• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 5 กุมภาพพันธ์ 2561

    5 กุมภาพันธ์ 2561 | Economic News
• ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก ที่บริเวณ 89.127 จุด หลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นมา 0.6% จากระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ที่ 88.438 จุดเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯที่ประกาศออกมาแข็งแกร่งเกินคาด

• ตลาดซื้อขายสินค้าอนุพันธ์ คาดการณ์ว่า เฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้จำนวน 3 ครั้งหรือมากกว่านั้นในปีนี้

ขณะที่ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าลงมา 0.25% ที่ระดับ 109.925 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯฉุดรั้งให้หุ้นเเอเชียปรับตัวลงตาม จึงทำให้ค่าเงินเยนถูกตอบรับในฐานะ Safe Haven

ค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.2462 ดอลลาร์/ยูโร หลังปรับอ่อนค่าลง 0.5% คืนวันศุกร์ จากระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 3 ปีบริเวณ 1.2538 ดอลลาร์/ยูโร เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา

• โอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. หนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี แรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบหลายปี บริเวณ 2.85% ขณะที่เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ชี้ว่า มีโอกาส 78% ที่เฟดจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีอายุ 10 ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเงินเฟ้อ ที่เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญของตลาดพันธบัตรเวลานี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีอายุ 10 ปรับขึ้นแตะ 0.774% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ก.ย. ปี 2015 ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ปรับขึ้นทำระดับสูงสุดรอบ 2 ปีบริเวณ 1.429%

• ทางสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯมีแผนจะลงมติร่างกฎหมายงบประมาณในคืนวันอังคารนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Shutdown ที่จะเกิดขึ้นหลังร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่จะหมดอายุลงในวันที่ 8 ก.พ.

อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีรายละเอียดว่าร่างกฏหมายงบประมาณตัวนี้ จะสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลได้ยาวนานแค่ไหน รวมถึงยังคงต้องการมติเห็นชอบจากฝั่งสมาชิกวุฒิสภาภายหลังจากการลงมติของฝั่งส.ส. ขณะที่เดดไลน์ของการยื่นร่างกฏหมายงบประมาณถูกกำหนดไว้ที่คืนวันพฤหัสบดีนี้

• นายเจอโรม โพเวล ว่าที่ประธานเฟดคนที่ 16 มีกำหนดการจะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าวันจันทร์ของสหรัฐฯ หรือช่วงค่ำคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยนายโพเวลจะดำรงตำแหน่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในปัจจุบัน ท่ามกลางความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน และอัตราว่างงานและเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำเป้นประวัติการณ์

• นางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานเฟด เผย เธอรู้สึกผิดหวังที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ได้เสนอให้เธอดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่ออีกวาระหนึ่ง อย่างไรก็ตามเธอได้กล่าวแสดงความยินดีกับนายเจอโรม โพเวล ประธานเฟดคนใหม่ พร้อมชื่มชมว่าเขาเป็นผู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งเนื่องจากเขาเป็นคนที่ ช่างคิด มั่นคง และมุ่งมั่นทำงานให้กับประชาชนอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ นายทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้เสนอชื่อนายโพเวลให้เข้ารับตำแหน่งประธานเฟด เคยมีอคติต่อนางเยลเลนซึ่งมาจากฝ่ายเดโมแครต ในช่วงแรกๆที่เขารับตำแหน่งประธานาธิบดี แม้ต่อมาเขาจะกล่าวชื่นชมเธอก็ตาม แต่นายทรัมป์ก็ได้เสนอชื่อนายโพเวลซึ่งมาจากฝ่ายรีพับลิกันให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟด

• นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน เลขาธิการกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐฯ เผย รัฐบาลสหรัฐฯกำลังพิจารณาเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรประเทศเวเนซูเอลาด้วยการจำกัดการส่งออกน้ำมันจากสหรัฐฯ เพื่อเป็นการกดดันนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซูเอลา ให้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครอง

• บรรดาตัวแทนการเจรจาจากพรรคการเมืองของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยืนยันจะดำเนินการเจรจาเพื่อก่อตั้งพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรค SPD ต่อในวันนี้ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันในหัวข้อการประกันสุขภาพและด้านแรงงานได้

• คณะกรรมการอียูกล่าวว่า การเจรจาภายใต้หัวข้อ Brexit ระหว่าง อังกฤษและอียู แม้จะยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่มีกระแสคาดการณ์แล้วว่า ธุรกิจการบินรวมถึงอุตสาหกรรมการบินภายในยูโรโซนจะได้รับผลกระทบในทางลบอย่างหนัก

• นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญีปุ่น แสดงความหวังว่า ทางบีโอเจจะคงการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป เพื่อช่วยหนุนให้อัตราเงินเฟ้อสามารถเติบโตไหปถึงระดับเป้าหมายที่ 2% ได้ พร้อมระบุอีกว่า ยังเร็วเกินไปที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจะประกาศสิ้นสุดภาวะเงินฝืด แม้จะมีสัญญาณการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งก็ตาม

• ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง ท่ามกลางแรงเทขายในตลาดและค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาปรับแข็งค่าขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลง 0.8% ที่ระดับ 68.01 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน หลังจากมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาร่วงลง 1.5% ส่งผลให้ ภาพรวมรายสัปดาห์ปรับลง 2.75% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลง 47 เซนต์ ที่ระดับ 64.98 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com