หน่วยงานด้านสถิติแห่งกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกำหนดจะประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคสำหรับเดือน ม.ค. ภายในคืนนี้ เวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คาดอัตราเงินเฟ้อชะลอตัว
ตลาดจะจับตาการประกาศตัวเลข Core CPI หรือดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวได้ 0.2% เหมือนเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่ภาพรวมรายปีของดัชนีถูกคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 2.1% จากเดิมที่ 2.2%
สำหรับภาพรวมของเงินเฟ้อในเดือน ม.ค. ถูกคาดว่าจะชะลอตัวลง 0.1% เหมือนในเดือน ธ.ค. ซึ่งจะทำให้ภาพรวมรายปีถดถอยลงสู่ระดับ 1.6% จากเดิม 1.9% ในเดือน ธ.ค.
Core PCE vs. Core CPI
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Core CPI ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่เฟดใช้เป็นมาตรวัดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่จะเป็นดัชนี Core PCE หรือ Core Personal Consumption Expenditures Price index ซึ่งเปรียบเสมือนดัชนี CPI ที่ทันสมัยกว่า เพราะจะมีการประเมินเงินเฟ้อจากหลายส่วนมากกว่า ทำให้ตัวเลขของ PCE มักจะต่ำกว่าตัวเลขของ CPI
โดยดัชนี PCE ถูกคาดการณ์ว่าจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 2.0% จาก 2.1% ขณะที่ตัวเลข Core PCE ถูกปรับลดลงสู่ระดับ 1.9%จากเดิมที่ระดับ 2.0%
ภาวะ Shutdown กับดัชนี Core PCE, CPI
ดัชนี Core PCE มีการปรับย่อตัวลงจากระดับ 2% สู่ระดับ 1.8% ในเดือน ต.ค. ก่อนที่จะปรับขึ้นมาที่ระดับ 1.9% ในเดือน พ.ย. แต่เนื่องจากการที่สหรัฐฯประสบกับภาวะ Shutdown ในช่วงปลายเดือน ธ.ค. ส่งผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถประกาศตัวเลข PCE ของเดือน ธ.ค. และ ม.ค. ได้ จนกว่าจะถึงวันที่ 1 มี.ค.
เมื่อไม่มีการประกาศตัวเลข PCE ตัวเลข CPI ของเดือน ม.ค. จึงมีความสำคัญยิ่งขึ้น ประกอบกับการที่ CPI ถูกคาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงจาก 2.2% เป็น 2.1% นั้น นอกจากจะตอกย้ำถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐฯแล้ว ดัชนี PCE ที่จะถูกประกาศในภายหลัง ก็น่าจะออกมาชะลอตัวลงด้วยเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ แม้ในรายงานการประชุมของเฟดเมื่อเดือน ธ.ค. จะระบุว่า ปัจจัยด้านเงินเฟ้อไม่ใช่ปัจจัยที่เฟดเป็นกังวลมากที่สุด ณ ขณะนั้น แต่ถ้าเงินเฟ้อยิ่งถอยห่างจากเป้าหมาย 2% ของเฟด โอกาสที่จะได้เห็นเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2019 ก็จะยิ่งริบหรี่ลงไป
ที่มา: FX Street