• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2561

    22 พฤษภาคม 2561 | Economic News

·       ดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงมาจากระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน ที่ 94.058 จุด ลงมาเคลื่อนไหวบริเวร 93.564 จุด หลังแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับสูงขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน เริ่มอ่อนกำลังลง

ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่แถวบริเวณ 3.0523% ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ที่ 3.128% 

สำหรับค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินเยน ปรับอ่อนค่าลง 0.1% บริเวณ 110.89 เยน/ดอลลาร์ ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ที่ 111.395 เยน/ดอลลาร์

·       นักวิเคราะห์จาก Commerzbank คาด อาจเห็นค่าเงินยูโรรีบาวน์กลับ หลังลงไปทำระดับต่ำสุดของปีนี้ โดยค่าเงินยูโรหลังถูกเทขายลงมาทำ Low นับตั้งแต่ธ.ค. ปีที่แล้วบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci Retracement 78.6%  ที่ระดับ 1.1767 ดอลลาร์/ยูโร ก็อาจเห็นการรีบาวน์กลับได้แถวระดับ 1.1853 ดอลลาร์/ยูโร

อย่างไรก็ดี หากค่าเงินยูโรปิดต่ำกว่า 1.1712 ดอลลาร์/ยูโร อาจเห็นค่าเงินกลับร่วงลงสู่ระดับ 1.1616 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเคยเป็นจุดสูงสุดเดิมเมื่อ พ.ค. ปี 2016 และเมื่อนั้นอาจเห็นยูโรปรับลงต่อมาที่ 1.1553 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นต่ำสุดเดิมเมื่อเดือน พ.ย. รวมทั้งจะมีเป้าหมายบริเวณเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 สัปดาห์ที่ 1.1442 ดอลลาร์/ยูโร

สำหรับเส้นค่าเฉลี่ยราย 200 วันจะอยู่ที่ระดับ 1.2021 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ High เดิมในเดือนก.ย.ปีที่แล้วอยู่ที่ 1.2092 ดอลลาร์/ยูโร หากผ่านไปได้อาจไปเจอ 1.2155 ดอลลาร์/ยูโร และจะช่วยจำกัดภาวะอ่อนค่าของยูโรได้

·       นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าใกล้เป้าหมายทางภาคแรงงานและเงินเฟ้อที่กำหนด และปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯจะขยายตัวได้ประมาณ  2.5

·       รายงานจาก Reuters เผย การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ใกล้ที่จะสามารถหาข้อตกลงเกี่ยวกับการยกเลิกแบนสินค้าจากบริษัท ZTE ของจีนได้ รวมถึงมีความเป็นไปได้ที่ ทางการจีนจะยอมยกเลิกนโยบายขึ้นภาษีสินค้าเกษตรกรรมนำเข้าจากสหรัฐฯ รวมถึงตกลงที่จะเพิ่มการเข้าซื้อสินค้าในกลุ่มดังกล่าว

·       นายมาร์ค แซนดี้ หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ประจำสถาบันจัดอันดับ Moody ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC โดยมองว่า การเจรจาระหว่างตัวแทนการค้าจากจีนและสหรัฐฯ จะประสบความล้มเหลว

การเจรจาจะลงเอยแบบ lose-lose” นายมาร์คกล่าว ถ้อยแถลงที่ประกาศออกมาในเชิงบวกเมื่อวานนี้ เป็นเพียงแค่การรักษาหน้าเท่านั้

·       นายวลาเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศว่า การพัฒนาขีปนาวุธที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ลูกใหม่ของรัสเซียจะสามารถยิงได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องระยะทาง แต่ยังคงไม่มีรายงานว่าการทดสอบยิงขีปนาวุธลูกดังกล่าวประสบความสำเร็จหรือไม่ หลังจากมีการทดสอบยิงครั้งที่ผ่านมาจำนวนหลายครั้ง

·       นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าบีโอเจ ยืนยันว่าทางบีโอเจจะมีส่งสัญญาณให้กับตลาดเกี่ยวกับการถอนนโยบายผ่อนคลายทากงารเงิน หากอัตราเงินเฟ้อมีการขยายตัวที่ชัดเจน แต่ในปัจจุบัน ยังถือว่าเร็วเกินไปที่จะส่งสัญญาณดังกล่าว เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ห่างจากระดับเป้าหมายของอัตราเงินเฟ้อที่ 2%

นอกจากนี้ นายคุโรดะ ยังได้เปิดเผยอีกว่า บรรดาธนาคารกลางในยุโรป สหรัฐฯ รวมถึงบีโอเจเอง ก็เริ่มมีแนวคิดที่จะประกาศให้สกุลเงินดิจิจตอล ถือเป็นเงินสำรองใช้แทนเงินสด

·       ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิดใกล้ระดับ 80 เหรียญ/บาร์เรล ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปริมาณการผลิตในประเทศเวเนซุเอลาอาจลดลงต่อไปหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีและการคว่ำบาตรที่อาจเกิดขึ้นกับสมาชิกโอเปก

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 0.2% ที่ระดับ 79.37 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นกว่า 0.3% ที่บริเวณ 72.45 เหรียญ/บาร์เรล

Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com