• รายงานการประชุมเฟดชี้ จังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับอัตราเงินเฟ้อและนโยบายการเงิน

    4 มกราคม 2561 | Economic News


รายงานการประชุมประจำเดือนธันวาคมที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ แสดงให้เห็นว่า บรรดาสมาชิกเฟดส่วนใหญ่ยังคงมีความกังวลเกี่ยกับอัตราเงินเฟ้อของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ขระที่คาดการณ์ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคจะขยายตัวในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

การประชุมเฟดครั้งล่าสุดที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 12-13 ของเดือนธันวาคม เฟดได้ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่วิกฤติการเงินเมื่อปี 2008 แต่บรรดาแสดงสมาชิกเฟดกลับแสดงความไม่แน่ใจเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายฏิรูปภาษีที่จะเกิดขึ้นกับอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ

ทั้งนี้ สมาชิกเฟดส่วนมากยังคงสนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเชื่อมั่นว่าการดำเนินการในลักษณะนี้จะสามารถควบคุมความเสี่ยงระหว่างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม สมาชิกเฟดยังคงมีความกังวลว่านโยบายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อขยายตัวได้เร็วเกินไป ขณะที่คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯจะยังไม่สามารถขยายตัวถึงระดับเป้าหมาย 2% ได้ภายในสิ้นปีนี้

ตลาดหุ้นสหรัฐฯและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ มีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากรับทราบรายงานการประชุมเฟดเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่ากลับขึ้นมา เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่

นอกจากนี้ ในการประชุมครั้งต่อไปของเฟดที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 31 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ จะเป็นการประชุมครั้งแรกในฐานะประธานเฟดคนใหม่ของนายเจอโรม โพเวล ที่จะมาแทนนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ซึ่งการประชุมครั้งต่อไป น่าจะยังคงเป็นการหารือในประเด็นหลักๆเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงชะลอตัว และผลกระทบของนโยบายปฏิรูปภาษี

นักเศรษฐศาสตร์จาก Amherst Pierpont Securities กล่าวว่า “ในปัจจุบัน เฟดกำลังเดินทางสายกลางเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงิน แต่ถ้าหากอัตราเงินเฟ้อขยายตัว เฟดก็จะมีท่าทีคุมเข้มมากขึ้น เช่นเดียวกัน หากอัตราเงินเฟ้อชะลอตัว เฟดก็จะผ่อนคลายมากขึ้น”

เฟดเชื่อมั่นเศรษฐกิจจะขยายตัวต่อไป

ในการประชุมเฟดเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เฟดได้คงคาดการณ์จำนวนครั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งในปี 2018 และ 2019 ไว้ที่จำนวน 3 ครั้งเท่ากัน แม้จะมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากนโยบายปฏิรูปภาษี

ซึ่งนโยบายปฏิรูปภาษีจะทำการปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลลงจากระดับ 35% สู่ระดับ 21% ซึ่งถูกคาดว่าจะเป็นปัจจัยหลักที่จะผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขณะที่การปรับลดภาษีของภาคบริษัท น่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุนดึงดูดการลงทุนเพิ่มเข้ามาในสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เฟดได้คาดการณ์อัตราว่างงานไว้ที่ระดับ 4% ในปี 2018 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำมาก แต่ยังได้คาดการรืว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ตลอดปี 2018


ที่มา: Reuters

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com