• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 2 มกราคม 2563

    2 มกราคม 2563 | SET News
  



· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปีใหม่โดยการปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดจีนหลังทางการจีนผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

เหล่านักลงทุนได้รับแรงหนุนจากการที่สหรัฐฯและจีนอาจจะส่งสัญญาณในข้อตกลงการค้าเฟสแรกนั้นมีแนวโน้มจะเห็นผู้นำสองประเทศลงนามร่วมกันได้ในสัปดาห์หน้า

ในวันอังคารที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำการทวิตเตอร์ข้อความเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเฟสแรก โดยระบุว่าอาจร่วมลงนามกับจีนได้ในวันที่ 15 ม.ค.นี้ แม้จะยังอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดของข้อตกลง และเขาเองอาจเดินทางเยือนจีนเพื่อเริ่มต้นลงนามการค้าเฟสถัดไปหลังลงนามฉบับแรกเป็นที่เรียบร้อย

ซึ่งความหวังที่เิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าช่วยเพิ่มความต้องการในตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาและกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น 0.43% หลังจากที่ช่วงเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้น 5.6%

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นในวันแรกของการซื้อขาย หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า อาจร่วมลงนามกับจีนได้ในวันที่ 15 ม.ค.นี้ แม้จะยังอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดของข้อตกลง รวมทั้งธนาคารกลางจีนได้สนับสนุนนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น

โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 1.2% ที่ระดับ 3,085.20 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา



· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า อาจจะทำการลงนามข้อตกลงทางการค้าร่วมกับจีนได้ในวันที่ 15 ม.ค.นี้ แม้ว่าจะยังอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดของข้อตกลงก็ตาม

โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.4% ด้านหุ้นทรัพยากรเพิ่มขึ้น 0.9% เรื่องจากตลาดส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก

· อ้างอิงสำนักข่าวอีไฟแนนซ์


- ธปท.เผยเช้านี้เงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่า หลังสภาพคล่องในตลาดเริ่มกลับสูงภาวะปกติ แต่ยังมีความผันผวนสูง พร้อมติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

นางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อ่อนค่าลงมาที่ระดับ มาที่ระดับ 30.18 บาทต่อดอลลาร์ จากสิ้นปี 62 ที่แข็งค่าเร็ว เป็นผลจากสภาพคล่องในตลาดเริ่มกลับมาเป็นปกติ แต่ค่าเงินบาทยังมีความผันผวนสูง ในสภาวะที่ตลาดกำลังมีการปรับสมดุลระหว่างแรงซื้อและแรงขายดอลลาร์

ทั้งนี้ ธปท. จะดูแลการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด โดยผู้ร่วมตลาดอาจรอดูสถานการณ์การปรับตัวของตลาดสู่ภาวะปกติก่อนเร่งทำธุรกรรม

- กนง. คาดเศรษฐกิจไทยปี 63 ขยายตัว 2.8% และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในปี 64 ตามโครงการลงทุน PPP และการลงทุนภาครัฐ พร้อมจับตาปัจจัยเสี่ยงสงครามการค้า-ใช้จ่ายในประเทศชะลอ เหตุงบปี 63 ล่าช้า พร้อมรับกังวลสถานการณ์บาทแข็งเกินคู่แข่ง ด้านเงินเฟ้อทั่วไปคาดเข้ากรอบเป้าหมายครึ่งหลังปี 64

รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 8/2562 ว่า คณะกรรมการประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2562 จะขยายตัวได้ 2.5% และในปี 2563 ขยายตัวได้ 2.8%

ทั้งนี้ คณะกรรมการประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องในปี 2564 ตามโครงการร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) และโครงการลงทุนของภาครัฐบางโครงการที่เลื่อนไปดำเนินการในปี 2564

- ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP บวก 1.20% มาที่ 126.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท เมื่อเวลา 10.23 น.มูลค่าการซื้อขาย 132.75 ล้านบาท

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) แนะ "ซื้อ" เป้า 142.00 บาท ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นหลังอิรักประท้วงเผาสถานทูตสหรัฐ ช่วยหนุนราคาน้ำมัน

มีมุมมองเป็นบวกกับราคาน้ำมัน และหุ้น PTTEP ที่จะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมัน จากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เกิดขึ้นจะช่วยทำให้ราคาน้ำมันนั้นทรงตัวได้ในระดับสูง ประกอบกับการลดกำลังการผลิตของ OPEC อีก 5 แสนบาร์เรลต่อวันที่จะเกิดขึ้นใน 1Q20E เรายังคงคำแนะนำซื้อ PTTEP ที่ 142.00 บาท

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com