• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 19 กุมภาพพันธ์ 2561

    19 กุมภาพันธ์ 2561 | Economic News
• ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก บริเวณ 89.045 จุด เคลื่อนไหวเหนือระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ 88.253 จุด หลังจากปรับอ่อนค่าลงมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน

ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่บริเวณ 106.330 เยน/ดอลลาร์ หลังจากปรับแข็งค่าลงไปบริเวณ 105.545 เยน/ดอลลาร์ เมื่อสัปดาหืที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. ปี 2016

ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่บริเวณ 1.2423 ยูโร/ดอลลาร์ หลังปรับอ่อนค่าลงมากว่า 0.7% จากระดับสูงสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ระดับ1.2556 ยูโร/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี

• เครื่องมือ FedWatch CME Group ของ ชี้ว่า มีโอกาส 80% ที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนหน้า สู่ระดับ 1.50 - 1.75% และมองโอกาส 79.7% ที่เฟดจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค.

อย่างไรก็ดี ณ ปัจจุบัน มีโอกาส 23%ที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้ง จากเดิมที่ระดับ 17% หลังทราบข้อมูลเงินเฟ้อ ขณะที่ปัจจุบันโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยสู่กรอบ 2.25 - 2.50% ในช่วงสิ้นปี 2018 จะทำการขึ้นได้เพียง 4 ครั้ง , แต่โอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งปีนี้ยังคงอยู่ในระดับสูง 37.1% และจำนวน 2 ครั้งปีนี้ดูจะมีโอกาส 27.8%

• JP Morgan หั่นคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีสหรัฐฯในไตรมาสแรกลงจากการฟื้นตัวที่ร้อนแรงของเงินเฟ้อ ขณะที่ยอดค้าปลีกออกมาย่ำแย่ ดังนั้น คาดว่าจีดีพีสหรัฐฯในไตรมาสแรกจะขยายตัวได้ 2.5% จากคาดการณ์เดิมที่ 3.0%
• ยอดก่อสร้างบ้านใหม่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีในเดือนม.ค. เพราะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของการก่อสร้างบ้านเดี่ยวที่เพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการเพิ่มขึ้นของยอดขออนุมัติก่อสร้างบ้านที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2007

โดยยอดก่อสร้างบ้านใหม่ปรับขึ้น 9.7% ที่ระดับ 1.326 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ต.ค. ปี 2016 ขณะที่ยอดขายบ้านมีการปรับทบทวนขึ้นมาที่ 1.209 ล้านยูนิต ทางด้านยอดอนุมัติก่อสร้างบ้านทะยานขึ้น 7.4% ที่ระดับ 1.396 ล้านยูนิตในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มิ.ย. ปี 2007
• ข้อมูลภาคโรงงานอุตสาหกรรมทรงตัวต่อเนื่องเดือนที่ 2 ในเดือนม.ค. จึงส่งผลให้เกิดคำถามตามมามากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มของภาคการผลิต ท่ามกลางการผลิตที่ลดลงในกลุ่มอุตสาหกรรมอวกาศ, พลาสติก และอาหาร

• ดัชนีราคานำเข้าสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นเกินคาดในเดือนม.ค. แตะระดับ 1.0% ขณะที่เดือนก่อนหน้ามีการปรับทบทวนขึ้นมาบริเวณ 0.2% อันได้รับอานิสงส์จากราคานำเข้าสินค้าปิโตรเลียมและสินค้าอื่นๆที่ปรับตัวสูงขึ้น บ่งชี้ว่าอาจเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนเงินเฟ้อให้ปรับตัวขึ้นได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

อย่างไรก็ดี ข้อมูลในสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงอัตราเร่งของดัชนีราคาผู้บริโภคและผู้ผลิต และเป็นตัวช่วยที่จะหนุนให้เห็นว่าเงินเฟ้อมีโอกาสจะปรับขึ้นได้ต่อในปีนี้ และมีโอกาสแตะระดับเป้าหมาย 2% ที่เฟดกำหนด ขณะเดียวเงินอัตราเงินเฟ้อก็ถูกคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ และนโยบายปฏิรูปค่าใช้จ่ายจากจำนวน 1.5 ล้านล้านเหรียญ ในการปรับลดภาษีและเพิ่มค่าใช้จ่ายภาครัฐบาล ซึ่งการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อจะเป็นปัจจัยที่จะทำให้เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้จำนวน 3 ครั้ง และการปรับขึ้นครั้งแรกของปีน่าจะเกิดขึ้นในเดือนมี.ค.

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นเอเชียที่ฟื้นตัวตามตลาดหุ้นทั่วโลกและความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในตะวันออกกลาง

ทั้งนี้ น้ำมันดิบ WTI Brent ปรับตัวสูงขึ้น 1.2% ที่ะรดับ 62.41 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ ปรับขึ้น 0.8% ที่ระดับ 65.36 เหรียญ/บาร์เรล
Related
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com