MTS Help Center

• ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง ท่ามกลางการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก จากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างชาติมหาอำนาจตะวันตกและซาอุดิอาระเบีย จึงทำให้นักลงทุนกลับเข้าถือครองทองคำในฐานะ Safe-Haven โดยราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.7% ที่ระดับ 1,226.5 เหรียญ หลังจากที่ช่วงต้นตลาดปรับขึ้นไปกว่า 1% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 26 ก.ค. บริเวณ 1,233.26 เหรียญ

• ทางด้านสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ของตลาด COMEX ปิด +0.68% หรือปรับเพิ่มขึ้น 8.3 เหรียญ คิดเป็น 1,230.3 เหรียญ

• หัวหน้าเทรดเดอร์จาก U.S. Global Investors กล่าวว่า ผู้คนกลับเข้าหาทองคำจากความกังวลเรื่องระดับหนี้สินของอิตาลี และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีน และสหรัฐฯกับซาอุดิอาระเบีย จึงทำให้ราคาทองคำ Break ขึ้นมาทำระดับใหม่ และส่งผลให้นักลงทุนมีการปิดสถานะ Short ในตลาดออกไปบ้าง

• ตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวานนี้ยังคงเคลื่อนไหวแดนลบ ท่ามกลางการดีดกลับของราคาน้ำมันดิบ และข่าวความตึงเครียดระหว่างชาติมหาอำนาจตะวันตกกับซาอุดิอาระเบียที่ดูจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งให้ตลาดปรับตัวลง

• บรรดานักวิเคราะห์มองว่า ในทางเทคนิค หากราคาทองคำยืนเหนือ 1,227 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วันได้ ก็จะส่งผลให้ระดับดังกล่าวเปลี่ยนมาเป็นแนวรับ

• นักวิเคราะห์จาก DailyFX กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ถือครองสถานะ Short ในทองคำ แต่ความผันผวนในอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจากความกังวลเกี่ยวกับตลาดหุ้นทั่วโลกท่ามกลางเฟดที่ใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินก็ได้ส่งผลให้ทองคำมีการปรับตัวขึ้นได้บ้าง และไม่คิดว่าการปรับขึ้นที่เกิดนั้นเป็นภาวะ Panic แต่ดูจะเป็นท่าทีที่ดีต่อการฟื้นตัวของทองคำ แต่ภาพระยะยาว การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดและทิศทางแข็งค่าของดอลลาร์ก็ยังเป็นปัจจัยที่จะสร้างความผันผวนให้แก่ทองคำได้

• กองทุน SPDR เมื่อวันศุกร์ทีผ่านมา ทำการซื้อทอง 5.65 ตันและเมื่อวานนี้ซื้อเพิ่มอีก 4.12 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 748.76 ตัน ขณะที่ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. – 15 ต.ค. SPDR มีการกลับเข้าซื้อต่อเนื่อง 18.59 ตัน

• กองทุนทองคำ SPDR มีการถือครองทองคำเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วเกือบ 2% ซึ่งถือเป็นระดับการเข้าซื้อรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ภาพโดยรวมยังเป็นการเทขายกว่า 4 ล้านออนซ์ นับตั้งแต่ที่มีการทำระดับสูงสุดในช่วงปลายเดือนเม.ย.

• ทองคำยังคงมีความผันผวนตามภาวะทางการเมืองและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยราคาทองคำตั้งแต่ระดับสูงสุดในช่วงปลายเดือนเม.ย. จนถึงปัจจุบันปรับตัวลงมาแล้วกว่า 10% จากการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของดอลลาร์ท่ามกลางภาวะ Trade War ระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมทั้งแรงหนุนจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

• ราคาแพลทินัมปิด +0.2% ที่ระดับ 838.25 เหรียญ หลังจากที่ไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 10 ก.ค. บริเวณ 850.1 เหรียญ

• ราคาพลาเดียมปิด +1.7% ที่ระดับ 1,083.9 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์ปิด +1% ที่ระดับ 14.69 เหรียญ