• นักวิเคราะห์เชื่อมั่น ทองคำเป็นขาขึ้นในปี 2018 แนะนำจับตาธนาคารกลาง

    27 ธันวาคม 2560 | Gold News

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า แนวทางการดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดนั้น จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของราคาทองคำตลอดปี 2018 ซึ่งเฟดมีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง รวมถึงจำนวนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะมีน้อยกว่าที่เฟดคาดไว้สำหรับปี 2018 

นอกจากนี้ ยังมีโอกาสจะเกิดสัญญาณกลับตัวในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือแรงเทขายในตลาดหุ้น และหันมาเข้าซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯจะยังส่งสัญญาณของความแข็งแกร่งอยู่ก็ตาม

TD Securities ประเมินว่าราคาทองคำจะได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจากเฟด ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหากตลาดได้รับสัญญาณดังกล่าว ซึ่งตามทฤษฏีแล้ว ค่าเงินดอลลาร์และราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวสวนทางกัน

ทั้งนี้ TD Securities ได้คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะมีระดับเฉลี่ยอยู่ที่บริเวณ 1,313 เหรียญตลอดปี 2018 หรือบริเวณ 1,300 เหรียญ และ 1,325 เหรียญ สำหรับช่วงครึ่งแรกและครึ่งหลังของปี 2018 ตามลำดับ

Commerzbank คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะมีระดับเฉลี่ยอยู่ที่บริเวณ 1,325 เหรียญตลอดปี 2018 ขณะที่ Bank of America Merrill Lynch คาดว่าราคาทองคำในปี 2018 จะมีระดับเฉลี่ยอยู่ที่บริเวณ 1,326 เหรียญ พร้อมคาดว่าเฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจำนวน 3 ครั้งในปี 2018

ยิ่งไปกว่านั้น บางองค์กรยังได้ประเมินราคาทองคำปี 2018 ไปในทิศทางเชิงบวกมากกว่าที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งได้แก่ Flynn ที่คาดว่าราคาทองคำในปี 2018 จะมีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 1,400 เหรียญ หรือแม้แต่ระดับ 1,500 เหรียญ ขณะที่ Macquarie ที่คาดว่าราคาทองคำ จะมีโอกาสขึ้นไปแตะระดับ 1,400 เหรียญในปี 2018 เช่นกัน พร้อมระบุอีกว่า ทองคำอาจถูกใช้เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ดี ยังมีนักวิเคราะห์จากบางองค์กรที่คาดการณ์ว่าราคาทองคำในปี 2018 จะเข้าสู่ทิศทางขาลง ซึ่งได้แก่ Societe Generale ที่ประเมินว่าราคาทองคำจะมีระดับเฉลี่ยที่บริเวณ 1,175 เหรียญ สำหรับปี 2018 เนื่องจากมองว่าเฟดจะมีแนวโน้มคุมเข้มทางการเงินมากขึ้น

นอกจากนี้ Capital Economics ก็ได้ประเมินว่าตลาดทองคำจะเข้าสู่ทิศทางขาลงในปี 2018 เช่นกัน โดยคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวบริเวณ 1,200 เหรียญในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2018 โดยได้ประเมินไปถึงความเสี่ยงจากแนวโน้มการคุมเข้มทางการเงินที่มากขึ้นของเฟด และนโยบายปฏิรูปภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯอีกด้วย


จับตาตลาดหุ้น สกุลเงินดิจิตอล และความตึงเครียดทางการเมือง


ตลาดหุ้นและสกุลเงินดิจิตอล อาจกลายเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำในปี 2018 ได้ โดยนักวิเคราะห์ได้กล่าวว่า อาจเกิดสัญญาณการกลับตัวหรือแก้ไขมูลค่าในตลาดหุ้น และสกุลเงินดิจิตอลที่มีความผันผวนอย่างรุนแรงในปัจจุบันได้ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว และหันเข้าหาทองคำในฐานะสินทรัพย์ Safe-Haven ได้

ทั้งนี้ Walsh Trading ยังได้คาดการณ์ว่าราคาทองคำในปี 2018 ไปในทิศทางเชิงบวกเช่นกัน โดยคาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นของปี 2018 แต่สำหรับช่วงครึ่งปีหลัง ยังคงต้องจับตาดูต่อไป

นอกจากนี้ Walsh Trading ยังได้ประเมินว่าอาจมีแรงหนุนเพิ่มมาจากปริมาณอุปสงค์ในทองคำจากประเทศจีนและอินเดียที่เป็นตลาดทองคำรายใหญ่ที่สุดอันดับแรกๆของโลก เนื่องจากเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศเริ่มฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง จึงคาดว่าอาจมีแรงเข้าซื้อทองคำเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดประเด็นความตึงเครียดทางการเมือ

ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนประเมินว่าบรรดาธนาคารกลางจะยังคงเป็นผู้ซื้อหลักของทองคำ แม้จะไม่ได้ช่วยส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้ แต่การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางจะเปรียบเสมือนเบาะรองรับไม่ให้ราคาทองคำปรับร่วงลงมารุนแรงมากนัก

 

ที่มา: Kitco

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com