• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 22 เมษายน 2562

    22 เมษายน 2562 | SET News

· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดทรงตัวในวันนี้ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ยังคงรอกลับสู่ตลาดจากช่วงวันหยุดเทศกาล Good Friday ท่ามกลางราคาน้ำมันที่เปิดบวกจากแนวโน้มที่สหรัฐฯจะเรียกร้องให้ผู้นำเข้าน้ำมันในอิหร่านทั้งหมดยุติการซื้อ หรือเลือกจะเผชิญกับการคว่ำบาตร ขณะที่ตลาดออสเตรเลีย และฮ่องกง ยังปิดทำการในวันนี้เนื่องในวัน Easter Monday

ดัชนีนิกเกอิเปิด -0.2% ขณะที่ดัชนี Topix เปิด -0.33% ทางด้านดัชนี Kospi เปิด +0.14%

· รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า เราอาจได้เห็นตลาดหุ้นสหรัฐฯตอบรับกับการที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีการเรียกร้องให้เฟดทำการปรับลดดอกเบี้ย หลังจากที่ตลาดร่วงลงต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยตำหนิว่า การชะลอดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันถือเป็นการดำเนินการที่ผิด

ส่งผลให้นักลงทุนส่วนใหญ่รอดูท่าทีตอบรับของเฟด และมองโอกาส 50-50 ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในช่วงต้นปี 2020

· นักบริหารเงิน คาดว่า สำหรับปัจจัยที่น่าสนใจคือ กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขภาวะการค้าระหว่างประเทศเดือนมีนาคม 2562 และความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน พร้อมทั้งประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทเอาไว้ระหว่าง 31.75 - 31.90 บาท/ดอลลาร์

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- TMB Analytics ประเมินเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในช่วงที่เหลือของปีแตะระดับ 31.16 บาท/ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 4% จากสิ้นปีก่อน ปัจจัยหนุนมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ การคาดการณ์ดุลการค้าที่ยังคงเป็นบวก และการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้นของธนาคารกลางหลักของโลก

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งกระทรวงการคลังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการบริโภคท่องเที่ยว มาตรการภาษีอสังหาริมทรัพย์ โดยให้นำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หลังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 2 ชะลอตัว

- นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า จากการประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.8% นั้น แม้จะปรับลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนแต่ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับศักยภาพของระบบเศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งมีปัจจัยจากบรรยากาศด้านการค้าระหว่างประเทศที่ดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกที่ยังได้รับแรงกดดันจากปัญหาสงครามการค้าที่หลายประเทศทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบ ไม่เฉพาะแต่ประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ประกอบการจำนวนมากที่กังวลต่อมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯและจีนที่จะออกมา จึงได้สั่งนำเข้าสินค้าไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ดังนั้นจึงส่งผลให้ยอดสั่งคำซื้อและยอดการผลิตในช่วงต้นปีนี้จึงต่ำกว่าปกติ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการกีดกันทางการค้า แต่เมื่อสินค้าที่สั่งไปก่อนล่วงหน้าได้ทยอยลดลง ก็เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการผลิตของประเทศต่างๆ รวมทั้งการส่งออกของไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ให้เพิ่มขึ้

พร้อมทั้ง มองว่า ในระยะหลังอัตราเงินเฟ้อไม่ได้เป็นแรงกดดันต่อการดำเนินนโยบายการเงินมากนัก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อมีสาเหตุมาจาก supply side และเป็นทิศทางเช่นเดียวกันในหลายประเทศ การที่อัตราเงินเฟ้อยู่ในระดับต่ำใกล้ขอบล่าง ต้องพิจารณาว่ามีสาเหตุมาจากจุดใด ซึ่งหากเป็นเพราะสาเหตุจาก supply side ก็ไม่น่ากังวลมากนัก ตราบใดที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศยังสามารถขับเคลื่อนไปได้ การบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนยังเป็นไปตามปกติ

- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวกรมสรรพากรออกประกาศการเก็บภาษีเงินฝากจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สำหรับผู้ที่ได้รับดอกเบี้ยฝาก 2 หมื่นบาทต่อปี จากเดิมที่มีการผ่อนผันให้ข้อยกเว้นสำหรับผู้ที่ลงทะเบียน ยอมให้ธนาคารส่งข้อมูลการรับดอกเบี้ยให้กรมสรรพากรว่า กฎหมายเรื่องการเก็บภาษีจากดอกเบี้ยที่ได้รับจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ นั้นเป็นเรื่องปกติที่มีมานานแล้ว และมองว่าสิ่งที่กรมสรรพากรดำเนินการนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่แล้วเช่นกัน เพราะเป็นการแก้ไขปัญหาการหลบเลี่ยงภาษีของผู้ที่มีเงินฝากจำนวนมาก

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com