• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2562

    30 ธันวาคม 2562 | Economic News

· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงท่ามกลางมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มการทำข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ดูจะหนุนให้นักลงทุนต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น จึงลดความต้องการดอลลาร์ที่อยู่ในสภาวะ Safe-Have ขณะที่ปริมาณการซื้อขายช่วงสิ้นปีค่อนข้างเบาบาง โดยดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.6% ที่ระดับ 96.951 จุด ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ 6.9917 หยวน/ดอลลาร์

ในวันศุกร์ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.76% ไปทำระดับสูงสุดรอบ 10 วันทำการบริเวณ 1.11880 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับรายวันที่ดีที่สุดในรอบ 5 เดือน

ค่าเงินปอนด์ปิด +0.78% หลังจากที่ นางเออซูลาร์ วง เดอ เลอแยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า อียูอาจจำเป็นต้องขยายเวลากำหนดเส้นตายเพื่อเจรจากับอังกฤษเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของข้อตกลงการค้ากับจีน

· รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจีน แสดงความมั่นใจต่อการติดต่อกันเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนในปีนี้ และเชื่อว่าการหาทางออกร่วมกันได้จะสามารถช่วงปกป้องประเทศและประชาชนของแต่ละฝ่ายได้เป็นอย่างดี

· ราคาน้ำมันดิบปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยยังทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดรอบ 3 เดือน หลังจากที่ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯครั้งใหม่ออกมาแย่ลงกว่าที่คาด ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้น และมุมมองเชิงบวกของข้อตกลงการค้าสหรัฐฯและจีนที่ดูจะช่วยจุดประกายการฟื้นตัวของตลาดหุ้นในช่วงสิ้นปี

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 18 เซนต์ ที่ระดับ 68.1 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ย. ขณะที่ WTI ปิดปรับตัวขึ้น 4 เซนต์ ที่ระดับ 61.72 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดสัปดาห์สุดท้ายของปีได้กว่า 2% และยังเป็นการทำระดับปิดแดนบวกต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4

รายงานจาก EIA เผย สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 20 ธ.ค. ปรับตัวลงเกินคาดกว่า 5.5 ล้านบาร์เรล ที่ระดับ 441.4 ล้านบาร์เรล

นักกลยุทธ์จาก RJO Futures กล่าวว่า สต็อกน้ำมันดิบดูจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดน้ำมันเวลานี้ ขณะที่การฟื้นตัวของตลาดหุ้นส่งท้ายปีก็ดูจะช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางสภาวะSanta Clause Rally ที่ทำให้นักลงทุนมีแนวโน้มจะเข้าซื้อสินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่ส่งผลโดยอ้อมต่อราคาน้ำมันให้ปรับตัวสูงขึ้นตาม

· สำนักข่าว KCNA รายงานว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค ก่อนกำหนดเส้นตายที่ตัวเขาขีดเส้นให้รัฐบาลสหรัฐฯต้องปรับท่าทีให้เป็นมิตรต่อทางเกาหลีเหนือมากขึ้นภายในเส้นปีนี้ พร้อมเรียกร้องให้กรรมการบริหารพรรคทุกคน “รักษาจุดยืนอย่างหนักแน่น” ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างโปร่งใส เป็นกลาง และต่อต้านจักรวรรดิ

อย่างไรก็ดี คำว่า ภายในสิ้นปีนี้ของนายจองอึน คือการให้สหรัฐฯเปลี่ยนพฤติกรรมให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และมีการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร

· สมาชิกยูเอ็นมีการหารือร่วมกับรัสเซียและจีนเพื่อหารือการผ่อนปรานมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ โดยใช้วิธีทางการทูตบางส่วนในการสนับสนุนดังกล่าว ทั้งนี้ จีนและรัสเซียมีการหารือกันก่อนที่นายจองอึน จะกล่าวให้กำหนดเส้นตายแก่ทางสหรัฐฯข้างต้น พร้อมเตือนว่า สหรัฐฯอาจได้รับของขวัญคริสต์มาส (Christmas Gift) อย่างไม่คาดฝันหากการดำเนินการล้มเหลวหรือไม่เป็นที่น่าพอใจ

ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาว เผยเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐฯค่อนข้างจะผิดหวังเป็นอย่างยิ่งหากเกาหลีเหนือตัดสินใจที่จะทดสอบขีปนาวุธพิสัยระยะยาวหรืออาวุธนิวเคลียร์ มิสไซน์ใดๆ ซึ่งสหรัฐฯจะทำการตอบโต้อย่างเหมาะสมต่อการกระทำดังกล่าวรด้วยกำลังทางการทหารและอำนาจทางเศรษฐกิจ

ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า สหรัฐฯจะเฝ้าจับตาเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิดต่อสถานการณ์ที่กำลังเป็นกังวลอยู่ แต่ก็ยังคงเปิดกว้างต่อการเจรจากันระหว่างสองประเทศ ซึ่งสหรัฐฯยังคงต้องการให้ผู้นำเกาหลีเหนือทำตามคำมั่นที่เคยให้ไว้ที่จะทำการปลดอาวุธนิวเคลียร์บริเวณคราบสมุทรเกาหลีเหนือ

· เจ้าหน้าที่สัญญาจ้างพลเรือนของสหรัฐฯถูกสังหารในการยิงจรวดโจมตีฐานทัพอิรักใกล้เมืองเคอร์คุกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่กองกำลังสหรัฐฯกำลังตรวจสอบการมีส่วนเกี่ยวข้องของกลุ่ม คาทาอิบ ฮิซบอลเลาร์ (KH) กลุ่มติดอาวุธมุสลิมนิกายชีอะห์ที่มีอิหร่านหนุนหลัง

· รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ทางสหรัฐฯมีการโจมตีทางอากาศในอิรักและซีเรียต่อกลุ่ม KH เพื่อตอบโต้การยิงจรวจดและสังหารเจ้าหน้าที่พลเรือนของสหรัฐฯ รวมทั้งกองกำลังของอิรัก ขณะที่สื่อของอิรักเผยว่า มีกลุ่มกบฏเสียชีวิตประมาณ 25 ราย ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยกว่า 55 รายจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯจำนวน 3 ครั้ง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com