• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561

    1 กุมภาพันธ์ 2561 | Economic News


· สรุปผลประชุมเฟด

เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมาที่ระดับ 1.25-1.50% แต่กล่าวว่าภาวะเงินเฟ้อนั้นมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นได้ในปีนี้ จึงหนุนกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยที่อาจจะเดินหน้าต่อเนื่องภายใต้การดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ของ นายเจอโรม โพเวลล์

ทั้งนี้ เฟดกล่าวย้ำถึงความแข็งแกร่งในตลาดแรงงาน การใช้จ่ายภาคครัวเรือนและการลงทุนภายในประเทศ จึงคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ปานกลาง และตลาดแรงงานจะยังมีความแข็งแกร่งในปีนี้ ขณะที่นายเจอโรม โพเวลล์จะดำรงตำแหน่งเฟดอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 ก.พ. และถูกคาดว่าจะมีแนวทางการดำเนินนโยบายตามแบบแผนเดียวกับนางเยลเลน ประธานเฟดคนก่อน ในการค่อยๆปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับ 0% ที่ช่วยพยุงสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯและกระตุ้นการจ้างานหลังจากที่เผชิญกับภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจในปี 2007-2009

• ก่อนทราบผลประชุมเฟด ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นจากข้อมูลเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งของยูโรโซน โดยดัชนีดอลลาร์ปรับร่วงลงมาบริเวณ 88.846 จุด และทำให้ภาพรวมตลอดเดือนม.ค. อ่อนค่าลง 3.5% ซึ่งเป็นเดือนที่มีการอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่มี.ค.ปี 2016

ขณะที่การประกาศข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ (ADP) ที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์สู่ระดับ 234,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อค่าเงินดอลลาร์มากนัก เช่นเดียวกับถ้อยแถลงนโยบายประจำปีครั้งแรกของนายทรัมป์ในช่วงเช้าวานนี้ ที่ไม่ได้กล่าวอะไรเกี่ยวกับการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยมีแต่การเรียกร้องให้คองเกรสผ่านร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐานฉบับใหม่วงเงิน 1.5 ล้านล้านเหรีญญ รวมทั้งเรียกร้องให้มีการทำงานร่วมกันด้วยความประนีประนมอ แต่ก็ดูเหมือนเขาจะให้น้ำหนักไปยังการปรับปรุงกฎหมายผู้อพยพ

ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้น 0.49% ที่ระดับ 1.2461 ดอลลาร์/ยูโร และส่งผลให้ภาพเดือนม.ค.ปรับแข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 ปี จากข้อมูเงินเฟ้อยูโรโซนเดือนม.ค.ที่ช่วยหนุนคาดการณ์ที่ว่าอีซีบีจะสามารถถอนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยข้อมูลเงินเฟ้อปรับขึ้น 1.2% ในเดือนม.ค. จากระดับ 1.1% ในเดือนก่อนหน้า

แต่หลังจากทราบผลประชุมเฟดค่าเงินดอลลาร์ก็กลับมาแข็งค่าได้อีกครั้ง ขณะที่ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงและทรงตัวในช่วงปลายตลาด โดยดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นมา 89.192 จุด ขณะที่ค่าเงินยูโรย่อตัวลงมาทรงตัวบริเวณ 1.2403 ดอลลาร์/ยูโร

• นายสตีเว่น มนูชิน เลขาธิการกระทรวงการคลังแห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้สภาคองเกรสพิจารณายกระดับเพดานหนี้ของสหรัฐฯโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันภาวะShutdown ของรัฐบาล

• นายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวถึงแผนการถือครองตราสารหนี้ครั้งใหญ่ จากการที่เฟดจะทำการปรับลดยอดงบดุลจาก QE แต่กล่าวเตือนว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจเป็นเพียงการช่วยชำระค่าใช้จ่ายของรัฐบาลทั้งหมดได้ถึงเดือนก.พ.

• กระทรวง FBI แสดงความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของบันทึกที่มีการกล่าวถึงนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯในเชิงลบโดยสมาชิกพรรครีพับลิกันในกระทรวงยุติธรรม ซึ่งบันทึกดังกล่าวได้รับการลงมติโดยคณะกรรมการหน่วยข่าวกรองให้เปิดเผยสู่สาธารณะเมื่อวานนี้

• นายเทรย์ โกดี้ ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลของสหรัฐฯ ประกาศว่า เขาจะไม่เข้ารับเลือกตั้งใหม่ในเดือนพ.ย.นี้ โดยระบุว่าเขาสามารถใช้ทักษะในห้องพิจารณาคดีได้ดีกว่าในสภาคองเกรสและชอบระบบยุติธรรมมากกว่าระบบการเมืองของสหรัฐฯ

• สำนักข่าว Reuters เผย โครงการรณรงค์เลือกตั้งใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใช้งบประมาณตลอดปี 2017 ไปทั้งสิ้น 22 ล้านเหรียญ ขณะที่ได้รับเงินบริจาคในไตรมาสที่ 4/2017 ไปทั้งสิ้น 6.9 ล้านเหรียญ

• ผู้แทนการเจรา Brexit ทางฝั่งอียู ประเมินว่ายังไม่มีช่องว่างในการหารือร่วมกับอังกฤษเกี่ยวกับ “Passport” ในการเข้าถึงตลาดการเงินของอียูสำหรับภาคธนาคารต่างๆหลังจากเกิดกรณี Brexit แต่พวกเขาก็มีความตั้งใจที่จะปรับให้ก้าวสู่การค้าเสรี

• ราคาน้ำมันดิบรีบาวด์หลังจากที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ กล่าวว่า สต็อกน้ำมันกลั่นและน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบได้กดดันสัญญาน้ำมันดิบในระหว่างวัน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิด +0.4% ที่ระดับ 64.73 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิดเพิ่มขึ้น 3 เซนต์ ที่ระดับ 69.05 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com