• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 6 กุมภาพพันธ์ 2561

    6 กุมภาพันธ์ 2561 | Economic News
• ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก บริเวณ 89.605 จุด ขณะที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยในช่วงบ่ายปรับแข็งค่าลงมา 0.1% บริเวณ 108.93 เยน/ดอลลาร์ ได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อค่าเงินเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสียงในกรณีที่เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจโลก

ขณะที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.1% บริเวณ 1.2384 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากปรับอ่อนค่าลงไป 0.7% เมื่อวานนี้

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับลงมาบริเวณ 2.662% โดยได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายอย่างหนักในตลาดหุ้น หลังจากที่ปรับขึ้นไปถึงระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ที่ 2.885% เมื่อวานนี้

ขณะที่ Fed fund futures ปรับมุมมองโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้เหลือเพียง 2 ครั้ง จากเดิมที่ประเมินไว้ที่จำนวน 3 ครั้งหรือมากกว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ด้านดัชนีวัดความกังวลในตลาด VIX ปรับสูงขึ้นกว่า 20 จุด ที่ระดับ 30.71 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. ปี 2015

• Bitcoin ร่วงลงกว่า 13% หลุดต่ำกว่า 6,000 เหรียญในวันนี้ ท่ามกลางการขาดทุนต่อเนื่องเกินกว่าครึ่งนับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2018 หลังทำจุดสูงสุดบริเวณ 20,000 เหรียญในปีที่แล้ว ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่กังวลต่อผู้กำหนดนโยบายในตลาดที่อาจยับยั้งการซื้อขายในตลาด จึงทำให้นักลงทุนลดการถือครองและทำให้ราคาอ่อนตัวลงมา

โดยในตลาด Bitstamp ร่วงลงมา 5,920 เหรียญ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแตร่กลางเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง ขณะที่สินค้าCryptocurrencies อื่นๆ ก็ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์นี้

• เมื่อคืนที่ผ่านมา นายเจอโรม โพเวล ได้เข้าพืธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานเฟดต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน อย่างเป็นทางการ ซึ่งต่อมาไม่นานนัก ตลาดหุ้นสหรัฐฯก็เผชิญกับแรงเทขายอย่างหนักจนปรับร่วงลงมาเป็นประวัติการณ์

ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา ปรับร่วงลงมาจากความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและเงินเฟ้อที่เริ่มส่งสัญญาณว่าอาจขยายตัวได้ ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ที่เพิ่งปรับร่วงลงมา 666 จุด เมื่อคืนวันศุกร์ ปรับร่วงลงต่ออีกถึง 1,500 จุดเมื่อคืนนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้บางส่วน

นายวาร์ด แมคคาร์ธี (Ward McCarthy) นักเศรษฐศาสตร์การเงินจาก Jefferies กล่าวว่า ความผันผวนเมื่อคืนนี้ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งหมดไม่ได้เป็นเพราะการเข้ารับตำแหน่งของนายโพเวลแต่อย่างใด แต่การดำเนินงานในด้านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการปรับลดพอร์ตงบดุลของเฟดในปีนี้ น่าจะดำเนินการได้ค่อนข้างลำบาก ขณะที่นักลงทุนบางส่วนก็ได้มองว่า นายโพเวลน่าจะเป็นคนที่ประนีประนอมต่อตลาดมากกว่านางเยลเลน

• รายงานจาก New York Times เผย บรรดาทนายความประจำตัวนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้พยายามโน้มน้าวไม่ให้นายทรัมป์ยอมรับการสอบสวนกับนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ หัวหน้าคณะสืบสวนพิเศษ ในกรณีความเกี่ยวข้องกันระหว่างนายทรัมป์และรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016

อย่างไรก็ตาม รายงานจาก Reuters ได้ระบุว่า ยังไม่มีการตัดสินใจจากทีมบริหารของนายทรัมป์ว่าจะตอบรับข้อเรียกร้องจากนายมูลเลอร์หรือไม่แต่อย่างใด

ทั้งนี้ หากนายทรัมป์ปฏิเสธ นายมูลเลอร์ก็มีแนวโน้มที่จะร้องขอให้ศาลยุติธรรมออกหมายศาล เพื่อเรียกให้นายทรัมป์ขึ้นรายงานตนต่อคณะลูกขุนใหญ่ โดยฝ่ายที่จะตัดสินในกรณีนี้คือศาลฏีกาแห่งสหรัฐฯ

• ธนาคารกลางอียิปต์ เผย มีการเพิ่มปริมาณการสำรองทองคำในเดือนม.ค.ปีนี้เพิ่มขึ้น 135 ล้านเหรียญ คิดเป็น +5% เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่มูลค่าราคาทองคำทรงตัวที่ระดับ 2.8 ล้านเหรียญในช่วงสิ้นเดือนม.ค. เมื่อเทียบกับระดับ 2.67 ล้านเหรียญในเดือนธ.ค. ปี 2017

• นักกลยุทธ์จาก JPMorgan Asset Management คาดการณ์ว่า กระแสคาดการณ์การขยายตัวของอัตราดอกเบี้ยจะสามารถช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นปรับสูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปได้ ขณะที่คาดว่าตลาดหุ้นน่าจะมีการรีบาวน์ในระยะสั้นๆ

โดยกล่าวว่า “ ในท้ายที่สุด เฟดก็ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากไม่ทำเช่นนั้น พันธบัตรระยะยาวก็จะถูกเทขายจากความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อ แต่ไม่ว่าเฟดจะเลือกหนทางใด เศรษฐกิจก็จะชะลอตัวลง”

• นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Daily FX วิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับสู่ภาวะขาลง โดยหากหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 63.64 เหรียญ/บาร์เรล ก็มีโอกาสลงมาเส้น Fibonacci Retracement 38.2% ที่ระดับ 62.62 เหรียญ/บาร์เรล และระดับเส้น Fibonacci Retracement 50% จะอยู่ที่ 61.38 เหรียญ/บาร์เรล ในทางกลับกันหากราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นเหนือ 63.64 เหรียญ/บาร์เรลได้ ให้จับตาไปยังแนวต้านถัดไป 64.86 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งหากผ่านไปได้มีโอกาสทดสอบจุดสูงสุดเดิมเมื่อ 25 ม.ค. บริเวณ 66.63 เหรียญ/บาร์เรล

• ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงกว่า 1% โดยขยายตัวลดลงจากช่วงก่อนหน้า เนื่องจากตลาดการเงินทั่วโลกร่วงลงจากหลังจากที่หุ้นสหรัฐฯปรับลดลงอย่างมาก

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 1.1% ที่ระดับ 66.91 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 1.1% เช่นเดียวกัน ที่ระดับ 63.46 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com