• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 24 กรกฎาคม 2562

    24 กรกฎาคม 2562 | SET News
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางตลาดที่ได้รับแรงหนุนจากการดำเนินนโยบายเชิงผ่อนคลายของอีซีบีในการประชุมวันพรุ่งนี้ โดยดัชนี Stoxx600 ทรงตัว ด้านตลาดหุ้นเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 0.5% ขณะที่หุ้นทรัพยากรพื้นฐานร่วงลง 1.1%

ตลาดจับตาไปยังการดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก ท่ามกลางกระแสคาดการ์ที่ว่าอีซีบีและเฟดอาจจะปรับลดดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางความคืบหน้าเกี่ยวกับสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโร เนื่องจากเหล่านักลงทุน

ได้รับผลกระทบจากการประชุมนโยบายของอีซีบีที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันพรุ่งนี้

ความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนได้รับแรงกนุนจากรายงาน Bloomberg ที่ระบุว่า นายโรเบิร์ต ไลื์ไทเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐฯจะเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ในสัปดาห์หน้าเพื่อพบกับเจ้าหน้าที่จีน

ด้านนายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กล่าวว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯจะเดินทางไปยังจีนในสัปดาห์หน้าเพื่อเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่จีน รวมทั้งยังคาดว่าจีนจะเริ่มซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐฯในเร็วๆนี้

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 0.4% และดัชนีกลุ่มบลูชิพของจีนเพิ่มขึ้น 1.2%

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ครึ่ง หลังจากที่ข่าวรายงานว่าทีมตัวแทนการเจรจาการค้าของสหรัฐฯและจีนอาจจะพบกันที่เซี่ยงไฮ้ในสัปดาห์หน้า จึงกระตุ้นให้เหล่านักลงทุนเข้าซื้อคืนหุ้นกลุ่มวัฎจักร อย่างเช่น หุ้นกลุ่มยานยนต์ ผู้ส่งและผู้ผลิตเครื่องจักร

โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.4% ที่ระดับ 21,709.57 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 0.4% เช่นเดียวกัน ที่ระดับ 1,575.09 จุด

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าด้านการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ขณะที่ความสนใจ ดัชนีหุ้นตัวใหม่ที่มีรูปแบบคล้ายกับดัชนี Nasdaq เริ่มเบาบางลงในวันที่ 3 ของการซื้่อขาย

ขณะที่ดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 เพิ่มขึ้น 0.8% ที่ระดับ 3,819.83 จุด ด้านดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้่น 0.8% ที่ระดับ 2,923.28 จุด

ทั้งนี้ เหล่านักลงทุนยังรอการตัดสินใจเชิงนโยบายจากเฟด ซึ่งคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายเดือนนี้ ขณะที่นายนายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวว่า ระดับอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันของประเทศนั้นเหมาะสมแล้ว

สำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ศูนย์พยากรณ์ ม.หอค้าคาด 'ภัยแล้ง'กระทบเศรษฐกิจสูญเสีย 5 พันล้านบาท เลวร้ายสุดแตะ 1 หมื่นล้านบาท กดจีดีพีหด

ตัว 0.05% กสิกรฯคาดเสียหาย 1.5 หมื่นล้านบาท ข้าวหนักสุด หวั่นแล้งลากยาวปีหน้ากระทบวงกว้างเอสเอ็มอีเจ็บด้วย ภาคอุตสาหกรรม

คลายกังวล ไม่ได้อยู่พื้นที่ภัยพิบัติ วางแผนบริหารจัดการน้ำพอใช้แน่นอน

- รมว.คลัง สั่งการบ้านบิ๊กคลังชูนโยบายเร่งด่วนลุยแก้ ปัญหาปากท้องชาวบ้าน มอบ สศค.ดูเรื่องปรับโครงสร้างภาษี

คมนาคม ลุยลดค่าครองชีพช่วยประชาชน

- มาตรการสกัดเงินร้อน "แบงก์ชาติ" กดบาทอ่อนลง 1% ขณะนักลงทุน โยกเงินจากตลาดบอนด์ โดยขายสุทธิ กว่า 2.2

หมื่นล้านบาท เข้าตลาดหุ้นไทย ด้าน "ไทยบีเอ็มเอ" ยอมรับแก้ปัญหาตรงจุด ไม่ห่วงต่างชาติเทขายต่อเนื่อง เหตุส่วนใหญ่ ยังถือลงทุนบ

อนด์ระยะยาว ขณะนักวิเคราะห์ ห่วงเฟดลดดอกเบี้ย กดดันเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่า

สำนักข่าว ThaiPR.NET

ในขณะที่โลกกำลังตื่นเต้นกับการโดดลงมาในวงการ Cryptocurrency ของ Facebook นั้น ปรมินทร์ อินโสม ซีอีโอ สตางค์คอร์ปอเรชั่น และผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีบล็อกเชน รวมถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์ขั้นสูง มีมุมมองต่อประเด็นเรื่องการเข้าถึงและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) เมื่อคนหันมาใช้ Libra ว่า "เป็นอีกเรื่องที่เราต้องจับตามอง! Facebook เคยตกอยู่ในกรณีอื้อฉาวเรื่องการทำข้อมูลรั่วไหลมาแล้ว เมื่อบริษัท Cambridge Analytica ได้ใช้ข้อมูลUser จาก Facebook ทำแคมเปญหาเสียงให้ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ซึ่งมีความเป็นไปได้หากจะเกิดขึ้นอีกกับผู้ใช้ Libra"

Facebook จะรู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณ

การที่ Calibra จะสามารถให้บริการในประเทศต่าง ๆ ได้นั้นบริษัทฯจะต้องดำเนินนโยบาย AML (Anti-Money Laundering) และ KYC (Know-Your-Customer) ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องให้ ชื่อ ที่อยู่ วันเกิด เลขประจำตัวประชาชน และข้อมูลอื่น ๆ ที่กฏหมายต้องการ แปลว่าผู้ใช้งานกำลังถูกขอให้ส่งชุดข้อมูลสุดท้ายที่ Facebook ขาดไป ถึงแม้ Facebook จะแจ้งว่าข้อมูลของ Calibra และ Facebook จะเชื่อมเข้าหากันก็ต่อเมื่อผู้ใช้อนุญาต แต่ผู้ใช้งานก็จำเป็นจะต้องอนุญาตการเข้าถึงเพื่อที่จะใช้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง Facebook ได้เก็บข้อมูลพฤติกกรรม ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ผ่านสื่อโซเชี่ยลมากว่า 10 และเมื่อนำมารวมกับข้อมูลทางการเงิน ก็จะเป็นจิกซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ Facebook จะเข้าถึงประวัติการชำระเงินของเรารวมไปถึงเอกสารที่ใช้ยืนยันตัวตนต่าง ๆ

 
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com