• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 9 ตุลาคม 2562

    9 ตุลาคม 2562 | Gold News
 
· ราคาทองคำเคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่องจากเมื่อคืน ท่ามกลางความหวังว่าจะเห็นข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนในการเจรจาสัปดาห์นี้ที่เริ่มอ่อนแอลงไป ขณะที่ตลาดกำลังจับตารายงานการประชุมเฟดและถ้อยแถลงของบรรดาสมาชิกเฟดในคืนนี้

ราคาทองคำปรับสูงขึ้น 0.4% ทำระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 1,510.50 เหรียญ ก่อนจะย่อตัวลงเล็กน้อยแต่ยังยืนเหนือระดับ 1,500 เหรียญได้ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.8% แถว 1,516.20 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จาก Phillip Futures ระบุว่า ตลาดกำลังชะลอการลงทุน เพื่อรอดูความคืบหน้าของการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน หากการเจรจาเกิดสัญญาณเชิงลบ ก็มีแนวโน้มสูงที่จะเห็นกระแส Risk-off และตลาดหุ้นน่าจะอ่อนแอลง

· เมื่อวานนี้ ทางสหรัฐฯได้ประกาศระงับการออกวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่จีนที่มีส่วนร่วมกับการกดขี่ข่มเหง รวมทั้งการจับกุมชาวมุสลิมเป็นจำนวนมากในมณฑลซินเจียง สร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลจีนก่อนหน้าการเจรจาการค้าระหว่างบรรดาตัวแทนระดับสูงที่จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีกับวันศุกร์นี้ จึงกดดันตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง

ด้านดัชนีดอลลารปรับอ่อนค่าลงเมื่อเทียบสกุลเงินส่วนใหญ่

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันว่า การขึ้นภาษีจีนที่มีกำหนดไว้ในวันที่ 15 ต.ค. จะมีผลบังคับใช้ตามกำหนด หากการเจรจาไม่มีความคืบหน้า

· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับลดลงในช่วงตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากเมื่อคืนที่นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ส่งสัญญาณถึงการปรับลดดอกเบี้ยครั้งต่อไป รวมถึงการกลับมาเข้าซื้อพันธบัตรของเฟดเพื่อปรับสมดุลให้กับตลาด

· นักวิเคราะห์จากธนาคาร OCBC มีมุมมองว่า ถ้อยแถลงของประธานเฟดเมื่อคืนนี้ เป็นการส่งสัญญาณค่อนข้างไปในเชิงผ่อนคลายนโยบาย จึงมีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว เนื่องจากบรรดากองทุน ETF จะกลับมาเพิ่มการถือครองทองคำอีกทั้ง ขณะที่ทางธนาคารยังคงมีมุมมองว่า ราคาทองคำอาจขึ้นไปทดสอบระดับ 1,600 เหรียญ หากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังยืดเยื้อต่อไป

· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters ระบุว่า ทิศทางของราคาทองคำระยะสั้นไม่มีความชัดเจน เนื่องจากราคาไม่สามารถผ่านแนวรับที่ 1,488 เหรียญลงไปได้

ขณะที่นักวิเคราะห์จาก MKS PAMP มองว่า แนวรับสำคัญของราคาทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,500 เหรียญ ถ้าหลุดแนวรับนี้ลงมา มีแนวโน้มที่จะเห็นราคาย่อลงไปถึงระดับ 1,485 เหรียญ

· รายงานจาก Kitco ระบุว่า บรรดานักวิเคราะห์เฝ้ารอคอยเทศกาล ดุชเชห์ร่า หรือ Dussehra Festival ที่จะเกิดขึ้นเป็นระยะเวลา 10 วัน และเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว จากนั้นจะตามมาด้วยเทศกาลดีวาลี (Diwali)

นักกลยุทธ์ทองคำจาก UBS กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลข้างต้นชาวอินเดียมักนิยมซื้อทองคำเพื่อเป็นของขวัญให้กันในช่วงเทศกาล ซึ่งความอ่อนแอของข้อมูลเศรษฐกิจอินเดียในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ดูจะทำให้ตลาดจับตาถึงผลของความต้องการในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนี้ เนื่องจากเทศกาลที่จะมาถึง อาจเห็นความต้องการทองคำลดลงได้ ขณะที่ข้อมูลรัฐบาลอินเดียแสดงให้เห็นถึงปริมาณการนำเข้าที่อยู่ที่ระดับ 13.5 ตันในเดือนก.ย. หรือลดลงประมาณ 85% เมื่อเท่ียบกับปีที่แล้ว

นักวิเคราะห์จาก Commerzbank ก็มีมุมมองว่าข้อมูลยอดนำเข้าในเดือนที่แล้วถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี

อย่างไรก็ดี ผลสะท้อนไม่ได้มาจากราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นภายในประเทศที่บั่นทอนความต้องการทองคำในอินเดียเท่านั้น แต่หากพิจารณาจะเห็นว่าตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ ทางรัฐบาลอินเดียก็มีการเพิ่มภาษีนำเข้าทองคำจาก 10% เป็น 12% ด้วยเช่นกัน

· รายงานจาก UOB ระบุถึงปริมาณการถือครองทองคำในฐานะทรัพสินย์สำรองของธนาคารกลางจีนที่เพิ่มสูงขึ้น

โดยมูลค่าการถือครองทรัพสินย์สำรองของธนาคารกลางจีน แม้จะลดลงเป็นมูลค่าถึง 1.70 หมื่นล้านเหรียญในเดือน ก.ย. คิดเป็นเงินตราต่างประเทศลดลง 1.47 หมื่นล้านเหรียญ และทองคำลดลง 2.4 พันล้านเหรียญ แต่สำหรับปริมาณการถือครองทองคำ ถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่น้ำหนัก 62.6 ล้านออนซ์ จากเดือน ส.ค. ที่ 62.5 ล้านออนซ์ ซึ่งทางธนาคารกลางจีนได้มีการเพิ่มการถือครองทองคำติดต่อกันเป็นเวลากว่า 10 เดือน นับตั้งแต่ ธ.ค. ปี 2018 หลังจากทรงตัวมาตลอดปี 2017 ซึ่งในปี 2018 เป็นช่วงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น

ในภาพรวมรายปี ปริมาณถือครองเงินตราต่างประเทศสำรองเพิ่มสูงขึ้น 1.97 หมื่นล้านเหรียญในเดือน ก.ย. ขณะที่แรงกดดันต่อเศรษฐกิจได้เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าและการอ่อนค่าของเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่กระแสเงินทุนไหลออกจากประเทศยังไม่เป็นปัญหาต่อเศรษฐกิจมากนัก เมื่อเทียบกับช่วงกลางปี 2016 จนถึงปลายปี 2016 ที่ปริมาณเงินทุนจากประเทศลดลงกว่า 1 ใน 4 จากมูลค่ารวม 4 ล้านล้านเหรียญ ลดลงมาที่ 3 ล้านล้านเหรียญ ขณะที่ภาพรวมของตลาดการเงินในประเทศจีนถือว่ามีความสมดุลมากกว่าเมื่อเทียบกับช่วงปี 2014 – 2016

· Gold Prices Forecast

ราคาทองคำเมื่อคืนปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดที่ 1,509.74 เหรียญ ก่อนที่จะย่อตัวลงปิดตลาดที่บริเวณ 1,505.62 เหรียญ ซึ่งราคากำลังทดสอบเส้นแนวต้านแรกของลักษณะ Descending Triangle หากวันนี้ราคาปรับสูงขึ้นและผ่านแนวต้านถัดไปได้ ทิศทางขาขึ้นก็จะกลับมามีกำลังอีกครั้ง แต่ถ้าไม่สามารถผ่านไปได้และย่อตัวลง แนวต้านดังกล่าวก็จะยิ่งแข็งแกร่งและป้องกันการฟื้นตัวของราคาได้ดียิ่งขึ้น

· Gold technical analysis: สัญญาณฝั่งขาขึ้นเริ่มกลับมา หลังราคาทองคำทรงตัวเหนือ 1,500 เหรียญ

ราคาทองคำเริ่มมีสัญญาณของการกลับมาเป็นทิศทางขาขึ้นในระยะสั้นเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากราคาสามารถทรงตัวเหนือระดับสำคัญที่ 1,500 เหรียญ ประกอบกับการที่ราคาสามารถปรับขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 21 วันได้ สำหรับฝั่งขาขึ้นจะมีแนวต้านแรกที่ 1,520 เหรียญ แม้จะยังค่อนข้างไกลจากระดับปัจจุบัน แต่ถ้าสามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 1,535 เหรียญ และ 1,550 เหรียญ

ในกรณีที่ราคาขึ้นไปไม่ถึง 1,520 เหรียญ และปรับลดลงหลุดแนวรับสำคัญ ทิศทางขาลงจะมีสัญญาณรุนแรงยิ่งขึ้น และอาจร่วงลึกลงไปถึงบริเวณ 1,460 –1,470 เหรียญ โดยฝั่งขาลงจะมีเป้าหมายระยะยาวอยู่ที่ 1,380 เหรียญ

· ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 1.2% แถว 17.91 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับสูงขึ้น 0.4% แถว 892.99 เหรียญ ส่วนราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.2% แถว 1,673.17 เหรียญ

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com