• ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทำระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับค่าเงินเยนและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังมีรายงานว่าจีนพร้อมที่จะชะลอหรือระงับการเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐฯเป็นการชั่วคราว โดยค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมา 1.13% ที่ระดับ 111.37 เยน/ดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อคืนอ่อนค่าลงไปทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย. บริเวณ 111.29 เยน/ดอลลาร์
ทางด้านดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 91.90 จุด ก่อนจะดีดกลับมาแถวระดับ 92.25 จุด ซึ่งภาพรวมถือว่าปรับอ่อนค่าลงมาประมาณ 0.28%
• นักวิเคราะห์จาก FXStreet ระบุว่า หากดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลงหลุดต่ำกว่า 92 จุดลงมาอีกครั้ง ก็มีโอกาสจะกลับไปทดสอบระดับต่ำสุดของเดือนบริเวณ 91.80 จุดได้
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 15 มี.ค. บริเวณ 2.597% ก่อนจะย่อมาทรงตัวบริเวณ 2.564%
• รัฐบาลจีนประกาศจะพิจารณาชะลอหรือระงับการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ภายหลังจากการตรวจสอบปริมาณการถือครองทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของธนาคารกลางจีน ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
รายงานจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า จีนมีสัดส่วนการสำรองเงินตราต่างประเทศในรูปของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯเป็นมูลค่า 1.19 ล้านล้านเหรียญ ณ เดือนต.ค. ปี 2017
ในรายงานของ Bloomblerg ระบุว่า เจ้าหน้าที่จากจีนที่ไม่เปิดเผยชื่อ ระบุว่า ตลาดพันธบัตรสหรัฐฯเริ่มมีความน่าสนใจน้อยลงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ ขณะที่ความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯเป็นอีกหนึ่งเหตุผลให้จีนจะทำการชะลอการเข้าซื้อพันธบัตรดังกล่าว
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ได้ออกมาเตือนว่า น่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญใดๆเกี่ยวกับปริมาณการถือครองค่าเงินต่างประเทศของธนาคารกลางจีนในเร็วๆนี้ เนื่องจากจีนยังคงต้องใช้เวลาในการบริหารทุนสำรองที่ยังคงเหลืออยู่ในคลัง
ทางด้านสมาชิกเฟดได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มในการชะลอการเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐฯจากจีน ว่าจะไม่ส่งผลกระทบสำคัญใดๆต่อแผนการปรับลดพอร์ตงบดุลของเฟด พร้อมเชื่อมั่นว่า การชะลอการเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐฯของจีน จะเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจจีน
• นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า การที่เฟดไม่สามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 2% มาตลอด 5 ปี ถือเป็นปัจจัยที่กดดันให้เศรษฐกิจไม่สามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่ พร้อมเสนอให้เฟดพิจารณาการเปลี่ยนมาใช้ระบบการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อเป็นแบบผสมผสาน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดหลายคน ได้เสนอให้เฟดพิจารณาแบบแผนการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงระบบที่จะเข้ามาเกื้อหนุนอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ เพื่อให้เงินเฟ้อสามารถขยายตัวได้เร็วขึ้นอีกในอนาคต
• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวถึงกาประชุมระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ โดยระบุว่าสหรัฐฯพร้อมที่จะเจรจากับเกาหลีเหนือ “ภายใต้สถานการณ์ที่เหมาะสม” แม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการเจรจาจะดำเนินไปในทิศทางใดก็ตาม
• สำนักข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า บรรดาสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ จะมีการประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับความเสี่ยงของสกุลเงินดิจิตอล เช่น Bitcoin ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้ภายในเดือนหน้า
• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นและปิดใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี หลังจากที่ข้อมูลของภาครัฐบาลแสดงให้เห็นว่าปริมาณสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯและส่วนกำลังการผลิตนั้นปรับตัวลดลง แม้ว่าสต็อกเชื้อเพลิงจะมีการปรับตัวสูงขึ้นบ้าง
น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 61 เซนต์ หรือคิดเป็น +1% ที่ระดับ 63.57 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ธ.ค. ปี 2014 ขณะที่ช่วงต้นตลาดไปทำ High บริเวณ 63.67 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ 9 ธ.ค. ปี 2014
น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 38 เซนต์ ที่ระดับ 69.20 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ขึ้นไปทำ High บริเวณ 69.37 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่พ.ค. ปี 2015
• รายงานจาก EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลดลงกว่าที่คาดการณ์สู่ระดับ 4.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา