• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 4 มกราคม 2561

    4 มกราคม 2561 | Economic News


• เมื่อคืนนี้ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นได้จากข้อมูลภาคการผลิตและการก่อสร้างของสหรัฐฯ และหลังจากรายงานประชุมเฟดที่สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่เฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อในปีนี้

ค่าเงินดอลลาร์ดีดกลับขึ้นได้ประมาณ 0.3% มาที่ระดับ 92.18 ด หลังจากที่ร่วงลงไปกว่า 2.5% ในรอบช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่ามา และส่งผลให้ภาพรวมปี 2017 อ่อนค่าลงเกือบ 10% ซึ่งถือเป็นระดับการอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 14 ปี

ทางด้านค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าขึ้น 0.2% ที่ระดับ 112.51 เยน/ดอลลาร์ และค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมา 0.3% ที่ระดับ 1.2016 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนบริเวณ 1.2081 ดอลาร์/ยูโรเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

• ข้อมูลกิจกรรมภาคการผลิตของสหรัฐฯขยายตัวขึ้นเกินคาดในเดือนธ.ค. เพราะได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของยอดคำสั่งซื้อใหม่ อันเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงสิ้นปี 2017

สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เผยดัชนีภาคการผลิตขยายตัวขึ้นเกินคาดแตะระดับ 59.7 จุดในเดือนธ.ค. ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดครั้งที่ 2 ในรอบกว่า 6 ปี จากเดิมที่ระดับ 58.2 จุดในเดือนพ.ย. ซึ่งข้อมูลที่สูงกว่า 50 จุด บ่งชี้ถึงการขยายตัวในภาคการผลิต และจะคิดเป็นค่าเฉลี่ย 12% ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

• ข้อมูลการใช้จ่ายภาคการก่อสร้างในสหรัฐฯปรับตัวขึ้นได้ 0.8% ในเดือนพ.ย. และทำ All-Time High ที่มูลค่า 1.257 ล้านล้านเหรียญ โดยได้รับอานิสงส์จากการลงทุนในกลุ่ม Private Residential และ Nonresidential

• สำนักข่าว CNBC เผยสรุปรายงานประชุมเฟดระหว่างวันที่ 12-13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า สมาชิกเฟดมีความคาดหวังว่าการปรับลดภาษีนิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของสหรัฐฯจะช่วยหนุนค่าใช้จ่ายในภาคธุรกิจและกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งส่วนใหญ่คาดหวังว่าการเปลี่ยนแปลงด้านภาษีที่เกิดขึ้นจะช่วยให้อัตราจีดีพีที่แท้จริงขยายตัวได้ในอีก 2-3 ปี แต่ก็ยังคงมีความไม่แน่ใจเกี่ยวกับผลกระทบจากกฎหมายภาษีฉบับใหม่ ขณะเดียวกันสมาชิกเฟดยังมีความกังวลว่าเงินเฟ้ออาจจะอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายนานกว่าที่พวกเขาประเมินไว้ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ สมาชิกเฟดยังปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีปี 2018 จากระดับ 2.1% สู่ระดับประมาณ 2.5% ขณะที่สมาชิกเฟดยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับระดับเงินเฟ้อที่ยังคงไม่ถึงเป้าหมาย 2% ที่กำหนดไว้ โดยสมาชิกเฟดยังคงมีการถกเถียงกันถึงสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ภาพรวมสมาชิกเฟดส่วนใหญ่ก็ยังมีความเห็นพ้องกันว่ามีแนวโน้มที่เงินเฟ้อจะบรรลุเป้าหมายได้ในระยะกลาง ยกเว้นสมาชิกเฟดจำนวน 2 ราย (นายนีล คาร์ชคาริ และนายชาร์ล อีวานส์) ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากพวกเขาไม่คิดว่าเงินเฟ้อจะบรรลุเป้าหมายได้นั่นเอง

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศตัดความสัมพันธ์กับนายสตีฟ แบนนอน ส.ว.พรรครีพับลิกันและอดีตที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจของนายทรัมป์ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดยกล่าวหาว่านายแบนนอนได้ “เสียสติ” ไปแล้ว ภายหลังจากนายแบนนอนได้กล่าวว่าร้ายบุตรชายคนโตของนายทรัมป์

• นายพอล มานาฟอร์ท อดีตหัวหน้าทีมหาเสียงเลือกตั้งประจำตัวนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ยื่นฟ้องร้องนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ หัวหน้าคณะสืบสวนพิเศษประจำรัฐสภา ในข้อกล่าวหาว่าทีมของนายมูลเลอร์ได้ใช้อำนาจในการสืบสวนกรณีความสัมพันธ์ระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯและรัฐบาลรัสเซียมากเกินขอบเขต

• น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 1.26 เหรียญ หรือคิดเป็น +2.1% ที่ระดับ 61.63 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 1.27 เหรียญ หรือคิดเป็น +1.9%ที่ระดับ 67.84 เหรียญ โดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นได้จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯและเยอรมนี ประกอบกับเหตุความไม่สงบของประเทศสมาชิกในกลุ่มโอเปก หลังจากเกิดการประท้วงในอิหร่านและมีผู้เสียชีวิตจำนวน 21 ราย

• เกิดเหตุการประท้วงขึ้นในประเทศอิหร่านมาติดต่อกันเป็นวันที่ 6 จากความไม่พึงพอใจของประชาชนวัยทำงานที่มีต่อสภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และความไม่เป็นธรรมในเอกสิทธ์ของนายอาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านคนปัจจุบัน ซึ่งความรุนแรงของการประท้วงได้ขยายตัวมาตลอด จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการประท้วงไปแล้ว 21 คน

ขณะที่รายงานล่าสุด ระบุว่า รัฐบาลอิหร่านได้ส่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติออกสู่พื้นที่ 3 จังหวัดในอิหร่าน เพื่อช่วยควบคุมสถานการณ์แล้ว


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com