MTS Help Center

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง เนื่องจากประเด็นสงครามทางการค้าาระหว่างสหรัฐฯและจีนครั้งล่าสุด ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนทั่วโลก ส่งผลให้เหล่านักลงทุนกลับเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างเช่น ทองคำและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล

โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ปรับลดลง ทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางปี 2016 ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปี 2013 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นลดลง 2.0%

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงกว่า 2% โดยดัชนี Nikkei ร่วงลงไป 2.6% ที่ะรดับ 20,173.76 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. ก่อนที่จะปิดที่บริเวณ 00,261.04 จุด สำหรับภาพรายวันร่วงลงไป 2.2% ท่ามกลางบริษัทที่จีนขาดทุนหลังจากเกิดสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯที่ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตกต่ำลง

· ดัชนีตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวลง ขณะที่หยวนอ่อนค่าทำต่ำสุดรอบ 11 ปี จากความกังวลเรื่อง Trade War ที่ดูจะทำให้สภาวะตลาดเป็น Risk-Off โดยดัชนี HSI ปิด -1.9% หลังจากท่ี่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตร่วงลงไปกว่า 3.6% ประกอบกับค่าเงินหยวนอ่อนค่า 0.6% แตะ 7.1425 หยวน/ดอลลาร์ ทางด้านดัชนี Shanghai Composite ปิด -1.2%

ตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลงหลังจีนและสหรัฐฯประกาศจะขึ้นภาษีต่อกัน ขณะที่นายทรัมป์ เรียกร้องให้บริษัทสหรัฐฯย้ายฐานการผลิตในจีนกลับประเทศ จึงกดดันให้หุ้นร่วงลง แม้ว่าภายหลังตลาดหุ้นจะชะลอการตกจากข่าวที่ว่า ผู้นำสหรัฐฯ เผยจีนมีการติดต่อเข้ามาเพื่อขอเจรจาอีกครั้ง

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนได้รับผลกะทบจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยดัชนี Stoxx600 ลดลงประมาณ 0.4% ขณะที่ตลา่ดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ สำหรับวันนี้ตลาดอังกฤษปิดทำการ

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช.กำลังจับตาสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่ตอนนี้มีนักวิเคราะห์หลายแห่งออกมาแสดงความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐ อาจเข้าสู่ภาวะถดถอย จากกรณีของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ระยะสั้นสูงกว่าผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว ซึ่งส่วนตัวมองว่า การถดถอยอาจไม่แรงเพราะเป็นการถดถอยตามวัฏจักรเศรษฐกิจ แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ การถดถอยครั้งนี้อาจทำให้เศรษฐกิจโลกซึมไปนานพอสมควร ดังนั้นในส่วนของไทยเอง ก็ต้องไม่ประมาท และหากเห็นโอกาสแล้วจะทำอะไรในช่วงนี้ก็ต้องเร่งทำ

- นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมวอร์รูม คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ได้หารือกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกผลิตผลทางการเกษตร ในส่วนของข้าวและมันสำปะหลัง เพื่อเร่งรัดการส่งออกในสินค้าเกษตรดังกล่าว และเร่งรัดให้การส่งออกในภาพรวมของประเทศดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งสร้างความต่อเนื่องจากตัวเลขเดือนก.ค.62 ที่กลับมาเติบโตเป็นบวกได้ 4.28%

นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากการประชุมเรื่องข้าว มีข้อสรุปร่วมกันว่านอกจากมาตรการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่จะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 27 สิงหาคม 2562 โดยใช้วงเงิน 2.1 หมื่นล้านบาทแล้ว ก็จะดำเนินการเร่งรัดการส่งออกควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ยอดการส่งออกลดลง ซึ่งเป็นผลจากเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ข้าวไทยในตลาดโลกในสายตาประเทศผู้นำเข้าแพงขึ้น และเพราะไทยสูญเสียตลาดให้กับคู่แข่งบางส่วน

อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

- "สมคิด" วอนนักลงทุนอย่าตกใจหุ้นร่วงกว่า 30 จุดวันนี้ ชี้ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญปัจจัยลบเหมือนกันหมด หลังนักลงทุนกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน Brexit มั่นใจธปท.-ตลท.ยังดูแลใกล้ชิด

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ในวันนี้ว่า กรณีที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดช่วงเช้าร่วงกว่า 30 จุดนั้น ขอให้นักลงทุนอย่าตกใจ และกังวลใจ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับตลาดหุ้นไทยเท่านั้น แต่เป็นสถานการณ์ที่กระทบตลาดหุ้นทั่วโลก จากความกังวลเรื่องสงครามการค้า สถานการณ์ Brexit ของสหราชอาณาจักร รวมถึงต้องติดตามการประชุม G7 ที่จะเกิดขึ้นด้วย ว่าจะมีทิศทางอย่างไร

“หุ้นตอนนี้ไม่ได้ผันผวนแค่ไทย แต่มันผันผวนทั่วโลก โดยที่ผ่านมามีหลายเหตุการณ์จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน มีเรื่อง Brexit แต่อย่างไรก็ตามสำหรับไทย เชื่อว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดเงินและตลาดทุนตลอด ขอนักลงทุนอย่าตกใจ หรือกังวล”นายสมคิด กล่าว