• ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังเกิดแรงเทขายในค่าเงินยูโรเพื่อทำกำไรหลังจากที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าทำระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 เดือบริเวณ 1.2089 ดอลลาร์/ยูโร โดยล่าสุดค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงประมาณ 0.57% ที่ระดับ 1.196 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 0.46% ที่ระดับ 92.368 จุด
• นายเอริค โรเซ็นเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน เรียกร้องให้เฟดพิจารณาปรับระดับเป้าหมายของอัตราเงินเฟ้อจากเดิมที่ระดับ 2% สู่เป้าหมายใหม่ในกรอบระหว่าง 1.5% - 3% เพราะนับตั้งแต่ที่เฟดได้กำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 2% เมื่อปี 2012 อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯก็ไม่เคยสามารถขึ้นไปแตะระดับเป้าหมายได้เลย เขาจึงคิดว่าระดับเป้าหมายเงินเฟ้อที่เหมาะสมที่สุด อาจจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยเช่นกัน
• นายราฟาเอล บอสติค ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า กล่าวว่า การขึ้นดอกเบี้ยจำนวน 3 ครั้งอาจมากเกินไป ดังนั้นเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 2 ครั้งในปีนี้ ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังอ่อนตัว ขณะเดียวกันเงินเฟ้อก็ยังไม่สามารถปรับขึ้นได้ 2% ตามเป้าหมายที่เฟดกำหนด
• นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เฟดดูจะต่อสู้กับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจได้ดีขึ้นโดยการคงระดับดอกเบี้ยอย่างยาวนานที่ผ่านมา และทำให้เงินเฟ้อดูจะปรับตัวขึ้นอย่างมั่นคงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
• ทีมบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมประกาศชื่อผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรองประธานเฟดในเร็วๆนี้ ขณะที่ นายแสตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟดคนปัจจุบัน เตรียมลาออกจากตำแหน่งในเดือน ต.ค. ปีนี้ ด้วยเหตุผลส่วนตัว
• สำนักข่าว Washington Post รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะถูกเรียกสอบปากคำ โดยคณะสืบสวนพิเศษเกี่ยวกับกรณีต้องสงสัยการทุจริตการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 และความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซีย ภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ เมื่อการประชุมสภาสหรัฐฯเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา นายโรเบิร์ต มูลเลอร์ หัวหน้าคณะสืบสวนพิเศษ ได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะเรียกสอบสวนนายทรัมป์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
• สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ทีมบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใกล้จะประสบความสำเร็จในการเขียนร่างนโยบายเพื่อสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมให้กับกองทัพสหรัฐฯ โดยสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมอาวุธภายในประเทศให้เร่งการผลิตและค้าขายกับต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งจะครอบคลุมตั้งแต่โดรนไปถึงเรือรบ และมีโอกาสที่ร่างนโยบายจะมีผลบังคับใช้ใช้จริง อย่างเร็วที่สุดคือต้นเดือน ก.พ. นี้
• นายเอ็ด รอยซ์ (Ed Royce) ส.ส.พรรครีพับลิกันตัวแทนจากรัฐแคลิฟอร์เนียใต้ ประกาศยืนยันว่าเขาจะไม่ลงเลือกตั้ง ส.ส. กลางวาระที่จะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนพ.ย. ปีนี้ การประกาศเกษียรของนายเอ็ด อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้พรรคเดโมแครตมีโอกาสมากขึ้นที่จะสามารถกลับเข้ามาครองเสียงส่วนมากในสภาได้
• ตัวแทนจากเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือจะพบกันในการประชุมเกี่ยวกับการจัดกีฬาโอลิมปิกภายในวันนี้ ซึ่งบรรดาผู้นำประเทศหลายคน จะจับตาดูการประชุมครั้งนี้ แม้จะเป็นหัวข้อเกี่ยวกับการจัดแข่งกีฬาเป็นหลักก็ตาม เพือหาสัญญาณเกี่ยวกับโอกาสที่กรณีความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 ชาติ อาจผ่อนคลายลงได้
• ราคาน้ำมันดิบทรงตัว ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะการเมืองของประเทศสมาชิกบางส่วนในโอเปกจึงชดเชยกับผลผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ โดยน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 16 เซนต์ หรือคิดเป็น +0.2% ที่ระดับ 67.78 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 29 เซนต์ หรือคิดเป็น +0.5% ที่ระดับ 61.73 เหรียญ/บาร์เรล