• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2560

    21 พฤศจิกายน 2560 | Economic News


• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ จากการอ่อนค่าของค่าเงินยูโรจากภาวะความเสี่ยงทางการเมืองในเยอรมนี จึงทำให้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นแตะ 94.104 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 14 พ.ย. ขณะที่ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่าไปที่ระดับ 112.72 เยน/ดอลลาร์ จากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ทำให้นักลงทุนมีสภาวะการถือครองสถานะในลักษณะ Risk-on

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะ 1.1720 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากที่นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีล้มเหลวในการจัดตั้งพรรคร่วมรัฐบาล

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวขึ้น จากกลุ่มนักลงทุนที่รอคอยรายงานประชุมเฟดวาระ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. ที่จะประกาศในวันพุธนี้ โดยตลาดยังปราศจากปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้ ขณะที่ตลาดเริ่มมีการซื้อขายเบาบางก่อนเข้าสู่วันหยุด Thanksgiving ที่จะเริ่มในวันพฤหัสบดีนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหหรัฐฯปรับขึ้น 2.37%จากระดับ 2.35% ในคืนวันศุกร์

• เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group แสดงให้เห็นว่า บรรดาเหล่าเทรดเดอร์มองโอกาส 92% ที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้

• เมื่อคืนนี้ นายมาริโอ ดรากี้ ชี้ว่า แรงงานในยูโรโซนอาจต้องรอสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค เนื่องจากบรรดาแรงงานหลายรายยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะการว่างงานนับตั้งแต่ช่วงเกิดวิกฤตทางการเงินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่อัตราการว่างงานล่าสุดที่ระดับ 8.9% ถือได้ว่าเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ม.ค. ปี 2009 ดังนั้น อาจต้องรอการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อให้ค่าแรงนั้นมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นตาม

• สำนักข่าว Bloomberg รางานว่า นายมาริโอ ดรากี้ กล่าวว่า การร่วงลงของอัตราว่างงานจะช่วยหนุนเงินเฟ้อของยูโรโซนในภูมิภาค หลังจากที่เริ่มมีสัญญาณในปีนี้ ซึ่งอาจทำให้บรรดาแรงงานนั้นมีค่าแรงที่เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งปัจจัยจากภาวะเงินเฟ้อระดับต่ำในช่วงหลายปี และความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในการทำงาน รวมทั้งปัจจัยต่างๆอาจกลับมาเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราวได้ ขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงชะลอตัวนั้นถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้อีซีบียังคงต้องใช้นโยบายสนับสนุนทางการเงิน

• ขณะที่เช้านี้ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน กล่าวว่า หลังจากนายเจอโรม โพเวล คณะกรรมการเฟด ได้เข้าพีธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานเฟดอย่างเป็นทางการ เธอจะสละตำแหน่งคณะกรรมการเฟดของเธอทันที ซึ่งหมายความว่านางเยลเลนจะไม่มีบทบาทในการบริหารของเฟดอีกต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นตอนที่เธอหมดวาระลงในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี2018

ทั้งนี้ นายโพเวลมีกำหนดการที่จะขึ้นรายงานตนเกี่ยวกับการเข้ารับตำแหน่งประธาน ต่อคณะกรรมการวุฒิสภาแห่งสหรัฐฯภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่ไม่มีรายงานว่าวุฒิสภามีกำหนดการจะทำการลงมติเลือกผู้เข้ารับตำแหน่งประธานเฟดแต่อย่างใด

• ผลสำรวจจากเฟดสาขานิวอร์ก ชี้ว่า ชาวอเมริกามีเครดิตความมั่นใจมากขึ้นหลังจากที่ความผันผวนในตลาดการเงินนั้นลดน้อยลง จึงส่งสัญญาณเชิงบวกมากขึ้นต่อภาพรวมของภาคครัวเรือนในสหรัฐฯ

• เมื่อคืนนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เพิ่มชื่อประเทศเกาหลีเหนือ กลับเข้าบัญชีรายชื่อประเทศที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้าย ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐฯสามารถเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรกับเกาหลีเหนือ และเสี่ยงต่อความตึงเครียดระหว่างทั้งสองฝ่ายที่อาจจะเลวร้ายลงได้

• นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เผย เธอสนใจที่จะจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่เพื่อที่จะสามารถเป็นผู้นำให้กับรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภามากกว่าที่จะเป็นผู้นำของรัฐบาลร่วม หลังจากที่ความพยายามในการก่อตั้งรัฐบาลร่วมระหว่าง 3 พรรคของเธอล้มเหลวเมื่อวานนี้

• นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้เข้าพบกับบรรดารัฐมนตรีเพื่อหารือเกี่ยวกับการชำระค่า Exit Bill ให้กับสหภาพยุโรป และจำนวนเงินที่อังกฤษสามารถจะชำระได้ เพื่อที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพอย่างเป็นทางการ ซึ่งทางสหภาพยุโรปได้กำหนดมูลค่าของ Exit Bill ไว้ที่ 2 หมื่นล้านยูโร (1.772 หมื่นล้านปอนด์) พร้อมกำหนดระยะเวลาให้อังกฤษตอบรับข้อเสนอดังกล่าวภายในเดือนธันวาคมนี้

• Bitcoin ทำระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ โดยสามารถปรับขึ้นแตะ 8,000 เหรียญได้เป็นครั้งแรก และภาพรวมสามารถปรับขึ้นได้กว่า 50% ในช่วง 8 วันทำการ โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากบริษัท Square Inc ที่ระบุว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีการอนุญาตเริ่มต้นให้ลูกค้าสามารถซื้อขาย Bitcoins ผ่านทาง Cash app ได้

อย่างไรก็ดี Bitcoin มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดที่ระดับ 8,197.81 เหรียญ ในตลาด Luxembourg-based Bitstamp หรือปรับตัวขึ้นกว่า 2% เมื่อวานนี้ และถือเป็นการปรับตัวขึ้นได้ประมาณ 48% นับตั้งแต่ที่ร่วงลงไปแตะระดับ 5,555 เหรียญเมื่อ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่อก่อนการประชุมโอเปกในสัปดาห์หน้า ขณะที่การแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สร้างผลลบต่อสินค้าโภคภัณฑ์ไปทั่ว โดยน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 84 เซนต์ หรือคิดเป็น -1.4% ที่ระดับ 61.86 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ปรับลง 70 เซนต์ หรือคิดเป็น -1.2% ที่ระดับ 55.85 เหรียญ/บาร์เรล โดยภาพรวมราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันติดต่อกัน 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่ที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา และ ณปัจจุบันร่วงลงมาแล้วประมาณ 2.6%

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com