ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.1% แถวระดับ 93.681 จุด หลังจากที่เมื่อวันจันทร์ขึ้นไปทำ High รอบ 5 เดือนบริเวณ 94.058 จุด
ภาพรวมดัชนีดอลลาร์รับปรับแข็งค่าขึ้นกว่า 5% นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเม.ย. เพราะได้รับาอานิสงส์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ประกอบกับกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะทำการขึ้นดอกเบี้ยได้อีกอย่างน้อย 2 ครั้งปีนี้
· รายงานจาก FXStreet เผยว่า ค่าเงินดอลลาร์ผันผวนก่อนทราบรายงานประชุมเฟดเดือนพ.ค.ในคืนนี้ โดยการประชุมที่ผ่านมาเฟดยังคงมีมติคงดอกเบี้ย แต่มีคาดการณ์เกือบ 100% ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 13 มิ.ย.นี้
ขณะท่ีสกุลเงินในสินทรัพย์ปลอดภัยอาจปรับตัวขึ้นได้หลังการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือในวันที่ 12 มิ.ย. และการประชุมระหว่างเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ถูกเลื่อนออกไป
· ค่าเงินเยนถูกกลับมาถือครองอีกครั้ง โดยแข็งค่าลงมาบริเวณ 110.53 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับอ่อนค่ามากสุดรอบ 4 เดือนบริเวณ 111.395 เยน/ดอลลาร์ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยกับมุมมองเชิงบวกในการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนล่าสุดที่ผ่านมา
ขณะที่ปัจจัยที่ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงถูกดดันอีกครั้งมาจากการที่ นายทรัมป์ ยังระบุว่า มีโอกาสสูงที่การประชุมร่วมกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือจะไม่เป็นไปตามกำหนดการที่วางไว้ในวันที่ 12 มิ.ย. นี้ เพราะดูเหมือนคิมจะไม่ยอมอ่อนข้อต่อการยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
· ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.1% ที่ระดับ 1.1762 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดรอบ 6 เดือนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาที่ระดับ 1.1717 ดอลลาร์/ยูโร
· สมาชิกเฟดมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องของ Yield Curve และอัตราเงินเฟ้อที่ยังต้องอยู่ภายใต้การพิจารณาของเฟด อันจะเห็นได้จากการประชุมเฟดในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 1-2 พ.ค. ที่เฟดยังตัดสินใจคงดอกเบี้ย แต่เจ้าหน้าที่เฟดก็มีการหารือต่อข้อมูลใหม่ว่าจะส่งผลให้เฟดสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้เพิ่มขึ้นหรือไม่ในปีนี้
· นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Bank of America Corp กล่าวว่า สมาชิกเฟดหลายรายก็ดูมีท่าทีผ่อนคลายต่อภาวะการฟื้นตัวของเงินเฟ้อ แต่บางรายก็ยังคงกังวลว่าการปรับขึ้นของเงินเฟ้อที่สูงมากเกินไปอาจนำไปสู่การปรับลดภาวะคาดการณ์ ซึ่งก็คาดว่าน่าจะได้เห็นในรายงานการประชุมคืนนี้เกี่ยวกับประเด็นการปรับขึ้นของเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ รายงานประชุมเฟดจะเปิดเผยในช่วงเวลาตี 1 (ตามเวลาประเทศไทย) โดยคาดว่าใจความโดยรวมจะคล้ายเดิมในการประชุมเมื่อวันที่ 2 ที่ผ่านมา แต่อาจมีการอ้างถึงความสมดุลในการดำเนินงานกับเป้าหมายเงินเฟ้อ ซึ่งดูเหมือนจะมีสัญญาณที่ผ่อนคลายมากขึ้นท่ามกลางโอกาสที่เงินเฟ้อจะขยับเหนือเป้าหมายที่เฟดกำหนดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สมาชิกเฟดบางส่วนจะหารือว่าสิ่งที่ตลาดจะเผชิญนั้นต้องเป็นในลักษณะที่สมมาตรกัน
· รัฐมนตรีกระทรวงการคลังแห่งประเทศจีน ยืนยันว่า ทางการจีนจะปรับลดภาษีนำเข้ายานพาหนะสู่ระดับ 15% จากเดิมที่ 25% รวมถึงอะไหล่ยานพาหนะลงสู่ระดับ 6% จากเดิมที่ 10% ท่ามกลางความตึงเครียดการค้ากับสหรัฐฯที่เริ่มส่งสัญญาณจะผ่อนคลายลง
· รายงานจาก Bloomberg เปิดเผยว่า บริษัท ZTE ของจีนที่ถูกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯสั่งคว่ำบาตร มี่แนวโน้มจะสูญเสียผลประกอบการอย่างน้อย 2 หมื่นล้านหยวน (3.1 พันล้านเหรียญ) เนื่องจากไม่สามารถจำหน่ายสินค้ากลุ่มโทรคมนาคมให้กับสหรัฐฯได้
· องค์กร IMF ระบุว่า การดำเนินงานปฏิรูประบบเศรษฐกิจของทางการซาอุดิอาระเบีย สามารถดำเนินการไปได้ด้วยดี และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวได้ดีขึ้นในปี 2018 หลังจากที่ดุลการค้าของซาอุฯปรับตัวลดลงไปเมื่อปีที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009
· รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศส แสดงความไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของสหรัฐฯที่ออกจากข้อตกลงอิหร่าน พร้อมกล่าวเตือนว่าวิธีการเพิ่มบทลงโทษผ่านการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอาจยิ่งทำให้อิหร่านดำเนินการด้วยความยึดมั่นในหลักการของตนมากขึ้น
· รัฐบาลเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ล่าสุด ทางการเกาหลีเหนือได้ยินยอมที่จะให้สื่อมวลชนจากเกาหลีใต้ สามารถเข้าร่วมพิธีการรื้อถอนและทำลายสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่พัฒนาและทดสอบนิวเคลียร์ได้แล้ว หลังจากที่เคยปฏิเสธการประชุมร่วมกับเกาหลีใต้ เนื่องจากไม่พอใจที่เกาหลีใต้ทำการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯ
นอกจากสื่อมวลชนของเกาหลีใต้แล้ว เกาหลีเหนือยังได้เชิญสื่อมวลชนจากประเทศอื่นๆให้เข้าร่วมพิธีดังกล่าวอีกด้วย เพื่อเป็นการแสดงเจตจำนงในการระงับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือให้โลกได้รับรู้
· วันนี้ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงจากความเป็นไปได้ที่กลุ่มโอเปกจะเพิ่มกำลังการผลิต แม้ว่าตลาดจะมีแรงหนุนจากความตึงเครียดทางการเมืองที่น่าจะช่วยให้ราคาน้ำมันทำระดับสูงสุดในรอบหลายปีได้อยู่
ราคาน้ำมันดิบ Brent ร่วงลง 37 เซนต์ หรือคิดเป็น -0.5% ที่รดับ 79.20 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วทำ High นับตั้งแต่พ.ย. ปี 2014 บริเวณ 80.50 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านน้ำมันดิบ WTI ปรับอ่อนตัวลง 0.3% ที่ระดับ 71.99 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ขึ้นไปทำ High เมื่อคืนนี้บริเวณ 72.83 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่พ.ย. ปี 2014