• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 01 พฤษภาคม 2560

    1 พฤศจิกายน 2560 | Economic News


  

• ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอคอยผลปประชุมเฟดที่อาจบอกใบ้เกี่ยวกับทิศทางการคุมเข้มทางการเงินในอนาคต โดยดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้น0.1% ที่ระดับ 94.68 จุด แต่ภาพรวมก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 95.15 จุด ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน

อย่างไรก็ดี ค่าเงินดอลลาร์รอคอยการประกาศข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ เพื่อประเมินมุมมองหรือทิศทางเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวในเวลานี้ ขณะที่ก่อนเดินทางเยือนเอเชียของประธานาธิบดีสหรัฐฯนั้น ถูกคาดการณ์ว่าจะทำการประกาศการเลือกประธานเฟดคนต่อไปในวันพรุ่งนี้ ซึ่งนายเจอโรม โพเวลล์ สมาชิกบอร์ดบริหารของเฟดมีแนวโน้มจะเป็นตัวเลือกที่มาแทนตำแหน่งประธานเฟดคนปัจจุบั

ค่าเงินนิวซีแลนด์ในตลาดเอเชียพุ่งสูงขึ้น 0.9% ที่ระดับ 0.6906 ดอลลาร์นิวซีเแลนด์ หลังจากที่ขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์บริเวณ 0.6915 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ หลังข้อมูลอัตราว่างงานภายยในประเทศปรับตัวลงเกินคาดแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี บริเวณ 4.6%

ค่าเงินเยนทรงตัวบริเวณ 113.85 เยน/ดอลลาร์ โดยปรับแข็งค่าลงมาหลังจากที่อ่อนค่าขึ้นไปบริเวณ 114.45 เยน/ดอลลาร์ในวันศุกร์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นและตลาดการเงินของญี่ปุ่นจะปิดทำการในวันศุกร์นี้เนื่องในวันหยุดประจำชาติจึงอาจทำให้นักลงทุนมีการลดสถานะลงก่อนถึงวันทำการดังกล่าว ควบคู่กับท่าทีระมัดระวังก่อนทราบข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯคืนวันศุกร์

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเล็กน้อย 0.1% ที่ระดับ 1.1632 ดอลลาร์/ยูโร และภาพรวมยัยงมีทิศทางอ่อนค่าหลังจากที่ร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนบริเวณ 1.1574 ดอลลาร์/ยูโรในวันศุกร์ หลังจากที่อีซีบีประกาศจะขยายเวลาการเข้าซื้อพันธบัตรออกไปจนถึง ก.ย. ปี 2018

• เมื่อคืนที่ผ่านมาบริษัท CME Group ประกาศจัดเปิดการซื้อขายสัญญา Bitcoin หรือ Bitcoin Future ภายในไตรมาสที่ 4/2017 ส่งผลให้มูลค่าของ Bitcoin เพิ่มสูงขึ้นทะลุระดับ 6,400 เหรียญ ภายหลังจากการประกาศ

โดย CEO ของ CME Group ได้ออกมากล่าวว่า “ท่ามกลางการขยายตัวของกลุ่มนักลงทุนที่ให้ความสนใจในตัว Bitcoin ในฐานะค่าเงินดิจิตอล (Cryptocurrency) เราจึงตัดสินก่อตั้งการซื้อขายสัญญา Bitcoin หรือ Bitcoin Future” พร้อมแสดงความมั่นใจว่าการซื้อขายสัญญา Bitcoin กับ CME Group จะสามารถดำเนินได้อย่างราบรื่นและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

• เฟดถูกคาดการณว่าจะยังคงระดับอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับผู้จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไป ขณะที่ทางเฟดดูมีแนวโน้มจะยังบ่งชี้ถึงภาวะแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และการเข้าใกล้ความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

• รายงานจากรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า ในการเดินทางเยี่ยมเยียนทวีปเอเชียของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ภายในสัปดาห์นี้ นายทรัมป์จะไม่เดินทางไปยังบริเวณชายแดนระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ

• สำนักข่าว Reuters รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯยังคงพยายามหาหนทางที่จะเจรจาสร้างสันติภาพกับเกาหลีเหนือ แม้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะให้การปฏิเสธความพยายามดังกล่าว โดยกล่าวว่าเป็นเรื่องเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์

• รายงานจากสำนักข่าว Reuters ระบุว่า ผลการผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนประจำเดือนตุลาคมประกาศออกมาชะลอตัวลง ท่ามกลางการเข้ามาจัดการกับปัญหามลพิษในอากาศและป้องกันการเก็งกำไรในตลาดโดยรัฐบาลจีน จึงอาจส่งผลให้ตลาดเอเชียมีการเคลื่อนไหวที่เบาบางลง

อย่างไรก็ดี จากผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า ยอดการส่งออกในทวีปเอเชียยังคมีแรงหนุนในทิศทางขาขึ้น แม้จะเริ่มส่งสัญญาณการชะลอตัวหลังจากที่ปรับขึ้นติดต่อกันมาเกือบทั้งปี ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะตลาดเอเชียที่เริ่มอิ่มตัว

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังคงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกยังสามารถขยายตัวอย่างต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 1 ปี แม้เศรษฐกิจจีนจะเริ่มส่งสัญญาณของการชะลอตัวก็ตาม

• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายสั่งซื้อภาคการผลิต (PMI) ของเศรษฐกิจจีนประจำเดือน ต.ค. จัดทำโดย Caixin ประกาศออกมาทรงตัวที่ระดับ 51.0 จุด เท่ากับของเดือน ก.ย. ตรงกับที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ตัวเลขที่ประกาศออกมา เป็นการส่งสัญญาณถึงการขยายตัวของภาคการผลิตจีน แม้จะขยายตัวด้วยอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบ 4 เดือนก็ตาม ขณะที่ Caixin ได้ออกมากล่าวว่า เมื่อนำดัชนี PMIมาพิจารณาร่วมกับการขยายตัวของคำสั่งซื้อ จะเห็นได้ว่าภาคธุรกิจยังสามารถเติบโตได้ดี แต่ยังคงมีแรงกดดันในด้านของอัตราการผลิตในช่วงเดือนข้างหน้า

• นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้รับเลือกให้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย หลังจากชัยชนะในการเลือกตั้งก่อนวาระที่จัดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาของเขา ก่อหน้าการเดินทางมาเยือนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีกำหนดการจะเดินทางเยือนเอเชียอย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลเกียวกับเกาหลีเหนือที่ยังคงมีอยู่

• นายมุน แจ-อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวว่ารัฐบาลเกาหลีใต้จะไม่ยอมรับว่าเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่มีศักยภาพทางนิวเคลียร์ พร้อมยืนยันเกาหลีใต้จะไม่ถือครองอาวุธนิวเคลียร์อย่างเด็ดขาด หลังจากที่สามารถเจรจาขอความร่วมมือกับรัฐบาลจีนในปลดอาวุธของเกาหลีเหนือ

• รัฐบาลอังกฤษเร่งดำเนินการเตรียมเจรจา Brexit กับสหภาพยุโรปต่อภายใต้แนวคิด “ความเสมอภาคของทุกฝ่าย” ท่ามกลางระยะเวลาการเจรจาที่เหลือเพียง 17 เดือน ก่อนถึงกำหนดการถอนตัวออกจากสหภาพอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้เกิดความกังวลกับบรรดาธุรกิจว่าการเจรจาอาจไม่สามารถบรรลุผลอย่างที่ต้องการได้ทันเวลาที่กำหนด

ทั้งนี้ ตัวแทนจากอังกฤษและสหภาพยุโรปจะทำการเจรจากันอีกครั้ง ในวันที่ 9-10 พ.ย. นี้

• การประชุมบีโออีที่จะประกาศผลการตัดสินใจในวันพรุ่งนี้ถูกคาดการณ์ว่าจะเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี โดยผลสำรวจบรรดานักเศรษฐศาสตร์จากรอยเตอร์ส ชี้ว่า บีโออีมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.5% หลังจากที่ปรับลดลงไป 0.25% ในช่วงหลังเกิดการลงประชามติ Brexit

• ผลสำรวจภาคเอกชน ชี้ว่า กิจกรรมภาคการผลิตของญี่ปุ่นประจำเดือนต.ค. ออกมาน้อยลงกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย แต่สัญญาณของภาวะอุปสงค์ยังคงแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยข้อมูลจากสถาบัน Markit/Kikkei เผย PMI ภาคการผลิตของญี่ปุ่นขยายตัวได้ 52.8 จุด

• ยอดขายชิพความจำในเกาหลีใต้ทะยานขึ้นโดยมีทำสถิติการส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ยาวนาน 12 เดือนในเดือนต.ค. จึบ่งชี้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ยังคงก้าวหน้า

โดยยอดส่งออกของเกาหลีใต้ขยายตัวได้ 7.1% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่มูลค่าเฉลี่ยการส่งออกอยู่ระดับ 2.5 ล้านล้านเหรียญ จากระดับ 2.35 ล้านล้านเหรียญในเดือนก.ย.

• ราคาน้ำมันดิบ Brent ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี ท่ามกลางกลุ่มโอเปกและรัสเซียที่ดูจะยังคงรักษาข้อตกลงเพื่อปรับลดภาวะอุปทานตลาด

น้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นมาแถวระดับ 61.15 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่เมื่อวานนี้ปิดปรับขึ้นบริเวณ 61.41 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ทรงตัวบริเวณ 54.65 เหรียญ ซึ่งยังคงใกล้ระดับปิดสูงสุดของเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com