• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563

    13 กุมภาพันธ์ 2563 | Economic News


· ค่าเงินแข็งค่าจากระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังมณฑลหูเป่ยรายงานยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาออกมาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ขณะที่ค่าเงินหยวนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลก

ค่าเงินเยนแข็งค่า 0.2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แถว 109.89 เยน/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับอ่อนค่าที่สุดของวันที่ 21 ม.ค.

ด้านค่าเงินหยวนในประเทศอ่อนค่า 0.13% แถว 6.9809 หยวน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินหยวนนอกประเทศอ่อนค่า 0.22% แถว 0.6724 หยวน/ดอลลาร์

ฝั่งค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่า 0.22% แถว 0.6724 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่า 0.2% แถว 0.6453 ดอลลาร์



· ด้านค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร แข็งค่าขึ้นแถว 1.0868 ดอลลาร์/ยูโร ใกล้ระดับแข็งค่าที่สุดในรอบ 2 ปี ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่มีต่อความมั่นคงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ขณะที่ค่าเงินปอนด์ทรงตัวแถว 1.2955 ดอลลาร์/ปอรด์ หลังจากเมื่อต้นสัปดาห์ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง เนื่องจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมาสดใส แต่ตลาดยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับหนทางการเจรจาหาข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและอียู เนื่องจากนายกรัฐมนตรีอังกฤษมีท่าทีค่อนข้างแข็งกร้าวต่อการเจรจากับอียู



สถานการณ์ไวรัสโคโรนา





· รายงานจากทาง CNN ระบุว่า มียอดผู้เสียทีวิตเพิ่มในมณฑลหูเป่ย 242 ราย จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในจีนอยู่ที่ 1,355 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตที่ฮ่องกงมีจำนวน 1 ราย และผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์ 1 ราย รวมผู้เสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่ "1,357 ราย"

ตัวเลขผู้ติดเชื้อในหูเป่ยเพิ่มขึ้นอีก 14,840 ราย ภาพรวมจำนวนการติดเชื้อทั่วโลกตอนนี้พุ่งสูงขึ้นแตะ 60,015 ราย โดยหลักๆพบผู้ติดเชื้อในจีน

อย่างไรก็ดี สำนักงานคณะกรรมาธิการสาธารณสุขจีนถูกคาดว่าจะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดอีกครั้งในวันนี้



· หลังจากที่หน่วยงานด้านสุขภาพประจำมณฑลหูเป่ยรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโคโรนาไวรัสออกมาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากการเปลี่ยนรูปแบบการตรวจคัดกรองโรค พรรคคอมมิวนิสต์และประเทศจีนจึงตัดสินใจสั่งปลดเจ้าหน้าระดับสูงของมณฑลหูเป่ยออกจำนวน 2 ราย ซึ่งก็คือผู้ว่ามณฑลหูเป่ยและเลขาธิการพรรคประจำหูเป่ย

ก่อนหน้านี้ มณฑลหูเป่ยจะยืนยันว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาก็ต่อเมื่อผลการตรวจ RNA ออกมาเป็นบวก แต่ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เปลี่ยนรูปแบบการตรวจมาเป็นการใช้ CT Scan หากตรวจพบการติดเชื้อในปอด ผู้ป่วยก็จะได้รับการรักษาในทันที

หัวหน้าฝ่ายการวิจัยด้านความปลอดภัยทางชีวภาพประจำมหาวิทยาลัย New South Wales ระบุว่า สาเหตุที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ มาจากการเปลี่ยนรูปแบบการตรวจคัดกรองโรคนั่นเอง



· สำนักงานมณฑลหูเป่ยประกาศขยายวันหยุด และสั่งให้ผู้ประกอบการภายในมณฑลห้ามเปิดทำการจนถึงวันที่ 20 ก.พ.




· สำนักงานสถิติสหรัฐฯจะทำการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนม.ค. ในคืนนี้ เวลาประมาณ 20.30น. โดยคาดว่าจะออกมาที่ 0.2% ระดับเดิมจากในเดือนธ.ค.

ขณะที่ภาพรวมเงินเฟ้อรายปีในช่วงม.ค. น่าจะขยายตัวได้ 2.4% จากเดือนธ.ค. ที่ 2.3% และ Core CPI คาดว่าจะขยายตัวได้ 0.2% ในเดือนม.ค. ขณะที่ธ.ค. คาดจะขยายตัวได้ 0.1% และรายปีคาดจะเติบโตได้จาก 2.2% จากเดิมที่ 2.3% และข้อมูลเงินเฟ้อในเวลานี้ดูจะไม่ผลักดันเฟดในการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยใดๆ รวมทั้งอาจส่งผลกับดอลลาร์เพียงเล็กน้อย



· รัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่า อาจจะอนุมัติเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส จอดเทียบท่าอยู่ที่ท่าเรือเมืองโยโกฮาม่า และอยู่ใกล้กับกรุงโตเกียว ปล่อยตัวผู้โดยสารที่มีอายุ 80 ปี หรือสูงกว่านั้น มีปัญหาสุขภาพเรื้อรังออกจากเรือได้เป็นลำดับแรก

นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้คนบนเรืออีก 44 คนได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา จากการติดเชื้อ 247 รายในญี่ปุ่น พบว่าจำนวน 218 รายเป็นผู้โดยสารและลูกเรือจากเรือ



· ข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศจีนประจำเดือนม.ค.คาดว่าจะลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 19 โดยยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ (NEVs) หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7

สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของจีน (CAAM) ระบุว่า ยอดขายรถยนต์โดยรวมคาดว่าจะลดลง 18% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว โดยอุตสาหกรรมกำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโคโรนาไวรัสที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,100 ราย ในวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา

ทางรัฐบาลท้องถิ่นเริ่มกำหนดขอบเขตการท่องเที่ยวและเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงพื้นที่สาธารณะในช่วงสองสัปดาห์สุดท้ายของเดือนม.ค.

ทั้งนี้ ผู้บริหารอุตสาหกรรม กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัวดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อยอดขายและการผลิตรถยนต์ในไตรมาสแรกของปีนี้


· ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวผสมผสาน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ลดลงจากการจำกัดการเดินทางที่เกี่ยวข้องการระบาดของโคโรนาไวรัสในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้น้ำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่มีแรงหนุนบางส่วนมากจากกระแสคาดการณ์ว่าบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อาจพิจารณาลดกำลังการผลิตเพื่อหนุนราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.1% ที่ระดับ 55.73 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 5 เซนต์ หรือ 0.1% ที่ระดับ 51.22 เหรียญ/บาร์เรล

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับเพิ่มขึ้น 3.2% ในวันพุธ ขณะที่ WTI เพิ่มขึ้น 2.5% เนื่องจากรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลง จึงช่วยหนุนราคาขึ้นมาได้


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com