lockdwon จากการแพร่ระบาดในหลายๆพื้นที่ ตั้งแต่อิตาลี และสเปนที่เผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างหนัก แม้แต่ฝรั่งเศสกับเยอรมนีก็ยังมีรายงานการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงส่งผลให้ล่าสุดประธานาธิบดีฝรั่งเศสประกาศว่าอาจจะมีการปิดยุโรปในวันนี้ ขณะที่ประชาชนชาวฝรั่งเศสให้กักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 15 วัน
ทางด้านรัฐบาลอังกฤษประกาศปิดสถานศึกษา และมีแผนให้คำแนะนำแก่ประชาชน โดยเน้นย้ำให้หลีกเลี่ยงการพบปะและติดต่อกัน
· ประเทศไทยประกาศเลื่อนวันหยุดสงกรานต์ในเดือนหน้าระหว่าง 13-15 เม.ย. พร้อมประกาศสั่งปิดสถานศึกษาเพื่อสกัดการระบาดของไวรัสโคโรนา
อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ
- มติ 'ครม.' สั่งปิดสถานบริการ พื้นที่กทม.-ปริมณฑล 14 วัน
ที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้สถานบริการ ในเขตกทม.และปริมณฑล หยุดบริการเป็นเวลา 14 วัน เริ่มพรุ่งนี้ ซึ่งรวมถึง โรงหนัง-สถานบันเทิง ผับ บาร์ ร้านนวดไทย นวดโบราณ ที่เป็นร้านที่เข้ากฎหมายว่าด้วยสถานบริการให้ปิดทั้งหมด
อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
- สาธารณสุข เผยพบผู้ป่วย โควิด-19 เพิ่ม 30 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 177 ราย ชี้ส่วนใหญ่มาจากผู้เฝ้าระวัง จากสนามมวย 11 ราย มีรายใหม่จากตปท.อีก 9 ราย เฝ้าระวังอีก 22 ราย
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ว่า ล่าสุดมีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ เพิ่มอีก 30 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 177 ราย โดยส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง
ทั้งนี้ผู้ติดเชื่อส่วนใหญ่ เป็นการติดเชื้อจากกลุ่มเดิม โดยเป็นกลุ่มสนามมวยอีก 11 ราย จากสถานบันเทิงทองหล่อ 1 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่กลับจากต่างประเทศ 9 ราย (คนไทย 6 ต่างชาติ 3) นอกจากนี้มีแท็กซี่ 1 ราย รับผู้โดยสารต่างชาติ ขณะที่ยังมีผู้เฝ้าระวังรอยืนยันผลอีก 22 ราย
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- รัฐบาลแถลงยืนยัน โควิด-19 ประเทศไทยยังอยู่ระยะที่ 2 นายกฯ แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ วอนประชาชนอย่าวิตกเกินไป อย่าตุนสิ่งของ
- "วิษณุ" เผยขอ ครม.ปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัย สนามกีฬา สถานบันเทิง ที่มีผู้คนเกิน 50 และที่ที่มีการชุมนุมต่อเนื่องยกเลิกวันหยุดสงกรานต์ 13-15 เม.ย. หวังสกัดแพร่ระบาดลดความเสี่ยงเข้าสู่ระยะที่ 3
- การท่องเที่ยวฯ ประเมินโควิดคลี่คลายในไตรมาส 3 ทำให้เดือนส.ค.เริ่มกลับมาปกติคาดต่างชาติมาไทยช่วงครึ่งหลังคาดตลอดปีมี 30 ล้านคน ลดลง 24% รายได้หด 5 แสนล้านบาท หากเป็นปกติแล้วจะมีมาตรการฟื้นฟูท่องเที่ยวทันที แต่ถ้าสถานการณ์ยังไม่ฟื้นต้องปรับแผนใหม่
- นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK พร้อมนำร่องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) จากเดิม 5.985% ต่อปี ซึ่งอยู่ในระดับต่ำสุดแล้วในระบบ เหลือเพียง 5.75% ต่อปี ต่ำที่สุดในระบบธนาคารปัจจุบัน มีผลตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อช่วยเหลือลูกค้าและผู้ประกอบการไทยให้สามารถดำเนินธุรกิจการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศได้อย่างไม่สะดุด มีต้นทุนต่ำลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
- รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยวาระการพิจารณาวันนี้ จะมีมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของกระทรวงการคลัง และกระทรวงอื่นจะเป็นการเสริมเข้าไป ซึ่งจะเน้นเรื่องการดำรงชีพของประชาชน หลังจากมีมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนแล้ว
โดยที่ประชุมครม.จะพิจารณาข้อเสนอมาตรการลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดจากการเคลื่อนย้ายคนในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เสนอให้งดวันหยุดช่วงสงกรานต์ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย.63 โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการหรือวันหยุดของเอกชน แต่ชดเชยวันหยุดในช่วงอื่นให้แทนเมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้บรรเทาเบาบางลง รวมทั้งการพิจารณามาตรการเยียวยาให้ประชาชนที่ซื้อตั๋วเดินทางกลับต่างจังหวัดล่วงหน้าไว้แล้ว
นอกจากนี้ ครม.จะได้พิจารณามาตรการป้องกันการแพร่ระบาด โดยให้งดกิจกรรมในสถานที่มีคนมาชุมนุมกันจำนวนมาก และปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงดังกล่าว เช่น สนามมวย สนามกีฬา สถานบันเทิง สถานศึกษา, การพิจารณายกเลิกชั่วคราวการตรวจลงตรา ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) หรือ VOA ใน 18 ประเทศ+1 เขตเศรษฐกิจ และการยกเว้นการตรวจลงตรา (Free Visa) ของประเทศที่มีความเสี่ยงสูง เป็นต้น
สำนักงบประมาณ เสนอการขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2563 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามมาตรการด้านการงบประมาณ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) และสถานการณ์ภัยแล้ง
กระทรวงวัฒนธรรม เสนอข้อควรปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีอื่น ๆ และพิธีทางศาสนาในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอให้พิจารณาการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีหาเอเชียนอินดอร์ และมาเซี่ยลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ค.ศ.2021