• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 17 มิถุนายน 2562

    17 มิถุนายน 2562 | Economic News

· ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่า 0.53% ทำระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 97.35 จุด หลังยอดค้าปลีกสหรัฐฯประกาศออกมาค่อนข้างสดใส จึงผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจลงไปบางส่วน

โดยยอดค้าปลีกเดือน พ.ค. ของสหรัฐฯประกาศออกมาเพิ่มสูงขึ้น 0.5% ในเดือน พ.ค. ต่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ 0.6% ขณะยอดค้าปลีกเดือน เม.ย. ได้รับการแก้ไขใหม่ เป็นเพิ่มสูงขึ้น 0.3% จากเดิมที่ลดลง 0.2%

· นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley มีความเห็นว่า ท่ามกลางภาวะที่เศรษฐกิจทั่วโลกต่างส่งสัญญาณจะชะลอตัวลง ตลาดกำลังกังวลว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจตัดสินใจประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางอื่นๆหันไปใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินกันมากขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์มีความได้เปรียบ

ทั้งนี้ เป็นเพราะตลาดมองว่า สหรัฐฯจะสามารถรองรับผลกระทบที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากสหรัฐฯมีความจำเป็นต้องพึ่งพาสินค้านำเข้าจากต่างประเทศน้อยกว่าประเทศอื่นๆ

· การประชุมเฟดวันที่ 18-19 มิ.ย. สัปดาห์นี้ ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงนโยบายดอกเบี้ยไว้ดังเดิม ขณะที่เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group คาดการณ์โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. นี้ไว้ที่ 23% แต่ในเดือน ก.ค. คาดโอกาสไว้ที่ 87%

· อีกประเด็นที่ตลาดจะจับตาในเดือนนี้ คือการประชุมระหว่างผู้นำประเทศในกลุ่ม G-20 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 28-29 มิ.ย. ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะโอกาสที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน อาจจะมาพบกันได้โดยตรงเพื่อเจรจาการค้ากันอีกครั้ง

ขณะที่นายทรัมป์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้กล่าวว่า ไม่สำคัญว่านายจิ้นผิง จะเข้าร่วมการประชุม G-20 หรือไม่ เพราะในท้ายที่สุด จีนก็จะยอมหาข้อตกลงทางการค้าร่วมกับสหรัฐฯ

· นางแคร์รี ลาม ผู้นำรัฐบาลฮ่องกง ประกาศระงับการผลักดันร่างกฏหมายส่งผู้ต้องหาข้ามแดนที่ถูกต่อต้านโดยประชาชนนับล้านออกไปอย่างไม่มีกำหนด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมออกมากล่าวขอโทษต่อประชาชน แต่ยังไม่มีข้อมูลว่ารัฐบาลฮ่องกงจะทำอย่างไรกับร่างกฏหมายดังกล่าวต่อไป

ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า จะนำประเด็นสิทธิมนุษยชนของฮ่องกงไปพูดคยกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในการประชุม G-20 ที่ญีปุ่น ปลายเดือนนี้

· ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นในคืนวันศุกร์ หลังเหตุการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน สร้างความกังวลให้กับตลาดว่า การขนส่งน้ำมันอาจถูกรบกวนหรือชะลอลง แต่ในภาพรวมรายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันยังปรับลดลงจากความกังวลของตลาดที่มีต่อปริมาณอุปสงค์น้ำมันที่อ่อนแอลงจากสงครามการค้า

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิด +23 เซนต์ ที่ระดับ 52.74 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิด +70 เซนต์ หรือ +1.1% ที่ระดับ 62.01 เหรียญ/บาร์เรล

สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ WTI ปรับลดลง -2.7% ขณะที่ Brent ปรับลดลง -1.5%

· นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ กล่าวเกี่ยวกับกรณีความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านว่า สหรัฐฯไม่ต้องการให้เกิดสงคราม แต่จะใช้ทุกวิถีทาง รวมถึงวิธีการทางการทูต เพื่อสร้างความปลอดภัยในเส้นทางการขนส่งน้ำมันผ่านน่านน้ำในตะวันออกกลาง

ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านกำลังส่งสัญญาณรุนแรง หลังจากที่สหรัฐฯต่างสงสัยว่าอิหร่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในพื้นที่อ่านโอมานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทางอิหร่านก็ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย ก็ออกมากล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิหร่านเช่นกัน พร้อมเรียกร้องให้นานาประเทศร่วมกันประนามการกระทำดังกล่าว แต่ยืนยันว่าซาอุฯไม่ต้องการให้เกิดสงครามใดๆ

ทางด้านนายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งอังกฤษ ระบุว่า ทางอังกฤษ “ค่อนข้างแน่ใจ” แล้วว่าอิหร่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตี


Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com