• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 2 พฤศจิกายน 2560

    2 พฤศจิกายน 2560 | Economic News


• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่งเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน บริเวณ114.450 เยน/ดอลลาร์ เพราะได้รับอานิสงส์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ประกอบกับโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธ.ค. ก่อนที่เช้านี้จะเผชิญสภาวะ Pull back ทำให้อ่อนตัวลงมาบริเวณ 114.03 เยน/ดอลลาร์ โดยตลาดรอคอยแผนภาษีของสหรัฐฯที่คาดว่าจะเปิดเผยในวันนี้

ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนตัวลงมาเล็กน้อยประมาณ 0.15% ที่ระดับ 94.685 จุดในเช้านี้ หลังจากที่เมื่อคืนนี้ปรับแข็งค่าขึ้นไป 0.3% ทางด้านค่าเงินยูโรทรงตัวบริเวณ 1.1631 ดอลลาร์/ยูโร

• เมื่อคืนนี้ ADP รายงานข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนที่ขยายตัวขึ้นเกินคาดอย่างมากในเดือนตุลาคมสู่ระดับ 235,000 ตำแหน่ง หรือปรับขึ้นได้กว่า 134,000 ตำแหน่งเมื่อเทียบกับข้อมูลเดิมที่มีการปรับลดลงมาบริเวณ 110,000 ตำแหน่ง โดยภาคบริษัทในสหรํฐนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 7 เดือน โดยรีบาวน์กลับจากระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนในเดือนก่อนหน้าที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์และเออร์มา

• ขณะที่มาตรวัดกิจกรรมภาคโรงงานอุตสาหกรรมอ่อนตัวลงในเดือนต.ค.ที่ระดับ 58.7 จุด โดยเป็นการร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีครึ่งเนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบบางส่วนจากพายุเฮอริเคนที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ แต่ภาพรวมของเงื่อนไขภาคการผลิตก็ยังคงขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง

สรุปประชุมเฟด

เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.00-1.25% และบ่งชี้ว่า ภาวะการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯและตลาดแรงงานเป็นไปอย่างแข็งแกร่ง และผลกระทบจากพายุเฮอริเคนในช่วงก่อนหน้านั้นได้ลดน้อยลงไป พร้อมกันนี้เฟดยังส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งตามกำหนดการเดิมในการประชุมเดือนธ.ค.นี้

ทั้งนี้ สมาชิกเฟดยังคงมีมุมมองเชิงบวกจากข้อมูลในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทั้งข้อมูลความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมไปถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน แม้ว่าจะมีบางส่วนจะมีการพิจารณาถึงการอ่อนตัวของเงินเฟ้อ เนื่องจากมาตรวัดเงิเนฟ้อของเฟดในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.3% โดยยังอยู่ห่างจากระดับเป้าหมาย 2% ของเฟด แต่นางเยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบันและสมาชิกเฟดส่วนใหญ่ยังเห็นควรในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อไป และเชื่อว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมายระยะกลางได้ รวมทั้งกล่าวย้ำถึงอัตราว่างงานที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องอันเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ค่าแรงมีการขยายตัวขึ้นได้ โดยปัจจุบันอัตราว่างานอยู่ที่ระดับ 4.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 16 ปีครึ่ง ขณะที่ข้อมูลจีดีพีล่าสุดของไตรมาสที่ 3 ขยายตัวได้ 3% จึงเห็นได้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจในเดือนก.ย. รวมถึงการจ้างงานที่ปรับตัวลดลงจากพายุเฮอริเคนนั้นเป็นเพียงผลกระทบแค่ชั่วคราวเท่านั้

• หลังทราบผลประชมุเฟดเครื่องมือ Fed Fund Futures ก็ยังคงชี้โอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ที่ระดับ 85% ขณะที่ปีหน้าเฟดมีโอกาสตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยต่อประมาณ 1 ครั้ง โดยมีโอกาส 60% ที่จะเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย.ปีหน้

• แหล่งข่าววงในเปิดเผยกับทางสำนักข่าวรอยเตอร์ส โดยระบุว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีแผนจะปรกาศเลือก นายเจอโรม โพเวลล์ สมาชิกบอร์ดบริหารของเฟดในปัจจุบันเป็นประธานเฟดคนต่อไป และมีกำหนดการที่จะเปิดเผยอย่างเป็นทางการในวันนี้

• ร่างแผนปฏิรูปภาษีที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นถูกคาดว่าพรรครีพับลิกันจะทำการเปิดเผยต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯในวันนี้ ขณะที่พวกเขาต้องเผชิญกับความขัดแย้งจากการไม่เห็นด้วยตอ่ข้อเสนอการปรับลดภาษีที่ต้องการเสนออยู่

• นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับข้อสงสัยในการทุจริตการเลือกตั้งปี 2016 ร่วมกับรัฐบาลรัสเซีย โดยนายทรัมป์อ้างว่าจำไม่ได้ ว่าได้ออกคำสั่งให้ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศจัดการประชุมร่วมกับนายวลาดิเมีย ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เมื่อปีที่ผ่านมา

ขณะที่รายงานล่าสุดที่ทำเนียบขาวเปิดเผยออกมา พบว่า นายจอร์จ พาพาโดเพาลอส (George Papadopoulos) ที่ปรึกษาของนายทรัมป์ ได้ยอมรับผิดต่อคณะสืบสวนพิเศษตั้งแต่วันที่ 31มีนาคม ที่ผ่านมาแล้ว ว่าตนได้ให้ข้อมูลที่เป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ FBI เกี่ยวกับการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลรัสเซีย

• เมื่อคืนที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามในร่างนโยบายที่จะยอมให้ภาคธนาคารสามารถปฏิเสธความประสงค์ในกระบวนพิจารณาคดีแบบกลุ่ม (Class Action Lawsuits ) จากลูกค้าธนาคารได้ จึงเป็นการทำตามคำสัญญาส่วนหนึ่งเมื่อตอนหาเสียงของเขา ที่กล่าวว่าเขาจะลดข้อจำกัดทางตลาดการเงินของสหรัฐฯ ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวจะมีผลในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ปี 2018

• สมาชิกอาวุโสของพรรครีพับลิกันและเดโมแครต กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ต้องการที่จะผลักดันข้อตกลงพรรคร่วมรัฐบาลให้บรรลุผลเพื่อลดข้อกำหนดทางการเงินบางส่วนที่ได้เริ่มใช้ในช่วงเกิดวิกฤตทางการเงินในปี 2008

• การประชุมของธนาคารกลางอังกฤษหรือบีโออีในวันนี้ถูกคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี แม้ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอ่อนแอ โดยผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่จากรอยเตอร์ส มองว่าบีโออีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.5%

• นายสี จิ้นผิง ประธษนาธิบดีจีน ได้ตอบรับกับข้อความแสดงความยินดีจากเกาหลีเหนือ ที่ส่งมาให้รัฐบาลจีนเนื่องในโอกาสการเปิดการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งล่าสุด โดยนายจิ้นผิง แสดงความประสงค์ที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ

• ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงวานนี้ในลักษณะ Pull back และแรงขายทำกำไร หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี แม้ว่ารายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯรายสัปดาห์ออกมาจะปรับลดลงกว่าที่คาดการณ์ โดยน้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 45 เซนต์ หรือคิดเป็น -0.74% ที่ระดับ 60.49 เหรียญ/บาร์เรล และน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 8 เซนต์ หรือคิดเป็น -0.15% ที่ระดับ 54.30 เหรียญ/บาร์เรล

แหล่งข่าวจาก Gulf OPEC ระบุว่า ทางโอเปกมีแนวโน้มจะรักษาข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตในปัจจุบันไปจนถึงปี 2018 แม้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเผชิญกับอุปสรรคด้านผลผลิตในปีหน้าก็ตาม

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com