• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 20 มิถุนายน 2562

    20 มิถุนายน 2562 | Economic News

· ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.51% ที่ระดับ 97.148 จุด เมื่อคืนนี้ หลังเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อคืนนี้ พร้อมส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินภายในปีนี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ 0.46% ที่ระดับ 1.124 ดอลลาร์/ยูโร

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับลดลงมาที่ระดับ 2.027% ส่วนพันธบัตรอายุ 2 ปีปรับลดลงทำระดับต่ำสุดของปี 2017 ที่ 1.751%


ล่าสุด ในช่วงเช้าวันนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 2% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน พ.ย. ปี 2016 ลงมาเคลื่อนไหวแถว 1.992% โดยเป็นการร่วงลงต่ำกว่าแนวรับสำคัญทางจิตวิทยา ท่ามกลางแรงกดดันหลังเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมเมื่อคืนนี้

ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงเช้านี้ประมาณ 0.15% ลงมาบบริเวณ 96.97 จุด


· เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.25% - 2.5% ด้วยคะแนนเสี่ยง 9 ต่อ 1 พร้อมประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยในปี2019 อย่างไรก็ตาม การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความคิดเห็นที่แตกแยกระหว่างคณะกรรมการเฟด ซึ่งเป็นสัญญาณว่า เฟดยังมีแนวคิดที่จะผ่อนคลายนโยบายในช่วงปลายปีนี้ ขึ้นอยู่กับสภาวะของเศรษฐกิจเป็นหลัก

ทั้งนี้ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ เป็นคณะกรรมการเพียงคนเดียว ที่โหวตสนับสนุนให้เฟดปรับลดดอกเบี้ย

ขณะที่คาดการณ์เศรษฐกิจของเฟด ยังคงมองว่าอาจเกิดการปรับลดดอกเบี้ยได้ 1 – 2 ครั้ง แต่ไม่ใช่ก่อนถึงปี 2020 ซึ่งตลาดยังคงคาดว่า เฟดจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดภายในเดือน ก.ค.

ส่วนถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ก็ยังมีสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดภายในเดือนหน้า โดยนายโพเวลล์กล่าวว่า “บรรดาคณะกรรมการเริ่มมีความคิดเห็นที่สนับสนุนการเปลี่ยนมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น”

นอกจากนี้ ตลาดยังสังเกตุเห็นว่า นายโพเวลล์ไม่ใช้คำว่า “อดทนต่อการปรับดอกเบี้ย” ในถ้อยแถลงของเขา จึงเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่ตลาดตีความว่า เฟดจะมีการพิจารณาเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจังภายในปีนี้


· การตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดเมื่อคืนนี้ อาจทำให้นายโพเวลล์ ประธานเฟด มีความแตกแยกกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มากขึ้น หลังจากที่นายทรัมป์เมื่อวานนี้ ส่งสัญญาณว่าเขายังมีแนวคิดต้องการปลดนายโพเวลล์อกกจากตำแหน่ง แต่จะรอดูว่าเฟดมีท่าทีอย่างไรใรการประชุมเมื่อคืนนี้เสียก่อน

ขณะที่นายโพเวลล์ยังคงยืนยันในถ้อยแถลงเมื่อคืนนี้ว่า จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ และตั้งใจจะดำรงตำแหน่งจนครบวาระ 4 ปี ตามที่กฏหมายกำหนดไว้


· นักวิเคราะห์จากสถาบัน Premier Asset Management มีมุมมองต่อการประชุมเฟดว่า การที่เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด แต่การที่คณะกรรมการเริ่มมีเสียงแตกในการโหวตคงอัตราดอกเบี้ย บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. ตามที่ตลาดคาดหวัง


· สำหรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯของเฟดเมื่อคืนนี้ มีสัญญาณว่าเฟดยอมรับถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% โดยเฟดได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปีนี้ลงสู่ระดับ 1.5% จากคาดการณ์เดิมในเดือน มี.ค. ที่ 1.8% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เฟดคาดการณ์ไว้ที่ 1.8% จากคาดการณ์เดิม 2%


· หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนจากสถาบัน QMA มีความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของตลาดได้ แต่ก็ควรตระหนักไว้ว่า การปรับลดดอกเบี้ยไม่สามารถช่วยให้เศรษฐกิจกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง แต่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจกำลังอ่อนแอ


· นายโรเบิร์ต ไรท์ไฮเซอร์ ตัวแทนการค้าแห่งสหรัฐฯ ยืนยันว่า เขาจะมีการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ร่วมกับนายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีนด้านเศรษฐกิจ ภายในวันพรุ่งนี้ เพื่อเจรจาเตรียมความพร้อมสำหรับการพบกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ระหว่างการประชุม G20 วันที่ 28-29 มิ.ย. นี้

นอกจากนี้ นายโรเบิร์ตยังคาดการณ์ว่า จะสามารถนัดนายหลิว เฮ่อ เพื่อเดินทางไปยังสถานที่จัดการประชุม G20 ก่อนวันจริง พร้อมกับนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับการพบกันของทั้งสองผู้นำ


· รายงานจากสำนักข่าวของรัฐบาลจีน ระบุว่า การเจรจาระหว่างผู้นำจีนและผู้นำสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า มีความเป็นไปได้ที่ต่ำที่จะเกิดข้อตกลงทางการค้า หรือแก้ไขความขัดแย้งได้โดยทันที แต่เชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการกลับมาเจรจาร่วมกันอีกครั้ง


· การประชุมบีโอเจวันนี้ มีแนวโน้มสูงที่ทางคณะกรรมการจะมีมติคงนโยบายผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษไว้เช่นเดิมแต่อาจมีส่งสัญญาณว่า ทางบีโอเจพร้อมที่จะออกมาตรการกระตตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หากเศรษฐกิจยังคงถูกกดดันจากปัจจัยภายนอกประเทศ รวมถึงยอมรับว่า ภาวะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ขยายตัว เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น

· ราคาน้ำมันค่อนข้างทรงตัว หลังเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในกาปรระชุมเมื่อคืนนี้ โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ปิด -0.47% ที่ระดับ 61.85 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด -0.3% ที่ระดับ 53.76 เหรียญ/บาร์เรล



Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com