• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 26 มกราคม 2561

    26 มกราคม 2561 | Economic News


• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวกับสำนักข่าว CNBC ว่าพึงพอใจต่อการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งสวนทางกับถ้อยคำของนายสตีเว่น มนูชิน เลขาธิการกระทรวงการคลัง ที่ได้กล่าวเมื่อวานนี้ นอกจากนี้นายทรัมป์ ยังกล่าวอีกว่า ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจคำพูดดังกล่าวของนายมนูชินผิดไป

ซึ่งจากถ้อยแถลงของนายทรัมป์ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นมา 0.17% ที่ระดับ 89.027 จุด หลังจากที่ช่วงต้นตลาดลงไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดบริเวณ 88.438 จุด

• ทางด้านค่าเงินยูโรในช่วงต้นตลาดปรับแข็งค่าขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีที่ระดับ 1.2536 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนธ.ค. ปี 2014 โดยได้รับอานิสงส์จากถ้อยแถลงของ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบีที่กล่าวว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจบ่งชี้ถึง “ความแข็งแกร่งของยูโรโซน” ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นได้ในระยะกลาง

อย่างไรก็ดี ค่าเงินยูโรปรับอ่อนค่าลงที่ระดับ 1.2395 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่อีซีบีแสดงความกังวลต่อภาวะการแข็งค่าของค่าเงินยูโรที่ร้อนแรงที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี

ทั้งนี้ นายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบี กล่าวตำหนิรัฐบาลสหรัฐฯเกี่ยวกับการออกมาพูดให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมา โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดข้อตกลงที่จะไม่ทำการใดๆที่ส่งผลต่อค่าเงินโดยตรง และอาจเป็นการกดดันให้ทางอีซีบีต้องมีการพิจารณาดำเนินนโยบายการเงินใหม่ เนื่องจากหากค่าเงินยูโรแข็งค่ามากเกินไป อาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนไม่สามารถขยายตัวได้ตามเป้

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯอาจไม่ถอนตัวออกมาจากสนธิสัญญา TPP หากตัวแทนการเจรจา สามารถ หาบรรลุข้อตกลงที่มีผลประโยชน์ต่อสหรัฐฯดีกว่านั้น

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาพร้อมที่ลงนามในนโยบายที่จะมอบสัญชาติให้กับเยาวชนที่เดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฏหมายเป็นจำนวน1.8 ล้านคน

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่า การเคลื่อนดังกล่าวของนายทรัมป์ เป็นการทำไปเพื่อดึงดูดเสียงสนับสนุนจากพรรคเดโมแครตในบางส่วน ในการลงมติร่างกฏหมายงบประมาณครั้งต่อไป แต่ยังคงมีความกังวลอยู่ในหัวข้อสำคัญอย่าง การเสริมความปลอดภัยระหว่างชายแดน และมาตรการเพิ่มเติมในการป้องกันการอพยพอย่างผิดกฏหมาย

• ผลการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ พบว่า ยอดขายบ้านใหม่ปรับตัวลดลงเกินคาดในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา โดยปรับลดลง 9.3% ที่ระดับ 625,000 ยูนิต โดยถือเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปีครึ่ง แต่มีแนวโน้มว่ายอดขายบ้านใหม่จะกลับมาปรับสูงขึ้นได้หลังจากที่ในพื้นที่บางส่วนทางตอนใต้ของสหรัฐฯได้รับความเสียหายจากพายุเฮอริเคน

ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดแต่แย่ลงจากเดิม โดยมีผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 17,000 รายสู่รดับ 233,000 ราย แต่ภาพรวมก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 รายได้ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 151

• นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงเชิงอนุรักษ์นิยมจากพรรค CDU ประกาศเปิดการเจรจาร่วมกับนายมาร์ติน ชุลซ์ หัวหน้าพรรคSPD อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ประเทศเยอรมนีอยู่ในฐานะไม่มีรัฐบาลปกครองมาเกือบ 4 เดือน โดยการเจรจาครั้งนี้จะกินเวลาถึง 1 สัปดาห์ และบรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาคาดการณ์ว่า การเจรจาครั้งนี้น่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้อย่างแน่นอน

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น โดยน้ำมันดิบ Brent ทะยานเหนือ 71 เหรียญ/บาร์เรลได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014 เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ ประกอบกับภาวะตึงตัวของอุปทานโลก และการร่วงลงเป็นประวัติการณ์ของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ

น้ำมันดิบ Brent ทำระดับสูงสุดเมื่อวานนี้บริเวณ 71.28 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.ปี 2014 ก่อนที่ภาพรวมจะปิดปรับขึ้น 31 เซนต์ ที่ระดับ 70.84 เหรียญ/บาร์เรล

น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 44 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.7% ที่ระดับ 66.05 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ขึ้นไปทำ High นับตั้งแต่ธ.ค.ปี 2014 บริเวณ 66.66 เหรียญ/บาร์เรล


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com