• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 6 สิงหาคม 2562

    6 สิงหาคม 2562 | SET News

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงในเช้านี้ ท่ามกลางที่เริ่มคลายความตึงเครียดทางการค้าบางส่วนที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุน โดยดัชนี Dow Futures ปรับขึ้น 50 จุด หลังจากที่เช้าเปิดลง 72 จุด ทางด้าน S&P500 และNasdaq Futures ที่เปิดแดนลบเช่นกัน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯดิ่งหนักตั้งแต่เมื่อคืนนี้ซึ่งเป็นการร่วงลงต่ำสุดของปีนี้ จากความตึตงเครียดทางการค้า ประกอบกับแรงเทขายในตลาดที่เริ่มเข้าตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้วที่นายทรัมป์ประกาศจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนรอบใหม่ ขณะที่ตลาดตอบรับเชิงลบต่อกับการที่ค่าเงินหยวนอ่อนค่าไปมาก Break ต่ำสุดรอบ 10 ปี

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับลดลง หลังจากที่สหรัฐฯกล่าวหาจีนว่ากำลังปั่นค่าเงิน โดยระบุว่า จีนปล่อยให้หยวนดิ่งลงใกล้แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สิ่งนี้เรียกว่า "การปั่นค่าเงิน" ทำให้เกิดความเชื่อมั่นนักลงทุนลดลงอย่างรวดเร็วท่ามกลางประเด็นความขัดแย้งจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน

สินทรัพย์ที่ปลอดภัยรวมถึงพันธบัตรและสกุลเงินบางสกุล เช่น เยนและฟรังก์สวิสได้รับประโยชน์เนื่องจากนักลงทุนหนีจากสินทรัพย์เสี่ยง

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 0.75% หลังจากที่าภาพรวมรายสัปดาห์ลดลง 3.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยถูกกดดันจากผลกระทบทางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากที่จีนได้กระทำการปั่นค่าเงิน ด้วยการปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 7 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ แตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี

โดยดัชนี Nikkei ลดลง 0.65% ที่ระดับ 20,585.31 จุด หลังจากที่ร่วงลงไป 2.94% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. ด้านดัชนี Topix ลดลง 0.44% ที่ระดับ 1,499.23 จุด

แม้ว่าตลาดจะลดลงมากกว่าครึ่งในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ก็มีแรงหนุนจากค่าเงินหยวนที่ทรงตัว ท่ามกลางความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนที่ยังคงระมัดระวังการลงทุนเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้น

· ค่าเงินหยวนจีนเริ่มทรงตัว แต่ตลาดหุ้นจีนกลับปิดในแดนลบหลังรัฐบาลสหรัฐฯตีตราว่าจีนจงใจลดค่าเงินหยวนของตัวเองลง ส่งผลให้ตลาดหุ้นที่อ่อนแอจากภาวะสงครามการค้าอยู่แล้ว ปรับร่วงลงลงไปอีก โดยดัชนี Shanghai Composite ปิด -1.6% ทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. แม้ในช่วงระหว่างวันจะมีการปรับขึ้นได้บ้างก็ตาม

· ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน ท่ามกลางตลาดที่กังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยดัชนี Stoxx600 เคลื่อนไหวทรงตัว ด้านหุ้นเทเลคอมลดลง 0.5% ขณะที่หุ้นสื่อฯเพิ่มขึ้น 0.7%

สำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังพร้อมพูดคุยกับนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยจะดำเนินนโยบายทั้งด้านการเงินและการคลังให้สอดคล้องกัน

ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทยที่ช่วงนี้ผันผวน รมว.คลัง มองว่าเป็นเพียงระยะสั้น ขอให้รอดูสถานการณ์ก่อน อย่างไรก็ตาม เห็นว่าตลาดหุ้นไทยมีความเข้มแข็งอยู่แล้ว และภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกก็ล้วนได้รับผลกระทบจากเรื่องสงคราการค้าระหว่างสหรัฐกับจี

- กทม.คาดเจรจา BTS ได้ข้อยุติค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวไม่เกิน 65 บาทแลกขยายเวลาสัมปทานภายใน ส.ค.นี้

- พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาระหว่างบบมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งเป็นบริษัทย่อย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTS)กับคณะกรรมการที่มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน ในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวตามม.44 นั้นคาดว่าจะสามารถเจรจาได้ข้อยุตภายในเดือน ส.ค.นี้ และจากนั้นจะนำเสนอร่างสัญญาให้กับอัยการสูงสุดพิจารณาก่อนที่จะลงนามสัญญาร่วมกันในเดือน ก.ย.นี้

ในการเจรจาดังกล่าว จะกำหนดให้เก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดสาย จากสถานีเคหะ- สถานีคูคตที่มีระยะทาง 67 กม. ราคาสูงสุดไม่เกิน 65 บาท/เที่ยว จากปัจจุบันที่เก็บค่าโดยสารในช่วงหมอชิต-อ่อนนุช ราคาสูงสุด 44 บาท และส่วนต่อขยายอีก 15 บาทรวม 59 บาท

"คาดว่าจะเจรจาจบในเดือนส.ค.นี้ ...เราให้เขาเก็บเพิ่มอีก 6 บาท ดังนั้นราคา 65 บาท ผมยืนยันว่าไม่แพง"

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในวันที่ 9 ส.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมตรีเป็นประธานเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สถานีห้าแยกลาดพร้าว โดยช่วงนี้จะไม่มีการเก็บค่าโดยสาร

- นายสุรพงษ์ ยังกล่าวว่า ในงวดปี 62/63 คาดจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้น 4-6% หรือจำนวนผู้โดยสารใกล้ 1 ล้านคน/วัน โดยในปีนี้จะเปิดให้บริการสายสีเขียวเหนือช่วงสถานีหมอชิต-สถานม.เกษตรศาตร์ หรือเพิ่มขึ้น 5 สถานี และในปี 63 จะเดินรถได้ทั้งเส้นสถานีหมอชิต-สถานีคูคต

หนังสือพิมพ์แนวหน้า

- นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เร็วๆนี้จะนัดหารือกับนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือธปท. เพื่อขอให้พิจารณาผลกระทบเรื่องค่าเงินบาท และหามาตรการหรือกลไกเข้ามาดูแล ไม่ให้เงินบาทแข็งค่ามากเกินไป ซึ่งหากทางธปท. ต้องมาแบกรับการขาดทุนบ้างก็ควรจะทำแต่ยอมรับว่า ธปท. เป็นองค์กรอิสระมีความเป็นอิสระภายใต้กฎหมายของตนเอง ตนไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ แต่ก็หวังว่าทาง ธปท. จะเร่งช่วยแก้ปัญหานี้โดยเร็ว ซึ่งเงินบาทที่เอกชนอยากเห็นควรอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เพราะหากเงินบาทแข็งค่าเกินไปจะส่งผลกระทบต่อการส่งออก รวมถึงความเข้มแข็งของภาคอุตสาหกรรม

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com