· นักลงทุนกังวลไวรัสโคโรนาที่
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิด -170.36 จุด หรือ -0.58% ที่ 28,989.73 จุด ทางด้าน S&P500 ปิด -0.9% ที่ 3,295.45 จุด และ Nasdaq ปิด -0.93% ที่ 9,314.91 จุด
· เช้านี้ดัชนี E-mini S&P500 Futures เปิดปรับตัวลงกว่า 1% ในตลาดเอเชีย จากกระแสความกังวลเกี่ยวกับไวรั
· เช้านี้ในตลาดเอเชียหุ้นส่
นักวิเคราะห์จาก ANZ มองว่า ความไม่แน่นอนที่ขยายตัวลุ
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
-นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์นี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.50 - 30.67 บาท/ดอลลาร์
ขณะที่การอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงนี้ น่าจะเป็นผลจากเม็ดเงินดีลใหญ่ที่ออกไปต่างประเทศ ภายหลังรัฐบาลส่งเสริมให้มีการนำ เงินไปลงทุนในต่างประเทศได้มากขึ้น อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งในระยะสั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาคของการท่องเที่ยว
สำหรับสัปดาห์นี้ต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แต่ตลาดคาด ว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมรอบนี้
-ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำคณะกรรมการเข้าพบนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เพื่อหารือและผลักดันข้อเสนอภาคเอกชนในการขับเคลื่อนแนวทางส่งเสริมการประกอบธุรกิจ รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอมาตรการ "ชิม ช้อป ใช้" อินเตอร์เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โดยหวังจะเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติว่า ขณะนี้ยังไม่ได้หารือในรายละเอียด ดังนั้นจึงขอให้ได้มีโอกาสหารือในรายละเอียดกับ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาก่อน แต่ทั้งนี้ มองว่าโครงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยวผ่าน Mobile Application หรือ VAT Refund for Tourists ของกรมสรรพากร ถือเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและจูงใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศมากขึ้นได้อยู่แล้ว
-ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส 2019 Novel Coronavirus (n-CoV) ในจีนต่อตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย น่าจะยังส่งผลจำกัดต่อการท่องเที่ยวไทย เนื่องด้วยสถานการณ์ครั้งนี้ทางการจีนมีระบบการจัดการที่รวดเร็วและเข้มข้น ประกอบกับวิวัฒนาการทางการแพทย์และเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้น และการสื่อสารที่ทั่วถึงทำให้นักท่องเที่ยวมีการหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไป โดยประเมินว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2563 อาจลดลงเหลือประมาณ 10.94-10.77 ล้านคน หรือหดตัวประมาณ 0.5-2.0%