MTS Help Center

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นาย จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซาน ฟานซิสโก กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจำนวน 4 ครั้งในปี 2018 ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้จำนวน 3 ครั้งในปีนี้ อย่างไรก็ดี นายวิลเลียมส์ ระบุว่า การเติบโตของอัตราค่าจ้างและอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในระยะสั้นจากนโยบายภาษีใหม่อาจส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นได้

ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบเชิงลบต่ออุตสาหกรรมส่วนใหญ่ แต่ธนาคารของสหรัฐฯเป็นหนึ่งในไม่กี่อุตสาหกรรมที่จะได้รับผลประโยชน์ต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะช่วยหนุนให้ธนาคารสหรัฐฯสามารถปรับปรุงตัวเลขอัตราดอกเบี้ยสุทธิของตนได้อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้ปรับตัวดีขึ้นจากระดับต่ำสุดในปี 2014-2015 ได้

อย่างไรก็ดี ผลประโยชน์ของภาคธนาคารสหรัฐฯนั้นอาจขยายตัวได้แตกต่างกัน โดยรายงานตัวเลข NIM (อัตราส่วนรายได้สุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย) ของธนาคารบางแห่งพบว่ามีผลกำไรที่ดีขึ้นกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นๆ ทั้งนี้ ความแตกต่างของผลกำไรที่เกิดขึ้นนั้น มาจากอัตราส่วนของสินเชื่อต่อเงินฝากที่แตกต่างกัน

ทั้งนี้ ทุกครั้งที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ผลกำไรของภาคธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐฯจะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นทุกครั้ง ตามตารางด้านล่างนี้

ตารางคาดการณ์ผลกำไรของ Bank of America ต่อจำนวนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ที่มา: Forbes