• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 27 มกราคม 2563

    27 มกราคม 2563 | SET News

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสในจีน ท่ามกลางปริมาณความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างเช่น ค่าเงินเยนและพันธบัตรรัฐบาล

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 0.4% ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากเทศกาลวันหยุดตรุษจีน ขณะที่ตลาดการเงินในจีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีไต้ สิงคโปร์ และออสเตรเลียปิดทำการในวันนี้

ด้านดัชนีหลักส่วนใหญ่ของสหรัฐฯปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนวันศุกร์ทีผ่านมา โดยภาพรวมรายวันดัชนี S&P500 ร่วงลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน

หัวหน้าผู้บริหารประจำ Sun Global Investments ระบุว่า นักลงทุนตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อสัญญาณในเชิงลบ หลังจากจีนประกาศว่าปัญหาเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวได้กลายเป็นเรื่องฉุกเฉิน สิ่งนี้อาจทำให้ราคาน้ำมันมีความเปราะบางจนกว่าความกังวลของเชื้อไวรัสโคโรนาจะส่งสัญญาณของการชะลอตัวลง

· ภาพรวมรายวันตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลงมากที่สุดในรอบ 5 เดือน ท่ามกลางหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสในประเทศจีน ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตและยากที่จะควบคุมได้มากกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก

โดยดัชนี Nikkei ร่วงลง 2.03% ซึ่งเป็นเปอร์เซนต์ที่ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะปิดที่ระดับ 23,343.51 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ด้านดัชนี Topix ลดลง 1.61% ที่ระดับ 1,702.57 จุด

ด้านประเทศจีนขยายวันหยุดตรุษจีนออกไปและธุรกิจขนาดใหญ่ปิดตัวลง รวมทั้งพนักงานทำงานจากที่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 81 ราย

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรค coronavirus ของจีนทวีความรุนแรงมากขึ้น

โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 1.3% ด้านหุ้นทรัพยากรลดลง 3.6% เนื่องจากตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลือ่นไหวในแดนลบ

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ที่ปรับลดลงมากกว่า 40 จุด เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นทั่วโลก เป็นผลจากความกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่เชื่อว่าจากพื้นฐานของไทยที่แข็งแกร่งจะทำให้ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นมาได้

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่เกิดขึ้นจากประเทศจีน ยอมรับว่ากระทบกับภาคการท่องเที่ยวของไทยในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทางการจีนจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างแน่นอน ขณะที่คนไทยต้องช่วยกันหันมาเที่ยวในประเทศมากขึ้น พร้อมดึงนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นเข้ามาทดแทนนักท่องเที่ยวจากจีน โดยเฉพาะอินเดีย

ด้านปัญหางบประมาณรายจ่ายปี 63 ที่อาจต้องล่าช้าออกไปนั้น ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างเตรียมหาแนวทางเพื่อให้สภาพคล่องหมุนเวียนได้ดี แต่ขอให้รอความชัดเจนก่อน

- นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะลงนามในหนังสือส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ตามที่ส.ส. ฝ่ายค้านและรัฐบาลเข้าชื่อนำเสนอมา หลังจากมีการเปิดเผยว่ามีการเสียบบัตรแทนกันในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ดังกล่าว

- นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงข้อกังวลเกี่ยวกับกรณี ส.ส.เสียบบัตรลงคะแนนแทนกันในการลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ที่อาจทำให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ อาจต้องล่าช้าออกไปนั้น รัฐบาลได้เตรียมหาทางออกไว้แล้วประมาณ 5-6 แนวทาง แต่ยังขอไม่เปิดเผยว่าเป็นช่องทางใด

- "ไวรัสโคโรนา" ป่วนเป้ารายได้ท่องเที่ยวไทย 3.38 ล้านล้านบาทปีนี้สะดุด สะเทือนเศรษฐกิจไทย หลังรัฐบาลจีนสั่งห้าม

บริษัททัวร์พาชาวจีนออกเที่ยวนอกประเทศ คุมเข้มการแพร่ระบาด ฉุดตลาดจีนเที่ยวไทย 5.5 แสนล้าน กระทรวงท่องเที่ยวฯ-ททท.เร่งถก

ภาคเอกชนวันนี้ ปรับแผนการตลาดรับมือ เผยครม.เศรษฐกิจ ถกผลกระทบ 31 ม.ค.

- "ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจฯ" ประเมินไวรัสโคโรนากระทบ ศก.แล้ว 80,000-120,000 ล้านบาท ชี้หากคุมแพร่

ระบาดภายในต้น มี.ค.ไม่ได้ไทย-เอเชียกระทบหนักแน่ "ปธ.สภาอุตฯ ท่องเที่ยว" เล็งเสนอภาครัฐช่วยเหลือผู้ประกอบการ หลังกรุ๊ปทัวร์ จีนยกเลิกเดินทาง "ททท." นัดแอตต้าประชุมปรับแผนรับมือ 28 ม.ค.นี้ "พท." จี้ "บิ๊กตู่" รีบแก้ไข หยันถ้าทำไม่ได้พร้อมแนะนำ

- ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในปี 63 ททท.กำลังหาช่องทางดึงนักท่องเที่ยวไทยที่นิยม

เดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศ ได้หันกลับมาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น หลังจากได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของ

คนไทยไปต่างประเทศพบว่า ในเดือน ม.ค.-พ.ย. 62 สูงถึง 12.27 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10% โดยตั้งเป้าหมายพยายามดึงคนกลุ่มนี้มาเที่ยว

ไทยให้ได้สัก 2 ล้านคน ถือว่าประสบความสำเร็จ แต่ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก เพราะที่ผ่านมามีปัจจัยสนับสนุนหลายอย่างให้คนเลือกเดิน

ทางไปเที่ยวต่างประเทศ ทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ค่าใช้จ่ายในการเดินทางถูกลง รวมไปถึงการแข่งขันทางด้านราคาที่รุนแรงของธุรกิจ

ท่องเที่ยว

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com