MTS Help Center

· ราคาทองคำตลาดโลกขยับขึ้นมา 0.4% แถว 1,506 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดปรับลง 10.10 เหรียญ หรือคิดเป็น -0.66% ที่ระดับ 1,509.5 เหรียญ ท่ามกลางตลาดหุ้นที่ฟื้นตัว และการกลับมาแข็งค่าของดอลลาร์ รวมทั้งการปิดสถานะทำกำไรของเหล่าเทรดเดอร์หลังราคาผ่าน 1,500 เหรียญ ขึ้นมาทำสูงสุดในรอบกว่า 6 ปีได้เมื่อวานนี้

· ภาพรวมราคาทองคำมีการปรับขึ้นได้แล้วประมาณ 16% ในปีนี้ และมีการปรับขึ้นประมาณ 100 เหรียญตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา จากความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯและจีน ประกอบกับการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และท่าทีการใช้นโยบายผ่อนคลายของบรรดาธนาคารกลางทั่วโลก

· หลังจากที่กองทุนองคำ SPDR เพิ่มการถือครองมาประมาณ 7.3% ในปีนี้ เมื่อวานนี้กลับมาเทขายออก 5.57 ตัน ปัจจุบันกลับมาถือครองแถว 839.85 ตัน

· นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสจาก RJO Futures กล่าวว่า การฟื้นตัวในตลาดหุ้นเป็นปัจจัยที่ฉุดสัญญาทองคำตลาด Comex ให้ปรับอ่อนตัวลงมา โดยที่ภาพรวมของทองคำยังเป็นทิศทางขาขึ้น ดังนั้น จึงมีการลงมาปรับฐานบ้างเล็กน้อย

· ตลาดหุ้นทั่วโลกมีการฟื้นตัว จากค่าเงินหยวนที่ทรงตัว ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีไม่ได้ปรับขึ้นมากนัก โดยมีการขยับขึ้นเพียง 0.067% มาที่ระดับ 1.76% ในขณะที่ผลตอบแทนอายุ 30 ปี ปรับลงต่อมาที่ 2.123% และอยู่ไม่ห่างจากต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้ในปี 2016 บริเวณ 2.089%

· นักวิเคราะห์จาก RJO Futures ยังมองว่า ทองคำยังคงมีปัจจัยบวกในเรื่องที่จะเห็นเฟดเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยมากขึ้น ในขณะที่บรรดาธนาคารกลางส่วนใหญ่เริ่มมีการปรับลดดอกเบี้ย

· เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ มีการประกาศปรับลดดอกเบี้ยลงเช่นกัน เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวล่าสุดของธนาคารกลางนิวซีแลนด์, อินเดีย, ประเทศไทย และประเทศต่างๆ หลังจากที่สัปดาห์ก่อน (30-31 ก.ค.) เฟดมีการประกาศปรับลดดอกเบี้ย แต่กระแสคาดการณ์ ณ ปัจจุบันมองว่าเฟดจะทำการปรับลดดอกเบี้ยอีกประมาณ 3 ครั้งในช่วงสิ้นปีนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ

· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters กล่าวว่า ในทางเทคนิคราคาทองคำอาจปรับขึ้นต่อไปแถว 1,524 เหรียญ หลังจากมีความชัดเจนแล้วว่าสามารถยืนได้เหนือ 1,497 เหรียญ

· ราคาซิลเวอร์ปิดปรับลง 1.3% ที่ระดับ 16.88 เหรียญ หลังไปทำสูงสุดรอบกว่า 1 ปีเมื่อวานนี้ ในขณะที่แพลทินัมปรับลง 0.9% ที่ 854.5 เหรียญ และราคาพลาเดียมขยับขึ้น 1.2% ที่ระดับ 1,431.9 เหรียญ