• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 25 มกราคม 2561

    25 มกราคม 2561 | Economic News

• ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทำแตะระดับต่ำสุดรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับสกุลหลัก หลังจากถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯแสดงความยินดีที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่า ขณะเดียวกันค่าเงินยูโรทรงตัวก่อนทราบการประชุมอีซีบี

ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 3 ปีนับตั้งแต่ธ.ค.ปี 2014 บริเวณ 89.064 จุด

ค่าเงินยูโรทรงตัวแตะระดับ 1.2425 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ธ.ค. ปี 2014 บริเวณ 1.2428 ดอลลาร์/ยูโร

ค่าเงินเยนแข็งค่าลงมา 0.1% ที่ระดับ 109.105 เยนดอลลาร์ หลังจากเมื่อวานนี้แข็งค่าลงไปทำระดับต่ำสุดรอบ 4 เดือน 108.965 เยน/ดอลลาร์

• นายสตีเว่น มนูชิน เลขาธิการกระทรวงการคลังแห่งสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า “การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ในปัจจุบัน ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เนื่องจากจะช่วยเปิดโอกาสทางการค้าให้กับสหรัฐฯมากขึ้น

นอกจากนี้นายมนูชินยังได้กล่าวอีกว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังเตรียมมาตรการกดดันทางการค้ากับประเทศคู่แข่งอย่างจีน ซึ่งเป็นหนึ่งนโยบายกีดกันทางการค้าของเขาอีกด้วย

อย่างไรก็ดี นายวิลบอร์ รอส เลขาธิการกระทรวงพาณิชย์แห่งสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวปกป้องนายมนูชิน โดยระบุว่า นายมนูชินไม่ได้สนับสนุนการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์แต่อย่างใด

เมื่อถูกสัมภาษณ์เกี่ยวกับโอกาสในการเกิดสงครามทางการค้าขึ้น นายรอส ได้กล่าวว่า สงครามการค้าได้ปะทุขึ้นมานานแล้ว แต่ในปัจจุบันแตกต่างกันตรงที่สหรัฐฯมีการเตรียมการป้องกันที่แข็งแกร่งแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าประเภทแผงโซล่าเซลล์และเครื่องซักผ้า เพื่อป้องกันตลาดแรงงานภายในสหรัฐฯ ขณะที่จีนและเกาหลีใต้ได้กล่าวประนามการกระทำดังกล่าว และเตรียมยื่นฟ้องร้องต่อสมาคมการค้าโลก จึงส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มในการเกิดสงครามทางการค้าขึ้น

• นักวิเคราะห์จาก DailyFX กล่าวว่า การประชุมอีซีบีวันนี้ มีแนวโน้มสูงที่จะคงนโยบายไว้ดังเดิม แต่ภายหลังจากที่การประชุมครั้งก่อน ทางอีซีบีได้ส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายการเงินเอาไว้ ประกอบกับภาพรวมทางเทคนิคของค่าเงินยูโร ยังมีโอกาสที่จะปรับขึ้นได้อีก จึงคาดว่า หากอีซีบีเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนไปใช้นโยบายการเงินแบบคุมเข้มในการประชุมครั้งนี้ ก็มีโอกาสที่ค่าเงินยูโรจะแข็งค่าขึ้นได้อีก

• ความมีเสถียรภาพของตลาดแรงงาน ควบคู่กับความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจและกลุ่มผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้บรรดานักเศรษฐศาสตร์ปรับทบทวนคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของยูโรโซน และจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนนั้นขยายตัวได้ดีที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ดังนั้น อีซีบีจึงอาจดำเนินการถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อหลีกเลี่ยงความแตกต่างที่เพิ่มขึ้นในภายหลัง

อย่างไรก็ดี จากรายงานประชุมอีซีบีที่เผยแพร่เมื่อ 11 ม.ค. แสดงใเห็นว่า ค่าเงินยูโรมีการแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ และยังคงแข็งค่าต่อนับตั้งแต่เปิดศักราชใหม่ในปีนี้ จนถึงปัจจุบันนี้ค่าเงินยูโรแข็งงค่าขึ้นแล้ว 2% จึงยิ่งหนุนให้เกิดกระแสคาดการณ์ที่ว่าอีซีบีอาจเผชิญกับความผันผวนในการปรับนโยบายการเงินได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ ขณะที่การแข็งค่าของค่าเงินยูโรนั้น ยังคงเป็นหนึ่งในภารกิจท้าทายให้อีซีบีต้องต่อสู้กับการแก้ไขในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพราะการแข็งค่าของค่าเงินมีแนวโน้มจะกดดันให้เงินเฟ้ออ่อนตัว และส่งผลกระทบให้มูลค่าการส่งออกแพงขึ้น แต่มูลค่าการนำเข้านั้นถูกลง

• CEO ของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เปิดเผยกับทางสำนักข่าว CNBC โดยระบุว่า ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนอาจไม่น่าวิตกกังวลเท่าไหร่นัก แม้ว่าความตึงเครียดระหว่างสองประเทศจะยังมีอยู่ แต่ก็จะสามารถหาทางออกร่วมกันได้

• หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ทางด้านยูโรโซนประจำ Pantheon Macroeconomics ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว CNBC โดยระบุว่า อีซีบีจะยังไม่ประกาศเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆในการประชุมวาระนี้ แม้ว่าจะมีสัญญาณเพิ่มขึ้นที่อีซีบีจะปรับทบทวนแนวทางการดำเนินนโยบายในช่วง "ต้นปี" 2018 แต่คาดว่า นายมาริโอ้ ดรากี้ ประธานอีซีบีจะเผชิญกับคำถามที่ถาโถมเข้ามาว่า จะเร็วแค่ไหนที่อีซีบีมีแนวโน้มจะทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน ขณะที่อีซีบีเองมีข้อมูลมากเพียงพอและครอบคลุมต่อเงื่อนไขทางเศรษฐกิจที่จะสามารถใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน แต่ก็เป็นอีกครั้งที่นักลงทุนยังไม่เคยเห็นเขาเลือกนำมาใช้

• ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นแตะระดับ 71 เหรียญ/บาร์เรล เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2014 ท่ามกลางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์และปริมาณน้ำมันในคลังสหรัฐฯที่ปรับลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 10 ประกอบกับมาตรการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับสูงขึ้น 0.5% บริเวณ 70.86 เหรียญ/บาร์เรล โดยทำระดับสูงสุดที่ 71.05 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับสูงขึ้น0.8% บริเวณ 66.14 เหรียญ/บาร์เรล โดยทำระดับสูงสุดที่ 66.35 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com