• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 2 ธันวาคม 2562

    2 ธันวาคม 2562 | SET News
· นักวิเคราะห์จาก Daily FX คาดการณ์ว่าดัชนีดาวโจนส์มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก ขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ถูกคาดว่าจะออกมาสดใส โดยเฉพาะ ISM Manufacturing PMI ของสหรัฐฯที่จะประกาศในค่ำคืนนี้

· ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนม.ค.ปี 2018 ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากผลการสำรวจภาคการผลิตของจีนที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งความหวังที่ว่าจีนและสหรัฐฯจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในเฟสแรกร่วมกันได้

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนประจำเดือนพ.ย.อยู่ที่ระดับ 51.8 เพิ่มขึ้นจากระดับ 51.7 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 51.5

ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัว และหากดัชนี PMI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จะบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.24% ฟื้นตัวจากที่ปรับลดลงไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ด้านดัชนี U.S. stock futures เพิ่มขึ้น 0.31% ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาในวันหยุด Thanksgiving

ประธานบริษัท T.S. China Research ระบุว่า ปริมาณการผลิตและคำสั่งซื้อใหม่มีความแข็งแกร่ง โดยผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าอุปสงค์ภายในประเทศค่อนข้างแข็งแกร่ง แม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นมุมมองเชิงบวกทางเศรษฐกิจ

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดในรอบเดือน หลังจากข้อมูลภาคการผลิตของจีนออกมาอย่างแข็งแกร่งและปริมาณอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางตลาดที่

คลายความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจ

โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นเริ่มสดใสหลังจากที่ตอบสนองต่อข้อมูลภาคการผลิตของจีนมีการปรับตัวดีขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเริ่มช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 1.01% ที่ระดับ 23,529.50 จุด

· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่าภาคการผลิตของจีนออกมาอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นยังคงถูกจำกัด จากความกังวลเกี่ยวกับโอกาสในการทำข้อตกลงการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ

ดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.1% ที่ระดับ 2,875.81 จุด

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้นประมาณ 0.2% ขฯะที่ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก

สำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้อ่อนแอกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้น ขานรับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนออกมาดีกว่าตลาดคาดไว้ ส่วนบ้านเราคาดว่าจะเผชิญแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติได้ทำ Short ในตลาดฟิวเจอร์สถึง 5 หมื่นสัญญา คิดเป็นเงินประมาณหมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างมาก

- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อในเดือนพ.ย.62 อยู่ที่ 104.54 ขยายตัว 0.21% จากตลาดคาด 0.3% แต่หดตัว -0.13% จากเดือน ต.ค.62 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อช่วง 11 เดือนปี 62 (ม.ค.-พ.ย.) ขยายตัวเฉลี่ย 0.69%

ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (CORE CPI) พ.ย.62 อยู่ที่ 102.77 ขยายตัว 0.47% จากช่วงเดียวของปีก่อน และขยายตัว 0.03% จากเดือน ต.ค.62 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานช่วง 11 เดือนปี 62 ขยายตัวเฉลี่ย 0.53%

สนค.ระบุว่า ภาพรวมเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพ.ย.62 เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน สูงขึ้น 0.21% ปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน หลังจากชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือน ส.ค. โดยมีสาเหตุสำคัญจากหมวดพลังงาน ที่หดตัวในอัตราต่ำที่สุดในรอบ 4 เดือน ในขณะที่หมวดอื่น ๆ ยังขยายตัวและเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ ซึ่งสอดคล้องกับเครื่องชี้วัดอื่นๆ ทั้งดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง

- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุดัชนีภาวะการเงินไทยโดยรวมในไตรมาส 3 ตึงตัว

ขึ้นมาอยู่ที่ -1.33% ซึ่งยังคงเป็นระดับที่ตึงตัวกว่าค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2545-2562 (สะท้อนจากตัวเลขดัชนีภาวะการเงินที่ติดลบ) โดย

SCB EIC พบว่า ภาวะการเงินที่กลับตึงตัวขึ้น เป็นผลจากค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยถึงแม้ว่าการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ในเดือนสิงหาคมจะไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาด แต่ก็ไม่สามารถทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้อย่างมีนัย เนื่องจากดุลบัญชีเดินสะพัดไทยยังคง

เกินดุลในระดับสูงและธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ ต่างก็ผ่อนคลายนโยบายลงเช่นกัน

- ธนาคารแห่งประเทศไทย เดินหน้า แก้ไขปัญหาหนี้รายย่อยต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมขยายเกณฑ์ "คลินิกแก้หนี้"ให้ลูกหนี้เอ็นพีแอลรายใหม่ที่เป็นหนี้เสีย

หลัง 1 ม.ค.62 เข้าร่วมโครงการได้ ทั้งต้นปีหน้าอาจเปิดให้ลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างดำเนินคดีเข้าร่วมด้วย หวังช่วยเหลือ ลูกหนี้ในวงกว้าง พร้อมลุย

ถกคณะทำงาน เล็งช่วยลดภาระดอกเบี้ย-ค่าใช้จ่าย ให้ลูกหนี้ดี แต่เริ่มมีสัญญาณผิดนัดชำระก่อนลามเป็นหนี้เสีย

- "สมคิด" ส่งสัญญาณไตรมาส 4 ฟื้น จีดีพีทั้งปีโต 2.4% แนะเอกชนรับมือบาทแข็ง ชี้สหรัฐจับตาแทรกแซง ค่าเงิน ชี้ว่างงานต่ำ

เพียง 1% ถือว่าปกติ "หอการค้า" ชงแผนดันจีดีพีปีหน้าโต 3% ห่วงซื้อสินค้าออนไลน์ต่างประเทศปีละ 1 แสนล้านบาท ทุบเศรษฐกิจย่านการค้า

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com