• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 11 มีนาคม 2563

    11 มีนาคม 2563 | SET News

· ดัชนีดาวโจนส์จ่อเปิดลบกว่า 700 จุดในคืนนี้

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับตดลงในช่วงบ่ายวันนี้ประมาณ 620 จุด บ่งชี้ว่าดัชนีดาวโจนส์คืนนี้มีแนวโน้มเปิด -762.16 จุด หลังจากดัชนีมีความผันผวนอย่างมากในการเทรดเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนีฟิวเจอร์ส S&P 500 และ Nasdaq 100 ต่างเคลื่อนไหวในแดนลบเช่นเดียวกัน

· ดัชนีอนุพันธ์หุ้นสหรัฐฯอ่อนตัวลง เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอรายละเอียดจากทีมบริหารของนายทรัมป์ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากไวรัสโคโรนา ในขณะที่หุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผสมผสานกัน และราคาน้ำมันมีการปรับตัวขึ้นโดยปราศจากสัญญาณชัดเจนใดๆ

นักกลยุทธ์ฝ่ายการตลาดโลกจาก JPMorgan Asset Management กล่าวว่า เราเห็นถึงการฟื้นตัวของตลาดต่างๆได้แต่นั่นก็ยังไม่ถือว่าเป็นการปรับขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ และการรับมือกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างล่าช้า ส่งผลให้การจ้างงานเริ่มมีการปรับตัวลดลง และอัตราว่างงานดูจะเริ่มเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ดูเป็นการยากขึ้นที่จะพยายามฟื้นตัวให้กลับมาเหมือนเดิมในเร็ววัน แต่น่าจะพลิกกลับมาได้ในช่วงปลายปีนี้

ในนขณะเดียวกัน นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯดูจะมีคะแนนนำในศึกค้นหาตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯในปีนี้ ได้ช่วยคลายความกังวลกับตลาดได้มากกว่าการที่คู่แข่งคนสำคัญในพรรคอย่างนายเบอร์นีย์

ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินทั่วโลกก็ยังคงดำเนินต่อไป อันเนื่องจากไวรัสโคโรนาและสงครามราคาน้ำมัน จึงทำให้ภาพรวมของตลาดหุ้นสหรัฐฯนั้นดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา และจะเห็นถึงแรงเทขายอย่างต่อเนื่องกว่า 20% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ ก่อนจะปรับตัวสูงขึ้นขานรับคำสัญญาที่นายทรัมป์ให้ไว้ว่าจะเดินหน้าหามาตรการสู้ไวรัสเมื่อวานนี้

หัวหน้าฝ่ายการรลงทุนจาก Whittier Trust กล่าวกับสำนักข่าว Bloomberg ว่า เราไม่ควรที่จะเทขายในช่วง Panic หรือมีความกังวลมากเกินไป เนื่องจากยังไม่มีใครรู้ว่าจริงๆแล้วการแพร่ระบาดของไวรัสจะขยายวงกว้างเท่าไหร่ เช่นเดียวกับสงครามราคาน้ำมันในเวลานี้ เพราะความเป็นจริง ณ ขณะนี้คือการค่อยๆเกิดขึ้น ที่น่าจะส่งผลกระทบและใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมอีซีบีที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีนี้ ที่มีการคาดการณ์กันว่าอีซีบีน่าจะใช้แนนวทางการผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่ทางอังกฤษคาดจะเผยงบประมาณปี 2020 ในวันนี้ ควบคู่กับการประกาศข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯในวันนี้ที่คาดว่าจะยังชะลอตัวในเดือนก.พ.

· ตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นสหรัฐฯล่วงหน้าปรับตัวลดลง เนื่องจากความสงสัยที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯเพื่อต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโคโรนาทำให้เกิดการปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วงก่อนหน้านี้

โดยตลาดได้ฟื้นตัวจากแรงเทขายทั่วโลกเมื่อวานนี้ ที่เกิดจากการที่ราคาน้ำมันตกต่ำและการระบาดของโรคที่เลวร้ายลง

ทั้งนี้ กำไรเหล่านั้นเกิดเพียงแค่ช่วงต้นตลาดเอเชีย โดย U.S. stock futures ลดลง 2.2% และดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นลดลง 0.29% ด้านหุ้นออสเตรเลียลดลง 2.02% ขณะที่ดัชนี Nikkei ลดลง 1.28%

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง

ดัชนี Nikkei ลดลง 2.27% ที่ระดับ 19,416.06 จุด ปิดปรับตัวทำระดับต่ำที่สุดในรอบ 15 เดือน โดยดัชนีเคลื่อนไหวเกือบ 600 จุด ระหว่างแดนบวกและลบ ด้านดัชนี Topix ลดลงเป็นครั้งแรกในการซื้อขาย 1.53% ที่ระดับ 1,385.12 จุด เนื่องจากเหล่านักลงทุนผิดหวังเกี่ยวกับรายละเอียดขอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

ทั้งนี้ หุ้นที่ปรับตัวลดลง นำโดย หุ้นภาคบริการ อสังหาฯ และเภสัชกรรม

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศที่ลดลง หลังจากนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเข้าเยี่ยมชมเมืองอู่ฮั่นและเนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะหนุนเศรษฐกิจของจีน

โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.9% ที่ระดับ 2,968.52 จุด หลังจาดเคลื่อนไหวในแดนบวกช่วงก่อนหน้านี้

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ราคาน้ำมัน และการเมือง

โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มึข้น 1.9% ด้านหุ้นสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น 3% ท่ามกลางตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก

· ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมของไทย เรียกประชุมด่วน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด ขยายวงกว้างขึ้นในไทย ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาอยู่ในไทยก่อนหน้านี้นั้น ให้กักตัวในโรงแรมที่รัฐบาลประสานไว้ แต่ยืนยัน ยังไม่ยกระดับสถานการณ์โควิด-19 เป็นระดับ 3 เพราะยังสามารถควบคุมได้

อย่างไรก็ตามรัฐบาล ตัดสินใจ สั่งยกเลิกการขอวีซ่าฟรี 3 ประเทศ คือ ฮ่องกง-อิตาลี-เกาหลีใต้แล้ว และยังยกเลิก Visa on Arrival (VOA) จาก 18 ประเทศ จนกว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 จะคลี่คลาย

ทั้งนี้ รายชื่อ 18 ประเทศ ที่ถูกยกเลิก Visa on Arrival (VOA) ได้แก่

1.บัลแกเรีย

2.ภูฏาน

3.จีน

4.ไซปรัส

5.เอธิโอเปีย

6.หมู่เกาะฟิจิ

7.จอร์เจีย

8.อินเดีย

9.คาซัคสถาน

10.มอลตา

11.เม็กซิโก

12.นาอูรู

13.ปาปัวนิวกินี

14.โรมาเนีย

15.รัสเซีย

16.ซาอุดีอาระเบีย

17. อุซเบกิสถาน

18.วานูอูตู

และไต้หวัน(เขตเศรษฐกิจ)

· ก.ล.ต.ขานรับมติคณะรัฐมนตรีการจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ที่มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ โดยจะออกประกาศที่เกี่ยวข้องภายในวันที่ 16 มีนาคม 2563 และยกเว้นค่าธรรมเนียมจัดตั้งและจดทะเบียนกองทุนดังกล่าวให้กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุ

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในประเทศไทยยังอยู่ในระยะที่ 2 คือมีการแพร่เชื้ออย่างจำกัด หรือ Limited Local Transmission ไม่ได้แพร่ระบาดไปหลายรุ่นจนถึงขั้นเข้าสู่ระยะที่ 3

- นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือกับนายหยางซิน อุปทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยว่า ได้สอบถามเรื่องที่ทางจีนมีนโยบายจะให้ความช่วยเหลือกับมิตรประเทศ เพราะสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีนเริ่มคลี่คลายเป็นไปในทางที่ดีขึ้น โดยอุปทูตได้สอบถามว่าความต้องการให้ช่วยเหลือของไทย นอกจากในช่วงที่ผ่านมานั้นทางการจีนได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขมาตลอดเรื่ององค์ความรู้ในการแก้ไขปัญหาทางการแพทย์ที่จะทำสงครามกับเชื้อไวรัสโควิด-19

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้แจ้งกับทางการจีนว่าต้องการความชวยเหลือทุกด้าน โดยเฉพาะอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น ได้แก่ 1.หน้ากากอนามัยที่ใช้ทางการแพทย์ เนื่องจากไทยมีกำลังการผลิตเพียงวันละ 1.2 ล้านชิ้น 2.หน้ากากแบบ N95 (ขนาดหนา) 3.ชุด PPE (Personal Protection Equipment ) อุปกรณ์ป้องกันร่างกายส่วนบุคคล หรือชุดคลุมทั้งตัวที่ใช้ในห้องติดเชื้อ 4.ชุดคัดกรองไวรัสโควิด-19 ที่ใช้ในการตรวจหาเชื้อ และ 5.วัตถุดิบที่ใช้ผลิตหน้ากากอนามัย ซึ่งขณะนี้มีราคาสูงมากจากกิโลกรัมละ 3 ดอลลาร์ ขึ้นไปเป็นกิโลกรัมละ 45 ดอลลาร์

อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุกิจ

- รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง และสถานีกลางบางซื่อ โดยระบุว่า จากการประเมินสถานการณ์ในขณะนี้ คาดว่ากำหนดเดิมที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือน ม.ค.2564 ขณะนี้มีความเสี่ยงที่จะล่าช้ากว่าเป้าหมาย เนื่องจากงานหลายด้านยังไม่คืบหน้า

โดยเฉพาะการเปลี่ยนพันธกิจของบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ที่ปัจจุบันการบริหารโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ให้เป็นผู้บริหารการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งผู้เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดและยังไม่ได้เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ทั้งนี้ หากเรื่องดังกล่าวยังไม่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. ภายในเดือน เม.ย. – พ.ค.นี้ จะทำให้การฝึกอบรมบุคลากรของบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. ไม่ทันกับเป้าหมาย และกระทบต่อการเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง ส่งผลให้ ร.ฟ.ท. และกระทรวงคมนาคมอาจจะต้องหาแผนสำรองเพื่อแก้ปัญหา อีกทั้ง ปัจจุบัน ร.ฟ.ท.ก็ยังไม่ได้สรุปแนวทางการบริหารสถานีกลางบางซื่อ และเปิดประมูลหาเอกชนร่วมทุน ส่งผลให้การเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่ออย่างเต็มรูปแบบก็จะไม่ทันกำหนด ม.ค.2564

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com