• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 20 กันยายน 2561

    20 กันยายน 2561 | Economic News
• ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดยความต้องการค่าเงินดอลลาร์ในฐานะ Safe-Haven ปรับตัวลงหลังประเด็นการค้า Trade War ไม่รุนแรงเท่ากับที่หลายฝ่ายกังวลไว้ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลง 0.1% ที่ระดับ 94.467 จุด ใกล้ระดับต่ำสุดรอบ 7 สัปดาห์ที่ทำไว้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาบริเวณ 94.308 จุด

ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดรอบ 2 เดือน จากความระมัดระวังของกลุ่มนักลงทุนเกี่ยวกับกรณีการบรรลุข้อตกลง Brexit ร่วมกัของอียูและอังกฤษ

ค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.1683 ดอลลาร์/ยูโร โดยแข็งค่าขึ้นมาประมาณ 0.1% จากจุดสูงสุดที่ทำไว้ในเดือนส.ค. - ก.ย. ที่ระดับ 1.1730 ดอลลาร์/ยูโร

ค่าเงินปอนด์อ่อนลงมาที่ 1.3149 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับสูงสุดเมื่อวานนี้บริเวณ 1.3215 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 112.14 เยน/ดอลลาร์ ใกล้ระดับปิดอ่อนค่ามากที่สุดรอบ 2 เดือนบริเวณ 112.445 เยน/ดอลลาร์

บรรดาเทรดเดอร์ ต่างยังมีมุมมองเชิงบวกต่อข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อยู่ในแนวโน้มค่อนข้างแข็งแกร่ง แม้ว่าจะเผชิญปัญหาทางการค้ามาตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้

• FX Street ระบุว่า ค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ (EUR/USD) เผชิญแนวรับที่ระดับ $1.1650 ก่อนที่จะรีบาวน์กลับขึ้นมา แต่ยังคงเคลื่อนไหวแบบ Sideways สะสมพลังในระยะสั้น

ดังนั้น หากค่าเงินวันนี้อ่อนค่าหลุดระดับ $1.1650 ลงมา จะทำให้ภาพรวมระยะสั้นกลับมาเป็นทิศทางขาลง และมีโอกาสที่จะอ่อนค่าต่อไปถึงระดับ $1.1600 โดยอาจเผชิญแนวรับที่ $1.1625 ก่อน

อย่างไรก็ตาม หากค่าเงินสามารถทรงตังเหนือระดับ $1.650 ซึ่งเป็นเส้นเทรนขาขึ้นในระยะสั้น ค่าเงินจะมีโอกาสขึ้นทดสอบระดับ $1.1720 อีกครั้ง หากผ่านไปได้ก็จะมีแนวต้านถัดไปที่ $1.1745/50

• รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า จีนมีแผนจะปรับลดอัตราเฉลี่ยภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้าทั้งหมดในเดือนต.ค.

โดยเดือนก.ค. ที่ผ่านมา จีนมีการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าลงไปเกือบ 1,500 สินค้าในกลุ่มผู้บริโภค ตั้งแต่เครื่องสำอางค์จนถึงข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเพื่อเป็นการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ แต่ความขัดแย้งระหว่างจีนสหรัฐฯก็อาจทำให้จีนเดินหน้าใช้มาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯได้

อย่างไรก็ดี ในรายงานจาก Bloomberg ไม่ได้ระบุว่าประเทศใดบ้างที่จะได้รับอานิงส์จากการปรับลดภาษีนำเข้าของจีนในครั้งนี้

• รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจีน ระบุว่า จีนต้องการให้สหรัฐฯแสดงความจริงใจและวางตัวให้เหมาะสมต่อการหารือร่วมกัน หลังจากที่ทั้งสองประเทศต่างปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าระหว่างกันครั้งใหม่ในสัปดาห์นี้ และยิ่งสร้างความตึงเครียดให้แก่ภาวะ Trade War รุนแรงขึ้น

• Ethan Harris หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ประจำ Bank of America Merrill Lynch ประเมินว่า ผลกระทบของ Trade war ที่จะเกิดกับเศรษฐกิจจีน จะมีความรุนแรงมากกว่าผลกระทบที่จะเกิดกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ เนื่องจากจีนมีการส่งออกที่มากกว่าสหรัฐฯ

• รายงานจาก The Telegraph ระบุว่า ส.ส.ประจำพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า ไม่สนับสนุนแนวความคิดของนางเทเรซ่า เมย์ ที่จะออกจากสหภาพยุโรปและคาดว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ

• รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ระบุว่า พร้อมจะเจรจานิวเคลียร์กับเกาหลีเหนืออีกครั้ง หลัง คิม จอง-อึน รับปากกับผู้นำเกาหลีใต้ในประเด็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์ โดยตั้งเป้าให้บรรลุเป้าหมายภายในปี 2021

นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้เชิญ รี ยอง-โฮ รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือให้มาหารือกันในนครนิวยอร์กช่วงสัปดาห์หน้านี้ พร้อมส่งคำเชิญให้เกาหลีเหนือส่งตัวแทนร่วมพูดคุยกับตัวแทนของสหรัฐฯระหว่างการประชุมสหประชาชาติที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียด้วย

· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ลดลงและความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ขณะที่กลุ่มโอเปกส่งสัญญาณว่าอาจไม่สามารถเพิ่มปริมาณการผลิตได้

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้น 0.3% ที่ระดับ 79.66 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.8% ที่ระดับ 71.72 เหรียญ/บาร์เรล หัลงจากที่เพิ่มขึ้นกว่า 2% ใชช่วงก่อนหน้านี้

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com